โฆษก ศบค. ขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากภูเก็ต ถ้ามีภาวะเสี่ยง จมูกไม่ได้กลิ่น มีไข้ ไปขอรับการตรวจเชื้อโควิด-19 เผยคุมตัวเลขผู้ป่วยใหม่ได้ในหลักเดียว เพราะระบบการควบคุมป้องกันที่ดี

วันนี้ (10 พ.ค.63) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

 1. สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในไทย 

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทย มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 5 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมที่ 3,009 ราย มีผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้น 7 ราย รวมผู้ที่หายป่วยแล้ว 2,794 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตยังคงที่ที่ 56 ราย ยังมีผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 159 ราย สำหรับผู้ป่วยใหม่ 5 รายวันนี้ กลุ่มที่ 1 พบว่า 2 รายแรกมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ โดยรายแรกเป็นผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 44 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ เริ่มมีอาการไอ หายใจลำบาก ถ่ายเหลว วันที่ 5 พฤษภาคม 63 รายที่สองเป็นผู้ป่วยชายไทยอายุ 80 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ กลุ่มที่ 2 มีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้าสู่สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ โดยรายที่ 3 เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 41 ปี กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วันที่ 2 พฤษภาคม 63 รายที่ 4 และ 5 เป็นผู้ชายอายุ 26 ปีและ 27 ปี เป็นนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากปากีสถาน วันที่ 7 พฤษภาคม 63 และมีอาการป่วยขณะที่พักอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้

โฆษก ศบค. รายงานข้อมูลเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการว่า มีรายงานจังหวัดภูเก็ตพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม 4 ราย ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่แยกจาก 5 รายวันนี้ที่เป็นยอดสรุปจากเมื่อเย็นวานนี้ แต่ 4 รายที่ปรากฏเป็นข่าวในโซเชียลมีเดีย เป็นผลที่ออกจากห้องปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จึงยังไม่รวมกับผู้ป่วยใหม่ 5 รายวันนี้ โดยผลจากห้องปฏิบัติการ 4 รายจากจังหวัดภูเก็ตช่วงเช้าวันนี้จะนำรายงานทบทวนวันพรุ่งนี้  ซึ่งภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยเมื่อวานนี้ผู้ที่ติดเชื้อเพิ่ม 1 รายมีประวัติการเดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต ฉะนั้น คนที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต หรือคนที่เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีคนจำนวนหลักหมื่นขอออกจากจังหวัดภูเก็ต ขอให้ดูแลตัวเอง ถ้ามีภาวะเสี่ยงหรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การรับรู้กลิ่นของจมูกไม่ดี มีประวัติมีไข้ หรือเดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต ให้ไปขอรับการตรวจได้ ขณะนี้ที่สามารถคุมตัวเลขได้ในหลักเดียวเพราะระบบการควบคุมป้องกันที่ดี

ด้านการรายงานรับรักษาผู้ป่วยของจังหวัด มีจังหวัดที่ไม่มีการรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 1 จังหวัดคือสมุทรสาคร ทำให้กลุ่มจังหวัดที่ไม่มีการรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 45 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีการรายงานผู้ป่วยมาก่อนยังเป็น 9 จังหวัดเดิม และจังหวัดที่มีการรายงานผู้ป่วยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาคงเหลือ 23 จังหวัด ขอเป็นแรงใจให้ทุกจังหวัดได้ช่วยกัน

2. สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลก

สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลก มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,100,778 ราย อาการหนักประมาณ 47,000 ราย หายป่วยแล้วประมาณ 1,400,000 ราย และเสียชีวิตไป 280,000 กว่าราย โดยอันดับของ 10 ประเทศแรกของจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมวันนี้ยังคงอยู่ในอันดับเดิมเช่นเมื่อวานนี้ สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับที่ 1 มีผู้ป่วยยืนยันสะสมประมาณ 1,300,000  ราย รองลงมา สเปน ประมาณ 260,000 ราย อิตาลี 210,000 ราย ตามด้วยราชอาณาจักร รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน บราซิล ตุรกี และอิหร่าน ตามลำดับ ขณะที่ประเทศไทยก็ยังอยู่ในอันดับที่ 66 ของโลกเช่นเดิม

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 10 ประเทศอันดับแรก อันดับที่ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา แต่ลำดับที่ 2 และ 3 สลับกัน โดยรัสเซียขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 แทนบราซิล ที่ลงไปอยู่อันดับที่ 3 ขณะที่เปรู ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 แทนอินเดียซึ่งลงไปอยู่อันดับที่ 6 รวมทั้งซาอุดิอาระเบียก็สลับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9 แทนตุรกี ที่ไปอยู่อันดับ 10 ทั้งนี้จำนวนของผู้ป่วยรายใหม่จะเป็นการกระจายตัวในอเมริกา อเมริกาใต้ และรัสเซีย ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ที่เกิดขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมง พบว่า อันดับที่ 1 สหรัฐอเมริกา เสียชีวิตไปแล้วถึง 1,422 ราย บราซิล 639 ราย สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) 346 ราย เม็กซิโก 193 ราย โดยมีประเทศอินเดีย รัสเซีย และเปรู เข้ามาใหม่

โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์ข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศว่า สาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ มีรายงานเข้ามาว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้แถลงว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เมื่อวานนี้ (9 พฤษภาคม 2563) มี 18 ราย ในจำนวน 17 รายมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยชายวัย 29 ปี ที่มีประวัติไปเที่ยวคลับและบาร์ย่านอิแดวอนในกรุงโซลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ได้สั่งการให้ติดตามผู้ที่ไปสถานที่ดังกล่าวในวันและเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยรายนี้มาตรวจหาเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะมีมากขึ้นประมาณ 1,500 คน แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อและข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นยอมพบกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้ารับการตรวจ ส่วนนายกเทศมนตรีกรุงโซลได้ออกคำสั่งให้คลับ บาร์ สถานท่องเที่ยวยามราตรีของกรุงโซลปิดโดยไม่มีกำหนด

ทั้งนี้ หลายสำนักข่าวได้ตีความว่าการทำงานของเกาหลีใต้ที่ใช้ตรวจมาก ๆ โดยที่ไม่ต้องปิดเมือง หรือมีปิดเมืองก็น้อยมาก และทุกอย่างดำเนินการโดยปกติ แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องใช้ระบบผสม คือทั้งปิดและตรวจด้วย แต่พอเจอเชื้อก็ต้องปิดอีกเหมือนกัน ซึ่งหลาย ๆ ประเทศก็ได้ทดลองวิธีต่าง ๆ โดยไทยเองก็ไม่ได้แตกต่างเช่นกัน ต้องมีมาตรการที่ต้องเข้มข้นอยู่เสมอ อย่างที่เคยย้ำตลอดว่าการ์ดตกไม่ได้ ซึ่งก็ขอให้ทางเกาหลีใต้ได้มีการควบคุมโรคได้อย่างดี เพราะเกาหลีใต้เป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่ดูแลกันอย่างดี และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาโดยตลอด
3. การดำเนินการตามมาตรการ
มาตรการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ

รายงานข้อมูลสถานการณ์ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักกันตัวในที่กักกันของรัฐจัดให้ (State Quarantine และ Local Quarantine) ตั้งแต่ 3 เมษายน – 9 พฤษภาคม 63 ยอดคัดกรอง 15,699 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 630 ราย กลับบ้านได้แล้ว 6,229 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 568 ราย และพบผู้ติดเชื้อจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 90 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 3 ราย

การปฏิบัติงานตามมาตรการเคอร์ฟิว

รายงานผลการปฏิบัติการจากประกาศมาตรการเคอร์ฟิวประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 63 โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงพบว่า มีผู้กระทำความผิดกรณีชุมนุมมั่วสุม 147 ราย เพิ่มขึ้น 89 ราย ผู้กระทำความผิดกรณีออกนอกเคหสถาน 667 ราย เพิ่มขึ้น 37 ราย โดยเหตุของการชุมนุมมั่วสุม 3 ลำดับแรกคือ ดื่มสุราร้อยละ 69 เล่นการพนันร้อยละ 22 และเหตุอื่น ๆ ร้อยละ 5 วอนให้ทุกคนอย่าทำผิดกฎหมาย เพราะการรวมตัวของคนหมู่มากจะเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อได้

มาตรการการผ่อนปรน

รายงานการตรวจกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต วันที่ 9 พฤษภาคม 63 ได้ทำการตรวจทั้งหมด 16,831 แห่ง พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 16,204 แห่ง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 672 แห่ง เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.73 โดยรายงานการกิจการ/กิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 3 – 9 พฤษภาคม 63 ได้ดำเนินการตรวจทั้งหมด 90,913 แห่ง พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 87,874 แห่ง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 3,039 แห่ง เนื่องจากมีผู้แจ้งมายังสายตรวจ 191 และสายด่วน 1111 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน เหตุพบผู้ไม่ปฏิบัติเป็นจำนวนมาก ทำให้ตรวจพบผู้ที่ไม่ปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงระบบตรวจสอบเข้มแข็งขึ้น ด้วยการที่พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในระบบตรวจสอบด้วย ส่วนสถานประกอบการณ์ต่าง ๆ ที่ปฏิบัติไม่ตรงมาตรการการป้องกันจะได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ จึงขอให้ปฏิบัติให้ตรงตามมาตรการด้วย

โฆษก ศบค. เผยสาเหตุที่มีการตรวจกิจการต่าง ๆ ที่ได้รับการผ่อนคลาย เนื่องจากออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ โดยการตรวจสอบในประเด็นมาตรการหลัก 5 ข้อ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) จะเป็นผู้ทำการตรวจสอบ กรณีมาตรการเสริม ทางมหาดไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยแบ่งออกเป็น ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) จังหวัด ศปก.อำเภอ และ ศปก.ตำบล ขอชื่นชมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการที่กำกับติดตามให้เป็นไปตามมาตรการ ในส่วนคู่มือการปฏิบัติฯ ซึ่งจะออกตามมาตรการของกระทรวงต่าง ๆ จะให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น ๆ เป็นผู้รับผิดชอบ

Written By
More from pp
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สกัดรถลำเลียงยาเสพติดลงใต้ ยึดของกลาง เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 150 กก. และคีตามีน น้ำหนักประมาณ 250 กก.
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายธวัชชัยฯ และ น.ส.ปรียานุชฯ ในข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1...
Read More
0 replies on “โฆษก ศบค. ขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากภูเก็ต ถ้ามีภาวะเสี่ยง จมูกไม่ได้กลิ่น มีไข้ ไปขอรับการตรวจเชื้อโควิด-19 เผยคุมตัวเลขผู้ป่วยใหม่ได้ในหลักเดียว เพราะระบบการควบคุมป้องกันที่ดี”