โมเดล “ประตูบานแรก”

เปลว สีเงิน

ม็อบป่วนเมืองเวลานี้ ………
บางคนว่า “ฮ่องกงโมเดล” บ้าง “ทักษิณโมเดล” บ้าง “สามสัสโมเดล” บ้าง
จะโมเดลไหนก็ตาม เจ้าภาพใหญ่คนเดียวกัน คือสหรัฐฯ “มหามิตร” ของไทยเราเองNGO และ NED ภายใต้การขับเคลื่อน CIA “ภาคพลเรือน” ของสหรัฐฯ นั่นแหละ แทรกซึมตามกลุ่มชุมชน, กลุ่มการศึกษา, กลุ่มมวลชน, กลุ่มนักเคลื่อนไหว, กลุ่มนักวิชาการ-ครู-อาจารย์-มหา’ลัย-สื่อ,
กระทั่งการเมือง, การศาสนา-การแพทย์-การทหาร และกิจการเพื่อสังคมทั่วไป

คือ…..
อะไรที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ-การเมือง-สังคม-การศึกษาในวงจร “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์”

“ยิวไซออนิสต์” ผู้ทรงอำนาจเหนือสหรัฐฯ-ยุโรป เพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดในตศวรรษที่ ๒๑ ของเขา “อำนาจเดียวครองโลก”
ถ้ารัฐบาลตามเขา ก็โคเอ.

ถ้าขวาง อย่างรัฐบาลประยุทธ์ตอนนี้ เขาก็สั่ง CIA ให้ปลดโซ่พวกสุนัขรับใช้ NGO และพวกที่ NED ให้ยากล่อมประสาทไว้
ออกปฏิบัติการทุกรูปแบบ…..
เพื่อ “ล้มรัฐบาล” ที่ขวางทางออกไป เอาพรรคที่สั่งได้เข้ามาเป็นรัฐบาล “ประชาธิปไตยตามใบสั่ง” เขา!

ฉะนั้น….
ป่วยการวิเคราะห์ว่า ม็อบร้อยชื่อของคณะสามสัส ที่มาในแบรนด์ “คณะราษฏร ๖๓” นี้ เป็นโมเดลฮ่องกง หรือโมเดลทักษิณ?
จะกี่โมเดล มันก็ “เบ้าสหรัฐ” เบ้าเดียวกันนั่นแหละ!

“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” รัฐบาลยุคนั้น เหมือนเอาประเทศไทยใส่พานถวายสหรัฐฯ จวนเจียนจะวิวาห์ข้ามสายพันธุ์ในระดับผู้นำซะด้วยซ้ำ

เคยเห็นนักศึกษา, นักวิชาการ, จานมหา’ลัย ปลุกระดมลงถนนต่อต้านบ้างมั้ย ตะโกนด่ารัฐบาลโกงชาติ-ขายแผ่นดินออกไปบ้างมั้ย?
ไม่เลย………

เพราะอะไร เพราะการโกงชาติ-ขายแผ่นดิน คือประชาธิปไตยต้องตามสเป็กสหรัฐฯ
พวก NGO พวกใต้เงินทุน NED พวกนักวิชาการ จานหมา’ลัย ก็พลอยอิ่มหมีพีมันด้วยระบบ “ขอทุน” เพื่อกิจการสังคมไปด้วย

บ้านเมืองจึงดูเหมือนสงบ
สงบเพราะ หมาเมื่อได้กินอิ่ม ก็เลยไม่เห่า ไม่กระชากโซ่ ผิดกับตอนนี้ ในรัฐบาลประยุทธ์

แม้ไทยโอนอ่อนให้เท่าที่เป็นไปได้ มันก็ยังไม่พอใจ จะเอาแบบ “ชี้นิ้วตรงไหน-ต้องได้ตรงนั้น” เหมือนยุคทักษิณ-ยิ่งลักษณ์
นั่น…ไม่ต่างไทยเป็นเมืองขึ้น ซึ่งนายกฯประยุทธ์ยอมไม่ได้ เมื่อยอมไม่ได้ เขาก็เลยปล่อยโซ่หมา ให้เห่าขรม

“ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องลาออก” อย่างที่เห็นอยู่

ตอนจลาจลเมือง ปี ๕๓ ทักษิณโฟนอินเข้ามา “เมื่อผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังจะได้อยู่สุข” แล้วก็เกิดปฏิบัติการ ขวดแก้วคนละใบ “เผาบ้าน-เผาเมือง” ไฟลุกพรึ่บ

แดงนปช.มาจากไหน ทุกคนก็บอกว่า มาจากทักษิณ แล้วทักษิณล่ะ มาจากไหน?
มาจาก “เด็กดี” ของสหรัฐฯ ของบุช ผู้พ่อ ต้นกำเนิด CIA ผู้นำองค์การ CFR ที่เคยมานอนดูดาวที่ “จันทร์ส่องหล้า” นั่นไง!

ทักษิณเจ็บ สหรัฐฯ จึงเจ็บด้วย
เจ็บเพราะเสียทักษิณ เท่ากับเสียแผน-เสียประโยชน์ในการใช้ไทยเป็นฐานยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก!

“แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” แผนล้มสถาบัน-ล้มชาติ มันเกิดแต่ตอนนั้นแล้ว ทักษิณน่ะ ต้องการแค่กลับมามีอำนาจ
แต่สหรัฐฯ ต้องการมากกว่านั้น ตามสันดาน!

หวังทางยาวควบคุมผ่านทักษิณแล้ว ตัวเองก็ไม่ต้องลงทุนทางปกครอง สองต่อเข้าฮอสเลย

ตอนหลังก็หางโผล่ ทั้งตัวทูตสหรัฐ-เจ้าหน้าที่ยกโขยงมา ไปส้องสุมสนับสนุน-ชักใยขบวนการแดงในอีสาน
ทั้งเดินสาย ทั้งสันถวะสมคบรัฐบาลระบอบทักษิณ ชนิดไม่แคร์เวิลด์!

ไม่ต่างกับที่ฮ่องกง แก๊ง โจ ซัว หว่อง ลงท้าย ไพ่ที่หงาย ก็คือสหรัฐฯ-ยุโรป ตัวชักใย-หนุนหลัง “ปฏิวัติฮ่องกง”

แล้วย้อนดูตอนนี้……..
เพราะ “กูไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ฉะนั้น ก็อย่าหวังว่าประยุทธ์จะได้อยู่เป็นสุขบนเก้าอี้นายกฯ”

คล้ายๆ คำครางทักษิณมั้ย…พี่น้อง?

ก็ดูซี เมื่อเข้าโค้งสุดท้ายรัฐบาลคสช.เมื่อแน่ชัดว่า “ตู่จะไปต่อ” ด้วยประชาชนพอใจผลงาน
นักศึกษา, จานมหา’ลัย สื่อและนักวิชาการ เมื่อสิ้นระบอบทักษิณแล้วปากแห้ง กรีดร้องหาประชาธิปไตยทันที

ถามว่า ภาคประชาชน ภาคธุรกิจการค้า ภาคสังคม ในยุคคสช.เทียบกับยุคประชาธิปไตยเลือกตั้ง
ยุคไหน ทำให้ชีวิตและสังคมดีขึ้นและดีกว่า?

๗๐-๘๐% บอกยุคคสช.ที่ลุงตู่เป็นนายกฯ
มีแต่นักวิชาการ นักศึกษา จานมหา’ลัยกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่กล้ายกด้านเผด็จการแต่โปร่งใส มีผลงานจับต้องได้ขั้นมาพูด

เลี่ยงไปหยิบประเด็น “เผด็จการ-ประชาธิปไตย” ใช้กลไกสื่อในเครือข่ายนอกประเทศตีรุกเข้ามา

แล้วใช้เครือข่ายสื่อสารไอทีและสื่อหลักจากภายใน ตีกระหนาบรับเป็นกระแส
เผด็จการ..เผด็จการ..สืบต่ออำนาจ..สืบต่ออำนาจ เป็นปฏิบัติการ จากจุดประทัด เป็นจุดพลุ จากคนกลุ่มหนึ่ง จนถึงจุดไฟเผาเมืองตอนนี้

ถามว่า…….
นี่ฝีมือนปช.เสื้อแดงโดยตรงงั้นหรือ?
ฝีมือนักเรียน-นิสิต-นักศึกษา ที่จุดพลุเป็น “รุ่นใหม่” โดยตรงงั้นหรือ?
กระทั่งว่า……
เป็นฝีมือส้ม ขบวนการก้าวหน้า-ก้าวไกล หรือพรรคแค้นพรรคใด-พรรคหนึ่งโดยตรงอย่างนั้นหรือ?

ตอบได้เลย โดยประมวลผ่านตัวบุคคลในม็อบทั้งระดับแกนร่วมและแกนผสม ที่เห็น “ซ้ำหน้า-ซ้ำการกระทำ” จากปูมข้อมูลประมวล จากปี ๒๕๕๐ เรื่อยมา
ตั้งแต่ ๕๙-๖๐-๖๑-๖๒ ถึงวินาทีนี้ ปี ๖๓
ผู้เคลื่อนไหวและชุมนุมหลัก คือ……
กลุ่มเอ็นจีโอ และกลุ่มภายใต้การปลูกฝังด้วยน้ำเลี้ยงเนด ของสหรัฐฯ เป็น “มวลชนหลัก” ของม็อบแดงส้มขณะนี้!

