ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
อึดอัดมากกกก!
คุณวิน วีรชัย ที่เป็นทั้งนักร้อง นักจัดรายการวิทยุ นักพากย์ นักเขียน นักแสดง ผู้จัดโชว์ พิธีกร พนักงานโรงแรม และ พ่อค้า จึงได้ระบายลงเฟซบุ๊กส่วนตัว..
“ปกติผู้ติดเชื้อเป็น 0 มาจะร่วมเดือน มันหมายถึงจำนวนผู้ติดเชื้อจริงๆ ใน ประเทศต่ำมากๆ ถ้าไม่รับคนข้างนอกมา ..จะให้ถูก ต้องกระตุ้นให้คนภายในใช้จ่ายเพื่อเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจ
ปกติ ต่อให้กระตุ้นคนก็จะใช้น้อยลงอยู่เเล้ว ไอ้โปรเเกรม new normal พวกนี้ ยิ่งทำให้คนไม่อยากจับจ่าย แล้วยิ่งมาออกแบบมาตรการ ผับ บาร์ ร้านอาหารอีก สรุป มันช่วยกันจริง หรือ มีนัยยะ
ทุกวันนี้ เชื่อหรือ เช็คอิน เช็คเอาท์ กันตามที่ต่างๆ กันจริง ส่วนตัวนะ ปล่อยวิถีชีวิตปกติได้แล้ว ไม่ต้องไปบ้าจี้ตามต่างประเทศ เอาตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว เป็นก็รักษากันไป (ถ้ามันจะเป็น) หน้าที่ใครหน้าที่มัน
ตอนนี้มันกลายเป็น ไม่ใช่หน้าที่ของคุณมาคุมดูแลหน้าที่คนอื่น .. ยืนยันว่าประเทศที่คุมตัวเลขได้ระดับนี้ ต้องรีบออกมากระตุ้นให้กลับไปเหมือนเดิมมากที่สุด
มิเช่นนั้น รอคนตกงานเป็นล้าน คราวนี้ ปัญหาจะตามมาอีกเยอะเลย ! #ให้ ศบค.มาออกแบบคุมประเทศรอวันเผากันทุกคนแล้วกัน”
ครับ..อ่านแล้วก็เข้าใจถึงความรู้สึกของอาชีพนักร้อง-นักดนตรีที่เวลานี้ต่างก็อยู่กันแบบ “คนว่างงาน” และเมื่อไม่มีงานทำ ก็ไม่มีเงินรายได้จุนเจือครอบครัว ความคับอก คับใจจึงเลยก่อเกิดขึ้น
ซึ่งศบค.เองก็รับรู้-รับฟัง และได้คิดหาทางออกในปัญหานี้อย่างรอบคอบ ก่อนจะได้ออกกฎ 22 ข้อ ให้เจ้าของผับ บาร์ได้ปฏิบัติ แต่ดูจะยังไม่เป็นที่พอใจของนักร้อง-นักดนตรี (ส่วนใหญ่) นัก
อย่ากระนั้น ผมที่ไม่ใช่ “ราตรีชน” ก็ยังพลอยรู้สึกอัดอัดใจไปด้วย จนทำให้นึกอยากถามคณะกรรมการเฉพาะกิจฯของศบค.เหมือนกันว่า..
ถ้าจะมีกฎออกมาซะขนาดนี้ (22ข้อ) ปิดผับ-ผิดบาร์ต่อไปเสียจะไม่ดีกว่ารึ?
เพราะเปิดไปเจ้าของร้านก็ “เจ๊ง” จะมีนักเที่ยวคนไหน กลุ่มไหน มีกะจิตกะใจยอม (เสียเงิน) เดินเข้าไปให้ตัวเองต้องอึดอัดอยู่ในกรอบที่ถูกกำหนด
ความต้องการของนักเที่ยวราตรี คืออิสระ ผ่อนคลาย หาความสุขความบันเทิงรื่นเริงเพลิดเพลินอารมณ์ ได้ชนแก้ว-ได้ดื่มสรวญเสเฮฮา ได้แหกปากร้องเพลงตามนักร้อง เสียงดนตรี
แต่ด้วยวิถี “นิว นอร์มอล” แบบชนิด ต้องจัดให้มีระยะห่างระหว่างโต๊ะ แต่ละโต๊ะไม่น้อยกว่า 2 เมตร หรือทำฉากกั้นระหว่างโต๊ะ กำหนดจุดวางเก้าอี้สำหรับแต่ละโต๊ะ ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งอย่างน้อย 1 เมตร
อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น งดการส่งเสียงร้องเพลงและเต้นรำ จัดให้มีฉากกั้นระหว่างเวทีหรือพื้นที่การแสดง กับพื้นที่ในส่วนของผู้ใช้บริการ หรือจัดระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
พูดแสดงบนเวทีต้องสวม face shield ตลอดเวลา จัดให้มีผู้ควบคุมไม่ให้เกิดการชุมนุม รวมกลุ่ม ตะโกน หรือใช้เสียงดัง และไม่ให้มีการเดินไปเดินมา และอีกหลายข้อกำหนดนั้น
เปิดไปก็รอวันปิด ผมว่าคุณวิน นักร้อง-นักดนตรี ยอมทนไปอีกสักหน่อยดีกว่าไหม คำว่า “เป็นก็รักษากันไป” เราน่ะพูดง่าย แต่หมออาจฟังแล้วตกใจ
แต่หากทนไม่ได้ ตายเป็นตาย ก็..มิวสิค..บรรเลง!
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก Win Weerachai
