ทบ. ลงทัณฑ์กำลังพลเกี่ยวข้องเหตุวิวาท ระบุเรื่องส่วนตัว พฤติกรรมไม่เหมาะสม ผิดวินัยทหาร ส่วนเรื่องคดีอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงตามที่ปรากฏภาพข่าว การ์ดร้านอาหารในเขตสายไหม กทม. ได้ทำร้ายร่างกายลูกค้า จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อ ๗ ต.ค.๖๓ ที่ผ่านมา และรายงานข่าวระบุว่า กลุ่มการ์ดดังกล่าวมีทหารร่วมอยู่ด้วยนั้น

กรณีดังกล่าว กระทรวงกลาโหม ได้มอบให้เหล่าทัพตรวจสอบว่า มีกำลังพลในสังกัดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบกได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีกำลังพลนายทหารชั้นประทวน ๓ นาย สังกัด กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยรับว่าไปทำงานพิเศษนอกเวลาราชการ ที่ร้านอาหารดังกล่าวและอยู่ในเหตุการณ์

ในขั้นต้นหน่วยต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาทัณฑ์ขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับประสานอำนวยการทางคดี ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย

ขณะนี้กำลังพลทั้ง ๓ นาย ถูกลงโทษทางวินัยตามแบบธรรมเนียมทหารด้วยการจำขัง ๑๔ วัน และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะอีก ๗ วัน


กรณีดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ผิดวินัยทหาร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะการไปทำงานพิเศษที่มีลักษณะไม่เหมาะสม ขัดต่อ “คำสั่งกองทัพบก ที่ ๑๓๐๑/๒๕๓๔ เรื่อง ห้ามกำลังพลเกี่ยวข้องกับสถานเริงรมณ์และแหล่งอบายมุข” รวมทั้งการมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ส่งผลกระทบภาพพจน์ของหน่วยงานโดยรวม ซึ่งต้องได้รับการดำเนินการทั้งทางกฎหมายและทางวินัยควบคู่กันไป

ทั้งนี้ กองทัพบกมีนโยบายชัดเจน ให้กำลังพลประพฤติปฏิบัติตน อยู่ในระเบียบวินัย เป็นพลเมืองที่ดี เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล และกองทัพบกได้ดำเนินการเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริง เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

Written By
More from pp
อียูจัดสัมมนาส่งเสริมการส่งออก เพื่อเน้นความเป็นเลิศของอาหารสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรป (อียู) จัดงานสัมมนาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารของสหภาพยุโรปในประเทศไทย เพื่อเป็นเวทีสนทนาแลกเปลี่ยน ส่งเสริม เพิ่มโอกาสทางการค้า และรวมกันหารือเกี่ยวกับมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป
Read More
0 replies on “ทบ. ลงทัณฑ์กำลังพลเกี่ยวข้องเหตุวิวาท ระบุเรื่องส่วนตัว พฤติกรรมไม่เหมาะสม ผิดวินัยทหาร ส่วนเรื่องคดีอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ”