น้ำท่วม “อย่าเอาแต่ดู” ต้องทำ

น้ำท่วมเป็น “น้ำเย็น” แต่ผู้คนกลับ “ร้อน” ยังไงก็ไม่รู้?
หรือเพราะ……
เดือนนี้ มีคดีสำคัญๆ หลายคดี ถึงวาระศาลจะตัดสินก็ไม่รู้นะ จึงมีคนออกอาการ “ร้อนใน”

SEREE NEWS เขาลงข่าวไว้วันก่อน ว่า
“พุธที่ ๑๑ ก.ย.นี้ ศาลจังหวัดพัทยา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา
ในคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บุกล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท เมื่อปี ๒๕๕๒

คดีนี้ ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุก ๔ ปี จำเลยฎีกา
จำเลยในคดีบุกล้มประชุมอาเซียนชัมมิท จำนวน ๑๓ คนนั้น ประกอบด้วย
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวรชัย เหมะ, นายวันชนะ เกิดดี
นายพิเชฐ สุขจินดาทอง, นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์, นายนพพร นามเชียงใต้,
นายสำเริง ประจำเรือ, นายสมยศ พรหมมา, นพ.วัลลภ ยังตรง และ สิงห์ทอง บัวชุม

นอกจากนี้ วันจันทร์ที่ ๒๓ ก.ย.นี้
ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ “พลเอกเปรม ติณสูลานนท์”
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ๔ ปี ๔ เดือน
ต่อมา ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษเหลือจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน
จำเลยฎีกา “สู้คดี”
คดีนี้มีแกนนำนปช.ตกเป็นจำเลย ๔ คน ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท.

ครับ……..
ผมความจำเออเร่อร์ อ่านเจอก็เลยลอกมาแปะให้ท่านช่วยกันจำแทนผม ถึงวันนั้น ผลเป็นอย่างไร บอกด้วยละกัน?

อีสานหลายจังหวัดยังน้ำท่วม
ช่วงนี้ จึงมีคนขวักไขว่ขึ้น-ล่อง บ้างเอาของไปแจก บ้างไปช่วยชาวบ้าน
บ้างไปเอาหน้า ไปหาเสียงไม่พอ ยังเอาตัวเองไปเป็นภาระชาวบ้านเขาด้วย

บ้างไปอาศัยความไม่รู้ของชาวบ้าน ปั้น “ข้อมูลเท็จ” ฝังเข้าเซลล์สมอง เพื่อให้ชาวบ้านเกิดทัศนคติปฏิปักษ์ต่อบ้านเมืองและเกลียดชังรัฐบาล

บ้างก็ ชาวบ้านกำลังคันตีนจากย่ำน้ำ แทนจะช่วยเกากลับไปบอก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ น้ำจึงท่วม-จึงแล้ง
จะไม่ให้ท่วม ไม่ให้แล้ง ง่ายนิดเดียว……..

ลงถนน ขับไล่ประยุทธ์ แก้รัฐธรรมนูญ ให้ธนาธรเป็นนายกฯ เอาทักษิณ-ยิ่งลักษณ์กลับมา
แห้งหายคันตีนทันที!

ดูให้สนุก ก็สนุกดี……..

เรื่องน้ำสำหรับภาคอีสานนี้ ควรมองด้วยความเข้าใจว่า “น้ำท่วม-น้ำแล้ง” เป็น “อำนาจธรรมชาติ” เหนือมนุษย์
แต่การจะทำอย่างไร……….
ให้น้ำที่มีมามากมายไม่หายไปหมด จัดหาที่อยู่-ที่เก็บ พอให้มีเหลือหล่อเลี้ยงคำว่า “หน้าแล้ง” ไม่ให้แห้งโหยเกินไปนัก

นี่..เป็น “อำนาจมนุษย์” ในธรรมชาติอำนวย!

