“สัปปายะสภา” กับ “สส.กะเทย”

ที่สุดแห่ง “ความเสื่อม” แล้วจริงๆสำหรับบทบาทสส.ชุดนี้

โดยเฉพาะพวก “รักร่วมเพศ” จากพรรคอนาคตใหม่

เมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๒) เห็นแล้ว

………อ้วกจะแตก!

“นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์” สส.กะเทย ผู้เคยฉาวด้วยเรื่องกะเทยทวงสิทธิ์บวชพระ จัดฉากลามก-จกเปรต ให้ ๒ กะเทย แสดงบทหื่นกระหาย กอดรัดฟัดจูบปากโชว์ ชนิดไม่แคร์ผีสาง เทวดา หมา มนุษย์ ทั้งปวง

ประกอบการยื่นหนังสือ กมธ.ฯ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อคุ้มครองการอยู่กินของพวกรักร่วมเพศ

จะดูดปากกัน หรือติดสัดกันที่ไหน ก็ไม่มีใครว่า

แต่การมาใช้ “สัปปายะสภาสถาน” เป็นเวทีโชว์อุบาทว์อย่างนี้

มันอัปรีย์-จัญไร เกินรับได้จริงๆ!

จะรักร่วมเพศ หรือคนละเพศ ก็เรื่องตูด-ก้นของแต่ละคน ว่ากันไปตามสบาย ไม่ว่า-ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ตรงว่า ………..

“มนุษย์ต่างกับสัตว์” ตรงที่มนุษย์มีสำนึก รู้จักแยกแยะ รู้สถานที่ รู้กาล-รู้เวลา รู้อะไรควร-ไม่ควร

มนุษย์มีทั้งความอายและความละอาย
แต่สัตว์เดรัจฉานไม่มี

ดังนั้น การที่สส. “ธัญวัจน์” นับ ๕..๔..๓..๒..๑ แอ๊กชั่น….

แล้วให้ ๒ ตุ๊ด จูบปากกันประกอบแถลงข่าวในรัฐสถา แพร่เป็นภาพข่าวจัญไรแห่งปีอย่างนั้น

ทั้งคนแสดง และคนจัด อยู่ในประเภทมนุษย์หรือสัตว์ ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหม?

สส.กะเทยผู้นี้ ออกมาอ้างว่า…….

“เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่มีการเตรียมการไว้ และเกิดขึ้นหลังจากแถลงข่าวเสร็จ”

แสดงถึงกำพืดพรรคแห่งการตะแบงจริงๆ!

ก็เห็นจากภาพข่าวในจอโทรทัศน์โต้งๆ ไม่คาดคิดได้ไง ไม่เตรียมการได้ไง ในเมื่อภาพมันฟ้องชัด

ว่าสส.กะเทยของอนาคตใหม่ผู้นั้น เป็นผู้กำกับการโชว์และกลุ่มวิปริตผิดเพศเป็นฝ่ายเชียร์

แม้กระทั่ง “นางมุกดา พงษ์สมบัติ” สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่เป็นผู้รับหนังสือจากกลุ่มนี้

ขณะ ๒ ตุ๊ดโชว์อุจาด………

นางก็ผสมกลมกลืนอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีท่าทีถึงสำนึกภาวะที่จะห้ามปราม

ตรงกันข้าม ประธานกมธ.ฯ นางนี้ กลับยิ้มแย้ม แสดงท่าทีพออก-พอใจ เสียด้วยซ้ำ

นี่ถ้า ไม่มีเสียงใครก็ไม่รู้ ที่ตะโกนว่า พอแล้ว..พอแล้ว

เจ้า ๒ ตุ๊ดนั่น คงยังไม่แยก

ป่านนี้ ดูดจากปากยันถึงดากไปแล้วก็ได้!

รัฐสภา จากภาษีประชาชนเป็นหมื่นๆล้าน รวมค่าที่ดินริมเจ้าพระยา เบ็ดเสร็จสัปปายะสภาสถาน มูลค่าเป็นแสนล้าน!

แล้วให้พวกแสนทรามเข้าสิงในฐานะสส.ปู้ยี่ปู้ยำทั้งสถานที่ ทั้งใช้บทบาท-หน้าที่ไปกับเรื่องเหลวไหลในหมู่ตนอย่างนี้น่ะหรือ?

ผมอยากขอร้องไปยังสื่อทั้งหลาย…..