ที่ผมคุยมาทั้งหมด ร้อยละ ๘๐-๙๐ เป็นเรื่องที่แต่ละคนรู้อยู่แล้ว ที่ “เด็กนักเรียน” แต่งชุดนักเรียนขึ้นเวที ร่วมชุมนุม ทั้งที่ปกติต่อต้านเครื่องแบบนักเรียน
ไม่ใช่เด็ก NERD แต่เป็นเด็ก NED!

แต่ไหนๆ มาวัยนักเรียน ไม่เคยทำกล้า-ทำเก่ง “นอกรีต-นอกรอย” เช่นนี้มาก่อน แต่ที่ปรากฏในยุคนี้ เพราะมี NED
ไอ้กันหลอกเด็ก ให้หลง-เหลิง เหมือนเด็กที่ฮ่องกง ว่าไม่ต้องกลัว มีอะไรขึ้นมา จะให้ไปเป็นซิติเซนอยู่อเมริกาโน่น

ก็สงสาร กลัวจะเป็น “อเมริกรง” ซะก่อน!

ตอนนี้ รัฐบาลประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ แล้ว แล้วใครล่ะ ….
ที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ “เห็นดี-เห็นงาม” แถมสนับสนุนให้ใช้ ให้จับตัวแกนป่วนบ้าน-ป่วนเมืองตอนนี้?
ก็ตัวพวกเธอทั้งหลายเองนั่นแหละ ทั้งอานนท์ เพนกวิน รุ้ง รวมแล้วกว่า ๒๐ คนตอนนี้ แต่คืน ๑๕ ตุลา.ที่ชุมนุมหน้าทำเนียบ

สิ่งที่ม็อบคณะสามสัสกระทำต่อขบวนเสด็จฯ ดังปรากฏนั้น ถ้ารัฐบาลไม่จัดการม็อบคณะนี้ รัฐบาลนั่นแหละ จะต้องถูกประชาชนจัดการ
ประกาศฉุกเฉินแล้ว จับกุมบางส่วนแล้ว ที่เหลือ แทนที่จะสำนึกในความผิดเกินอภัยนั้น
ยังถือดี ปิดราชประสงค์ ปฎิบัติการล่มชาติ-ล้มสถาบัน ท้าทายพรก.ฉุกเฉินอีก

จะบอกว่าสงสาร ก็ไม่อยากพูดปด วันนี้คึกแหกคอก วันหน้า “คุก” ก็อย่าหวังความเมตตาสงสารจากใคร!

“พรรคฝ่ายค้าน” ก็รู้กันอยู่ว่า “พวกเดียวกัน” แต่ด้วยวุฒิภาวะ ควรแยกแยะได้ การประกาศสนับสนุนม็อบ ถ้าม็อบตามกรอบ-ตามเกณฑ์ ก็ไม่มีใครว่า
แต่ขณะนี้ ทั้งกายกรรม-วจีกรรม-มโนกรรม ม็อบสามสัสนี้ ชัดเจนแล้ว

ทั้งละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ ทั้งมุ่งร้ายต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทั้งมุ่งล้มสถาบัน

แล้วพรรคฝ่ายค้านเห็นดีและสนับสนุนด้วยอย่างนั้นใช่ไหม?
แต่ถ้าเห็นว่าประตูบานแรกที่ธนาธรเปิดนี้ เป็น “ประตูสู่อำนาจ” จะพรูกันเข้าไป ก็…เชิญ!

Written By
More from plew
แอมนาสตี้”บทบาทนี้”เพื่อใคร?
อย่าว่าโง้น-งี้เลยนะคุณ”ปิยนุช โคตรสาร” ขอถามคำ………งานเลี้ยงชีพในตำแหน่งผอ.”แอมเนสตี้ ประเทศไทย”ของคุณน่ะ มันมีแค่ เขียนป้าย ทำสติกเกอร์ สวมหน้ากาก ระดมสาสาวกไปยืนเป็นวอลเปเปอร์  แล้วปั้นหน้าอ่านแถลงการณ์”สิทธิมนษยชน”ที่ไม่ต่างอาหาร”หมา-แมว”สำเร็จรูป ซึ่งมีให้กับเฉพาะ”บางคน-บางกลุ่ม”แค่นั้นใช่หรือไม่? เพราะเท่าที่เห็น...
Read More
0 replies on “โมเดล “ประตูบานแรก””