ผมเห็นนายกฯ ประยุทธ์ลงไปดูแลทุกข์-สุขชาวบ้านยามน้ำท่วมมา ๒-๓ หน รวมทั้งเมื่อวาน (๙ กย.๖๒) ที่อุบลฯและยโสธร

จำได้ว่า ครั้งที่แล้ว นายกฯ ไปแนะชาวบ้านเรื่องแหล่งกักเก็บน้ำ และการทำประมงไปในตัว

ท่านพูดในนัยที่มนุษย์ทั่วไป ฟังแล้วก็เข้าใจเจตนาและรูปแบบที่จะทำ แต่ปรากฏว่า มีสื่อแปลงสารเป็นว่า
น้ำท่วม นายกฯ ให้ทำประมง!
แล้วคณะพรรคแปลงสาร ก็ต่อยอด วิพากษ์-วิจารณ์ ในทางเสียดสี-ถากถางนายกฯ กันสนุกสนาน

บ้านเมืองไปยากนะ …….
เมื่อมีสื่อ มีนักวิชาการ และนักการเมือง จ้องแต่ “คิดต่ำ-ทำต่ำ” อะไรที่จะเป็นมรรค-เป็นผลกับชาวบ้าน ควรช่วยกันคิด

จะติ-จะติง ก็ควรติ-ติง พร้อมเสนอแนะทางควรทำ
ไม่ใช่จ้องหาช่องบิดให้ผิด เพื่อจะได้ปั้นเป็นเรื่องด่า

ผมก็ไม่ใช่ผู้วิเศษ ……..
แต่พอเหลือยาง ไม่อยากให้ใครด่า “สื่อสันดานกา” เสียถึงสถาบันรวม

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนายกฯประยุทธ์นะ ว่าจะทำวิธีไหน กักเก็บน้ำที่หลากท่วม ให้คงไว้ใช้ในยามแล้งได้บ้าง?

ไม่ใช่คิดแต่เฉพาะหน้า น้ำท่วม ก็ตะบุ้ยให้แห้งตะพึด โดยไม่คิดต่อว่า
แล้ว พรุ่งนี้..ปะรืนนี้ น้ำแห้ง อีสานแล้งอีก จะทำยังไง?

ทำฝนเทียม ให้ทหารพัฒนามาขุด มาทำประปาสนาม
ทำเป็นลิงแก้แห ผลาญงบไปแต่ละมื้อ-ละคราว
โดยไม่มีแผนบริหาร-จัดการ ด้วยวิสัยทัศน์ผู้คิดชนะทางถาวรเลยหรือ?

เห็นโฆษกรัฐบาลบอกว่า ขณะนั่งเครื่อง นายกฯ กางแผนที่สำรวจสภาพภูมิศาสตร์ ดูผังเมืองตลอด
ก็ควรเป็นเช่นนั้น น้ำท่วม ยังไงๆ ก็ดีกว่าแล้งจนไม่มีน้ำมาเลยซักหยด เมื่อมีน้ำมา ก็ต้องทดเป็นความดีใจ เพื่อคิดหาแนวทาง “กักเก็บน้ำ” นั้นไว้ให้ได้มากที่สุด

เหมือนเล่นไฮโล ตำรวจมา คนสติแตก โดดหนีท่าเดียว แต่คนมีสติ ได้สตางค์ มึงหนี กูคว้าเงินกองกลางยัดกระเป๋า
แล้วค่อยเผ่นก็ยังทัน!

นายกฯ คงเห็นผังเมือง และมีข้อมูลทางภูมิศาสตร์พื้นที่แล้ว ฉะนั้น ก็อยู่ที่การระดมสมอง-ประสบการณ์ แต่อย่าลืมปราชญ์ชาวบ้านแต่ละพื้นที่ด้วย ในการหาข้อสรุป
ใช่…ทำประมงด้วย อย่างที่เบิ้ลกันสนุกสนานนั่นแหละ

ประมงในที่นี้ คือ…….
ในรูปแบบ “เกษตรพอเพียง” ตามแนว “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๙ นั่นแหละ