เสนอข่าวนี้ ไม่มีปัญหา แต่กับเรื่องภาพ ๒ ตุ๊ด แสดงบทอัปปรีย์สีกบาลนั้น

ถ้าเป็นไปได้……..ขอเถอะครับ

ขออย่านำมาแพร่ภาพออกจอ ออกเว็บในวันต่อๆ ไปอีกเลย

ผมไม่ใช่คนดัดจริต และไม่ใช่คนดี แต่เห็นแล้วขยะแขยง อุจาดชาติชั่วเกินรับได้ ไม่อยากให้ปรากฏต่อสาธารณะอีก

รัฐสภาไม่เสื่อม………

แต่ตัวบุคคลที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะเสื่อมไปด้วยกันทั้งหมด กับบทบาทยุค “กะเทยเริงสภา”

และภาพบัดสี-บัดเถลิงนั้น ถ้านำเผยแพร่ประกอบข่าวบ่อยครั้งเท่าไหร่
จะย้อนศรกลายเป็นภาพส่งเสริม “เห็นดี-เห็นงาม” ให้ “ทำตามกัน” ในสถานที่สาธารณะมากขึ้น

เพราะทำแล้วดัง!

ผมเห็นใจประธานรัฐสภา “นายชวน หลีกภัย” เพราะแน่นอน รัฐสภามันอยู่ในความรับผิดชอบของท่าน

ก็ไม่ทราบนะว่า นอกจากคุณสมบัติคนจะมาเป็นสส.ตามรัฐธรรมนูญแล้ว
กับสส.ที่พฤติกรรม “ต่ำมาตรฐาน” มีภาพลักษณ์ การกระทำไม่สมภาวะบุคคลในสถาบันนิติบัญญัติแห่งชาติ ควรจะมีมาตรการเป็นบทบัญญัติ “เพื่อถอดถอน” ได้บ้าง จะดีหรือไม่?

การแต่งกายเหมือนกัน พูดกันตรงๆ สส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้งตรงเพศ ไม่ตรงเพศ

บางคนทำเป็นไม่เข้าใจคำว่า “แต่งกายสุภาพ”

ยึดคำว่า สิทธิเสรีภาพ จะแต่งยังไงก็ได้ตามใจกู

จึงเห็นประจำ ไปประชุมสภา แต่งยังกะไปแสดงแฟชั่น ไปเป็นนายแบบ-นางโชว์

หรือไม่ก็บ้าๆ บอๆ อย่างนายอะไรล่ะ อยู่ๆ ก็เอาหมวกดาวแดงมาสวมไปสภา

ยิ่งชุดสส.กะเทย “ธัญวัจน์” กะอีกบางคนเมื่อวานด้วยแล้ว

ล่อชุดลายตะกวด สวมหมวกซะด้วย ทั้งที่อยู่ในสภา!

มันเรื่องของจิตสำนึก เรื่องของผู้มีวุฒิภาวะ จะต้องให้ประธานรัฐสภา มาตรวจ มาชี้-มาไช เหมือนครูชั้นประถมกับนักเรียน มันก็ไม่ใช่

ในเมื่อโตเกินควายกันแล้ว ควรต้องรู้ตัวเองบ้าง!

ผมก็เห็นบทบาทสส.มาตั้งแต่สมัยปลายยุคจอมพลป. ยุคจอมพลถนอมเรื่อยมา กระทั่งยุคยิ่งลักษณ์ก็เถอะ

ไม่มียุคไหน “น่ารังเกียจ” เท่ายุคนี้

และไม่เคยปรากฏว่ายุคไหนเขาจะใช้สถานะ “ประธานกรรมาธิการฯ” ในลักษณะ “ลิงได้แก้ว”

แทนที่จะใช้เพื่อชำระ-สร้างสรรค์ “เรื่องหลัก-เรื่องใหญ่”

แต่กลับใช้ลักษณะ “คนป่ามีปืน”

ได้อำนาจแล้ว ก็ใช้เพื่อไล่ล่าไปกับเรื่องเหลวไหล หยุมหยิม ไร้สาระ
หนักไปทางเพื่อพวก เพื่อประโยชน์ตน เพื่อล้างแค้น-ล้างบัญชี อย่างที่กรรมาธิการฯบางคณะใช้อยู่ขณะนี้

ลองไล่เลียงดูซี……..๗-๘ เดือน ตั้งแต่เปิดสภามา มีอะไรที่มีสาระเป็นเนื้อหนังกับผู้คนและบ้านเมืองจากการทำหน้าที่ของสส.ชุดนี้

ตั้งแต่เปิด ก็หมกมุ่นอยู่ ๒-๓ เรื่อง
-ไล่ล่านายกฯประยุทธ์
-ถวายสัตย์ฯ ครบ-ไม่ครบ
-แก้รัฐธรรมนูญ ปูทางเปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน

มีเท่านี้……..

