ไทย-คอซอวอพร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน หวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น

10 มิ.ย.63 เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมุฮัมมัด บราชโชริ (H.E. Mr. Muhamet Brajshori) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคอซอวอประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสรับเข้าตำแหน่งใหม่ สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ รู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่า ไทยเป็นประเทศแรกที่เอกอัครราชทูตฯ ได้รับมอบหมายให้มาประจำการ และเลือกเปิดสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคอซอวอในประเทศไทย เป็นแห่งแรกในอาเซียน และแห่งที่สองในเอเชีย นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยให้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ และภูมิภาคพัฒนาและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมการดำเนินนโยบาย “Digital Kosovo” และ “Interfaith Kosovo Initiative” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยไทยสนใจที่จะแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ในเรื่องนี้จากคอซอวอ

ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวรู้สึกยินดีที่ได้มาประจำการที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรก พร้อมทำหน้าที่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคอซอวอได้ฝากความปรารถนาดีมายังนายกรัฐมนตรีและประเทศไทย พร้อมหวังว่าจะได้เยือนไทยในเร็วนี้

โดยเอกอัครราชทูตฯ กล่าว คอซอวอสามารถเป็นตลาดการค้าและการลงทุนสำหรับไทย รวมทั้งเป็นช่องทาง/ฐานกระจายสินค้าไทยเข้าสู่ประเทศใกล้เคียงได้ ซึ่งคอซอวอมองไทยว่าเป็นศูนย์กลางการค้าในอาเซียน เช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและคอซอวอมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นตลอด 7 ปีนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และมีพลวัตที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีหลังนี้ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูง และการจัดทำความตกลงต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการขยายความร่วมมือระหว่างกันต่อไป ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศยินดีที่จะส่งเสริมและแลกเปลี่ยนความร่วมมือในสาขาที่ต่างมีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การติดต่อระดับประชาชน เป็นต้น

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมรัฐบาลคอซอวอที่มีมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัด โดยไทยพร้อมร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสาธารณสุข รวมทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน



Written By
More from pp
GULF เผยกำไรจากการดำเนินงานปี 2564 เท่ากับ 8,812 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% เทียบกับปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังโรงไฟฟ้า IPP ใหม่เปิดดำเนินการ และผลตอบแทนจากการลงทุนใน INTUCH
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) เท่ากับ 2,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,488 ล้านบาท หรือ 120% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 1 และหน่วยที่ 2 (รวม 1,325 เมกะวัตต์) ในเดือนมีนาคม และตุลาคม 2564 และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH จำนวน 1,093 ล้านบาท...
Read More
0 replies on “ไทย-คอซอวอพร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน หวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น”