“หนอง-บึง” ในอีสาน ต้องระดม “ลอก-ขุด” เอากันให้จริงตามหลักวิชาการ ให้ระบือไปทั้งอีสานเลย
ตรงไหนลุ่มต่ำ ฝนตกมาก-ตกน้อย เป็นต้องท่วมประจำ ก็แปลงเป็นแก้มลิง วางแบบแปลนขุดทำกันเลย
และถามความสมัครใจชาวบ้าน ใครมีนา ๒๐ ไร่ขึ้นไป ยามแล้ง มันแล้งนัก
แบ่งซัก ๒-๓ ไร่ ขุดสระ-ขุดบ่อ ตามแนวเกษตรพอเพียง กักเก็บน้ำ เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด-ไก่ ปลูกผัก-ปลูกหญ้าด้วย จะเอามั้ย?

รัฐบาลมีงบขุดให้ กรมชลฯ ทหารพัฒนา องค์กรท้องถิ่น มีพร้อมเพื่อทำอยู่แล้ว

เนี่ย…สร้างโมเดลตัวอย่างให้ชาวบ้านเห็น แรกๆ อาจไม่มีใครอยาก แต่พอเห็นจากตัวอย่างได้ผล ก็จะค่อยๆ ตามกันเอง

ประเด็นสำคัญ สังคมไทย รัฐบาลต้อง “คิดนำ-ทำนำ” ยืนระยะให้ต่อเนื่อง แล้วตามด้วยระบบ “สหกรณ์ฯ”
สำเร็จแน่!

ของอย่างนี้ จะให้เห็นผลปุบปับไม่ได้ ข้อสำคัญคือ การเริ่มต้น เมื่อมีการเริ่มต้น อดทนต่อเนื่อง เป้าหมายบรรลุแน่
แต่..อย่าทิ้งปราชญ์ท้องถิ่น ในทุกโครงการ ต้องฟังเขาด้วย

เมื่อเตรียมแหล่งรับน้ำแล้ว พอน้ำท่วมอย่างตอนนี้ ก็ลำบากแหละ
แต่เป็นลำบากที่ไม่สูญเปล่า
เพราะมันมี “ความสะใจ” อยู่ในนั้น สะใจว่า เออ…ท่วมไปเถอะ เดี๋ยวจะขังซะให้เข็ด!

พอกองทัพน้ำล่าถอย………
ก็ต้องเสียไพร่พลน้ำส่วนหนึ่งทิ้งไว้ให้เรา ตาม “บ่อ-บึง-แก้มลิง” ที่ขุดล่อไว้!
เรื่องเช่นนี้ ไม่เกินความสามารถวิทยาการและมันสมองมนุษย์วันนี้หรอก ถ้ามีตัวนำ ด้วยศักยภาพคนรัฐของเรา ผมเชื่อร้อยเปอร์เซนต์
ถ้าเขาทำ จะทำได้ดีเหนือกว่าที่คิดนี้ร้อยเท่า!

บ้านเมืองเรา สังเกตมั้ย ไม่ว่าใครคิดทำอะไร ต้องมีคนบอกว่า ไม่ดี..ไม่ใช่..ไม่ถูก เรียกว่าค้านแม่งทุกเรื่อง
แต่ถ้าถามว่า แล้วอย่างไหน ที่ดี-ที่ใช่-ที่ถูก ช่วยบอกซิจะได้ทำ
กูก็ไม่รู้……
กูเป็นแค่ ๒ อย่าง “วิจารณ์-ค้าน” เท่านั้นเอง!

 

ภาพ:เพจไทยคู่ฟ้า

Written By
More from plew
“เฟกนิวส์” ในสำนักข่าวฝรั่ง
ก็แปลก………. ไม่ว่า ยาจก วณิพก ขอทาน เศรษฐี ผู้ดี คนมีศักดิ์ และไพร่ ทำไมถึงกลายเป็นคนพูดและฟังภาษาคนและภาษาไทยไม่รู้เรื่องไปได้ก็ไม่รู้?
Read More
0 replies on “น้ำท่วม “อย่าเอาแต่ดู” ต้องทำ”