อ้อ มีอีกอย่าง

คอยขัดขวางและคอยใส่ร้าย กับทุกเรื่องที่รัฐบาลทำในทาง “สร้างบ้าน-สร้างเมือง” สู่ทางอนาคต

จุดรับเรื่อง-แถลงข่าวที่รัฐสภานั้น ผมว่า ทางรัฐสภาควรจัดระเบียบ วางกรอบเกณฑ์ สำหรับคนที่จะใช้สถานที่ตรงนี้ให้รัดกุมกว่านี้

เท่าที่เห็น บ่อยครั้ง ปล่อยให้กเฬวรากข้างในนำกเฬวรากข้างนอกเข้ามาแสดงบทบาท

อาศัยโลโก้และสถานที่รัฐสภาประกอบฉากถ่ายทำเป็นภาพข่าว

หลายเรื่อง เป็นเหตุ “ป่วนเมือง” เป็นแก๊งเดียวกัน ก็ใช้สถานะสส.-สถานะกมธ.ดึงเข้ามาเป็นเรื่องการเมืองระบบรัฐสภา

อย่างเมื่อวาน เห็นกมธ.ชุดหนึ่ง สะแอ๋งจะเรียก ผบ.ตร., ผบช.น, ผู้กำกับ และใครต่อใคร ไปให้ปากคำ หาว่าขวางมือ-ขวางตีน การวิ่งไล่พ่อมัน
เรื่องขี้หมาแห้งอย่างนี้ ถึงขั้นกรรมาธิการฯ สภาผู้แทนต้องเรียกผบ.ตร.ไปให้ปากคำ

บ้านนี้-เมืองนี้ วันนี้ กรรมาธิการฯสภา เป็น “พ่อทุกสถาบัน” ไปแล้วอย่างนั้นหรือ?

ท่านประธานรัฐสภา “ชวน หลีกภัย” น่าจะสอบสวนให้เป็นแบบอย่างนะครับ

ว่ากรณี นำตุ๊ดมาดูดปากโชว์ในสภา เป็นการร่วม, ชักนำ, รู้เห็น, สนับสนุน ของสส.กะเทย “ธัญวัจน์” หรือไม่?

ต้องสอบ “นางมุกดา พงษ์สมบัติ” ประธานกมธ.ฯ ซึ่งร่วมอยู่ในฉากนั้นด้วย

ว่าปล่อยให้เกิดเหตุบัดสี รัฐสภากลายเป็นฟลอโชว์ลามก-จกเปรตไปได้อย่างไร?

และ ๒ ตุ๊ด นั้น แสดงเองฉับพลัน
หรืออยู่ในแผนงานที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศภาคประชาชน เตรียมมา เพื่อจูบประกอบการยื่นหนังสือ?

เข้าข่ายอนาจารในสถานที่ราชการนะ!

และจากเหตุนี้……….ใครจะมาแถลงข่าว มายื่นหนังสือ มาถ่ายทำหวังเป็นข่าว

ต่อจากนี้ไป เจ้าหน้าที่รัฐสภา ควรให้แจ้งล่วงหน้า ต้องสกรีนคนนอกที่เข้ามา

รัฐสภา ไม่ใช่ของสส.ที่ใครอยากทำอะไรก็ได้นะ

มันของชาติ ของผู้เสียภาษีทุกคน
และใช่ว่าแค่ค่าก่อสร้าง กระทั่งเงินเดือน ค่าข้าวปลาอาหารเลี้ยงวันประชุม กระทั่งค่าสายยางฉีดก้นในห้องน้ำ

นั่นก็มาจากแต่ละหยดเหงื่อชาวบ้านทั้งนั้น

แล้วพวกคุณทำอะไรกันทุกวันนี้…หือ?

ไม่สร้างแล้วยังทำลาย

อยากได้ประชาธิปไตยกันจนสั่นดิ๊กๆ
พอได้แล้ว เอาไปทำอะไรที่มันเป็นประชาธิปไตย เพื่อประชาชน โดยประชาชน ของประชาชนบ้าง?

พวกคุณมัน “ไม่ใช่คน” ….เป็น “ท่านผู้ทรงเกียรติ” น่ะ!

Written By
More from plew
ว่าด้วย “ล้วงลูก” ของรัฐมนตรี
พูดเรื่องย้ายผอ.รพ.ขอนแก่น “นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล” มา ๒ ครั้ง วันนี้ คงต้องอีกสักครั้ง เป็น “บทพิสูจน์” ในทางบริหาร-จัดการของรัฐบาล ที่ประกาศ...
Read More
0 replies on ““สัปปายะสภา” กับ “สส.กะเทย””