เอิ้นนิดหน่อยพอให้รู้ยังอยู่ดี(กินดี)

ต้องขอโทษ ท่านพี่ ท่านน้อง และมิตรสหาย ที่ผมเหมือนคนไม่นับถือน้ำใจกัน ที่จู่ๆ บทจะมาก็มา บทจะไปก็หายจ้อยไปโดยไม่บอกกล่าวถึงต้นสายปลายเหตุให้ได้ทราบกัน

สืบเนื่องจากเหตุฉุกเฉินเฉพาะกิจน่ะครับ

คือเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา คุณภูมิชาย ล่ำซำ นัดไปกินข้าวเที่ยงที่เดอะ คัพ แถวๆ อาคารเลครัชดา เยื้องๆ ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ตั้งใจจะไปซดซุปหัวหอมแก้แล้งในอกซักถ้วย เพราะซุปของที่นี่ ตะรอนทั้งสามโลกก็ไม่เหมือน ขนมปังอบชีสอีกซักก้อน สลัดผักร็อกเก็ตอีกซักจาน น้ำสลัดสูตรลับเจ้าคุณปู่ของร้านมันแสนจะวิเศษ มื้อนั้น เรียกว่า ชีวาแห่งชีวิตเลยเชียว

 

วางแผนกินไปดิบดี แต่พอนั่งรถไปกลางทาง เกิดเหงื่อแตก เย็นวูบจากท้องจรดหัว ใจสั่น หมดเรี่ยวหมดแรง ผีลมเพลมพัดมาเข้าร่าง หรือวิญญานเจ้าพ่อเจ้าแม่สัมภเวสีมาประทับทรง พยายามนึกหาสาเหตุก็นึกไม่ออก ทนไปอีกซักพัก ไม่ไหว…เวียนหัว ตาลาย ลูกช้างตายแน่

ตัดใจ “ฝากซุปหัวหอมไว้ก่อนเถอะ”

รีบเบนหัวรถจากจุดนัดหมายบึ่งไปโรงพยาบาลแทน หมอถามรู้เรื่อง แต่ผมตอบไม่รู้เรื่อง หมอเลยตัดรำคาญ จับแอดมิทให้นอนดูเพดานห้องเจริญมรณานุสติไปเรื่อยๆ ซะ ๒ คืน กับอีก ๑ วัน

ซดต้มยำไป ๓ ขวด มีเครื่องปรุงเป็นยาฆ่าเชื้ออีก ๒ ขวด ทางเส้นเลือดหลังมือ ไม่ฟินเหมือนซุปหัวหอมเลย

หลายวันก่อน คุณสุริยะใส กตะศิลา ออกเรือน (จำ) มาเยี่ยม เล่าให้ฟังว่า ตอนถูกใส่กุญแจมือคุมตัวเข้าคุก น้ำตาตกในเลย ผมเจอเข้ากับตัวเอง ก็เลยเข้าใจ ถึงไม่ใช่คุก แต่การนอนอยู่ในโรงพยาบาลชนิดไร้ญาติขาดมิตร จะเข้าห้องน้ำแต่ละที ไม่ต่างกับถูกสวมกุญแจมือเท่าไหร่ จะดีกว่าหน่อย ก็ตรงใช้อีกข้างที่ไม่ถูกเข็มเสียบ ลากถุงน้ำเกลือไปได้

ปัญหาที่อยากร้องไห้ฮือๆ ก็คือ ตอนปลดเข็มขัดกางเกงใช้มือข้างเดียว ไม่มีปัญหา ตอนจะสวมกลับเข้าไปใหม่นี่ซี ฮ่อว้อย…แล้วตูจะคาดเข็มขัดยังไงวะเนี่ย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใครที่ชอบพูด อยู่คนเดียวก็อยู่ได้ ไม่เห็นเป็นไร สบายดีซะด้วยซ้ำ ก็จงรับรู้ไว้ มันสบาย ตอนสบาย ถึงตอนไม่สบาย ก็ยังสบาย

แต่ต่อน “เข้าห้้องน้ำ” กูอยากจะตายยยยให้มันรู้แล้วรู้แรด กับสภาพมือข้างเดียว มันไม่สลายเล้ย!

