รมช.มนัญญา เดินหน้ามอบนโยบายแบนสารเคมีเกษตร ก้าวแรกที่ชัยนาท

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายแบนสารเคมีการเกษตร พร้อมด้วยคณะทำงาน และนางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยมีนายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดชัยนาท ให้การต้อนรับ  ณ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 5 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติการแบนสารเคมีการเกษตร ให้กับหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร ว่าตามนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย

ในการนี้ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้คลอไพริฟอส และพาราควอต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามมิให้ผลิต การนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน หรือการมีไว้ในครอบครอง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 จึงขอให้เกษตรกร ผู้ค้าผู้จัดจำหน่าย ส่งคืนสารดังกล่าว  ในส่วนไกลโพเซต ให้มีการจำกัดการใช้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ดูแลและรวบรวมดำเนินการต่อไป

ด้านนางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดี กรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) ผศ. 2563 โดยความเห็นของคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ออกประกาศไว้ ให้วัตถุอันตราย พาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4

กรมวิชาการเกษตร ได้ให้ความสำคัญตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแนวทางการบริหารจัดการ พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เมื่อประกาศเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (วอ.4)  ใบทะเบียน ใบอนุญาตผลิต และใบอนุญาตครอบครองซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จะสิ้นสุดทันที ดังนั้น ผู้ที่มีพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ไว้ในครอบครองก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรมวิชาการเกษตร ดังนี้

⁃ เกษตร ส่งคืนให้ร้านที่ซื้อมา ภายใน 90 วัน (ไม่เกิน วันที่ 29 สิงหาคม 2563)

⁃ ร้านค้าจัดจำหน่าย ส่งคืนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า และแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใน 120 วัน (ไม่เกิน วันที่ 28 กันยายน 2563)

⁃ ผู้ผลิตและผู้นำเข้า แจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรเพื่อรวบรวมแจ้งปริมาณวัตถุอันตรายตามแบบ วอ./วก.5 ภายใน 270 วัน

⁃ (ไม่เกิน วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564)

จากนั้นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการได้กำหนดวัน วิธี และสถานที่ในการทำลายโดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมการทำลาย

นอกจากนี้ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ เกี่ยวกับการจัดการสารคลอร์ไพริฟอส และพาราควอต ของผู้ครอบครองตามประกาศกระทรวงอุตสหกรม ให้ปฏิบัติป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัด เนื่องจาก ผู้ที่ฝ่าฝืนให้ระวังโทษ จำคุกไม่กิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมทั้งได้ดำเนินการสร้างการรับรู้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ฏิบัติงาน เกษตรกรผู้ใช้ ผู้รับจ้างพ่น ผู้ขาย ผู้นำเข้าผู้ส่งออก ผ่านช่องทางการรับรู้ต่างๆได้แก่ หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซด์ของกรมวิชการเกษตร การประชุมร่วมกับหน่วยงานจังหวัดและพื้นที่ ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาการกษตร (ศพก) และผ่านทางสารวัตรเกษตรอาสา เป็นตัน

ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติสำหรับสารคมีเกษตรที่กำหนดให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และวัตถุอันตรายที่จำกัดการใช้ แก่สารวัตรกษตรและเจ้าหน้าที่ที่กี่ยวข้องในเครือข่ายของ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 กรมวิชาการเกษตร

ซึ่งในส่วน สวพ.5 มีพื้นที่รับผิดชอบอยู่ในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก ครอบคลุม 19 จังหวัด มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการควบคุมตาพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย7 หน่วยงาน กับอีก 1 กลุ่มงาน มีบุคลากรที่เป็นสารวัตรเกษตร 16 คน เป็นผู้ช่วยสารวัตรเกษตร 28 คน

ข้อมูลความก้าวหน้าของสารเคมีดังกล่าว ในเดือน พ.ค. ในเขตที่ 5 มีจำนวน 3,158 ร้าน (ทั่วประเทศ 16,005 ร้าน) ร้านจำหน่ายสารเคมี 3 สารในพื้นที่ 19 จังหวัด มีปริมาณพาราควอต 700.43 ตัน (8,562.64 ตัน) มีปริมาณคลอไพริฟอส 103.73 ตัน (697.08 ตัน) และมีปริมาณไกลโฟเชต 528.42 ตัน (9,019.10 ตัน)

 



Written By
More from pp
“ดร.นฤมล” คาดบาทอ่อนต่อหลังเฟดขึ้นดบ. ค้านแทรกแซงแนะเอกชนป้องกันความเสี่ยง
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์Facebook ส่วนตัวระบุถึง ความเคลื่อนไหวการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Federal Open Market Committee (FOMC)...
Read More
0 replies on “รมช.มนัญญา เดินหน้ามอบนโยบายแบนสารเคมีเกษตร ก้าวแรกที่ชัยนาท”