ขืนไปพึ่งพาข้างที่มีสายน้ำเกลือเสียบ ขยุกขยิกมากไป เลือดจากเส้นเลือดมันก็ดันน้ำเกลือย้อนออกมาจนน้ำเกลือกลายเป็นน้ำยาอุทัยหมอมี จะกรี๊ดดดดให้นางพยาบาลได้ยิน ก็กลัวเสียฟอร์ม ชายชาติเสือซะอย่าง ขายหน้าในที่ลับ ดีกว่าเสียหน้าในที่แจ้ง ก็ขลุกๆ ขลักๆ แก้ไขสถานการณ์ผ้าหลุดไปตามอาการ ถึงไม่ได้ มันก็ต้องได้และน่า

เพราะกายสังขารระวิงอยู่กับภารกิจ กิน-อม-ดม-ทา-ใส่-สอด-หยอด-เสียบ คาอยู่กับเตียงอย่างนั้น ผมจึงหมดทางจะสื่อสารกับท่านทางเว็บ เพราะมือข้างเดียวในสภาพหงายท้องโด่เด่ ไม่รู้จะกู่ร้องปองรักให้ก้องโลกาถึงท่านได้อย่างไร

ก็เพิ่งตัวเบา (ความจริงกระเป๋า) ออกจากโรงพยาบาล เมื่อพ้นจากมือแพทย์แผนปัจจบัน ตั้งใจว่าจะต้องไปหาแพทย์แผนอนาคตให้สำรวจตรวจดูซักหน่อยว่าดวงใกล้จะม่อยกระรอกหรือยัง เพราะปี-สองปีมานี้ ทำมาหาเลี้ยงโรงพยาบาลทุกเดือน ถ้าเขาให้ส่งบิลไปชิงโชคได้ละก็ ไม่บ้าน รถยนต์ ตู้เย็น ก็ซักรางวัลไม่น่าพลาด เพราะมีเป็นสิบๆ ชิ้นส่วน

แต่ใจผมถามตัวเองตลอด “ความตายเป็นไง ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า” ในเมื่อยังไม่ยอมตาย ผมก็ไม่มีวันตาย รอได้นั่งรถไฟความเร็วสูงเสี่ยซีพีจากกรุงเทพฯ ไปขึ้นเรือบินที่สนามบินอู่ตะเภาซะก่อน ถึงตอนนั้น ค่อยดูอีกทีว่าจะเอายังไงกับชีวิต เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามถาม

อีกซัก ๕-๑๐ ปีข้างหน้า ประเทศไทย-คนไทย คงจะอยู่ในสภาพสังคมที่ “หญิงร้าย-ชายเลว-เพื่อนลวง” ไม่มีอยู่กันแล้ว

ถ้ามีอยู่ ก็คงอยู่ในสภาพเสียสติ เพ้อพก วันๆ ร้องขายชาติ แทนขายกะปิ น้ำปลา ขายอะไหล่ยนต์ ให้เป็นที่น่าขัน น่าเวทนา ว่ารุ่นใหม่ฟุ้งสร้าน ได้ครองบ้านหลังคาแดง แทนตำแหน่งนายกฯ

คุณ “ผักกาดขาว” ท่านเขียนคม อุดมปัญญา เห็นว่าแฟนๆ ถูกอก-ถูกใจ กรี๊ดสลบกันทุกวัน ผมจึงขอฉวยโอกาสสลบหลบกินเรื่องเพื่อนไปก่อนซักวัน-สองวัน เอากันตามนี้นะครับ

 

 

 

 

Written By
More from plew
“ปิดประเทศ” แล้ว ยังไม่รู้ตัว?
รำคาญหญิง ส.ท.ร.จังเลย! ใครมีเก้าอี้ผุๆ เอาไปบริจาคให้เธอนั่งแก้กระซ่านซักตัวเหอะ เรื่องโควิด “เปิด-ปิด” ประเทศน่ะ
Read More
One reply on “เอิ้นนิดหน่อยพอให้รู้ยังอยู่ดี(กินดี)”
  1. says: Jantavikulbutr Kaeo

    ว่าแล้วเชียว หายไปไหน ส่องหาอยู่หลายช่องทางก็ไม่พบเห็น แอบไปไม่สบายอยู่นี่เอง ป๋านะป๋า รักษาสุขภาพหน่อยนะคะ หนูเห็นป๋านอนดึก (เหมือนหนูเลย แหะ แหะ) เป็นห่วงนะคะ โปรดดูแลสุขภาพร่างกาย แฟนคลับทุกคนไม่ได้อ่านคนปลายซอย จะลงแดงเอา ยังดีนะคะ มีคุณผักกาดหอมเขียนบทความมันส์ให้อ่าน พอทดแทนกันได้บ้าง แต่ปกติตามอ่านคนปลายซอยคู่กับอ่านเอาเรื่องนะคะ คุณป๋า… หายป่วยกลับมาแข็งแรงดังเดิมภายในเร็ววันนะคะ ช่วงนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่ แวะไปกินซุปหัวหอมตามสบายเลยค่ะ

Comments are closed.