ดูหนังดูละครแล้วย้อนมาดูตัว

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

เคยคุยกับคุณหมอที่รู้จัก..

ท่านว่าความเครียดเป็นศัตรูร้ายที่สุดของการดำรงชีวิต เพราะนำมาซึ่งโรคทุกชนิดที่มนุษย์เป็นได้ นับตั้งความเจ็บไข้ได้ป่วยธรรมดาๆ เล็กๆ น้อยไปจนถึงระดับมัจจุราชกวักมือเรียก

แล้วอะไรที่ทำให้เครียด..คุณหมอก็ไม่ได้ชี้ชัด บอกแต่เพียงว่า ความเครียดขึ้นอยู่กับอารมณ์เช่นอารมณ์ที่ไม่ได้เป็นดังหมาย ดังต้องการ ก็ขัดใจ เครียด เพราะอยากได้ใคร่มี  

ซึ่งอารมณ์พวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น รัก โลภ โกรธ หลง สุข ทุกข์ ถ้าพูดทางพระมันคือ “ฟิลลิ่งของเวทนา” หรือ “การเสวยอารมณ์”  ซึ่งเป็นกิเลส (แน่ะ)!

มองบรรยากาศบ้านเมือง-สังคมไทยของเราเวลานี้ ถ้าจะพูดว่าอยู่ในสภาวการณ์ “เสวยอารมณ์” ก็เห็นจะไม่ผิด คือบังเกิดทุกขเวทนาไปทั่ว เหมือนคำกล่าวของใครบางคนที่ว่า..

“ไก่ในเข่งที่เอาแต่จิกทำร้ายกัน ไม่สำเหนียกว่า มีมีดรอเชือดคออยู่” อย่างจริงแท้!

เออ..พูดเรื่องนี้ก็ให้นึกถึงภาพยนตร์จีนเรื่องหนึ่งซึ่งอยู่ในระดับ “หนังอมตะ” ของโลกคือเรื่อง “ฮีโร่” หรือชื่อจีนว่า “อิงสง” เป็นงานสร้างของผู้กำกับ “จางอี้โหมว” ที่คอหนังรู้จักกันดี


หนังหยิบเอาเรื่องราวของพระเจ้าเจิ้งหรือ “จิ๋นซีฮ่องเต้” ในประวัติศาสตร์ยุคโบราณของจีนที่ถูกลอบปลงพระชนม์หลายครั้ง อันมาจากความเกลียดชังของชาวจีนทั้งหกแคว้นในยุคนั้น  

พระองค์ถูกเรียกว่าเป็น “กษัตริย์ทรราช” แต่การลอบปลงพระชนม์ก็ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง จนพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนม์มายุ 50 พรรษา..

เนื่องจากทรงเสวยปรอทเป็นอาจิณ เพราะเชื่อแพทย์หลวงว่าเป็นโอสถอายุวัฒนะ!

ผมอยากแนะนำให้ท่านไปหาหนังเรื่องฮีโร่ มาชม ในยูทูบก็น่าจะมี  หนังเรื่องนี้มีข้อธรรมให้ขบคิด เผื่อบางทีอาจจะเกิดแนวคิดดีๆ ขึ้นมาให้พอได้คลายความทุกข์ กังวล

และหรือเผื่อบางท่าน อาจจะพบวิธีการนำพาสังคมของไทยเดินไปข้างหน้าในแนวทางสันติและบรรยากาศแห่งภาดรภาพขึ้นมาก็ได้

มีอยู่สองคำในหนังเรื่องนี้ที่ให้เกิดการขบคิด หนึ่ง..คือคำว่า “เทียนเซี่ย” ที่หมายถึง แผ่นดินหรือโลก หรือแปลตรงก็คือ “ใต้ฟ้า” หรือ “ใต้สวรรค์”  แต่ภาษากำลังภายใน ถอดความแล้วชวนงง..

บ้างแปลว่า “ต่ำใต้” บ้างก็ว่า “ใต้หล้า”!

อีกคำ คือ “เจี้ยน” แปลว่า ดาบ ซึ่งคำว่า “ดาบ” นี้ มีวิธีเขียนเป็นตัวอักษรได้ตั้ง 19 วิธี นี่ผมไม่ได้พูดเอง หากแต่จำมาจากคำพูดของมือสังหารนาม “ไร้นาม” ที่กล่าวกับจิ๋นซี

ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างก็อยากให้ตามดูเอาจากหนัง ผมนั้นดูท่วงลีลาเพลงกระบี่ เพลงทวนไปพร้อมๆ บทพูด ก็ให้คิดให้ตีความไปถึงคำพูดของ ท่านนายกฯประยุทธ์ที่เคยพูดประโยค..

“อย่าบังคับให้คนทั้งโลกใส่เสื้อเบอร์เดียว” เอาไว้อย่างไงก็ไม่รู้นะ?

หนังเก่า แต่ก็เหมาะกับ “คนเก่า” อย่างเราๆท่านๆ ที่วันๆได้แต่นั่งรำพึงรำพันทอดถอนใจ ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีจอมยุทธ์ “ไร้นาม”..

 มาสร้างปรากฏการณ์ “ฮีโร่” ให้ได้เห็น!

Written By
More from pp
สงสารประเทศไทยบ้างเถอะ!-สันต์ สะตอแมน
ผสมโรง สันต์ สะตอแมน             เตรียมตัวกันเอาไว้นะครับพี่น้อง!             อีกไม่กี่เพลาแล้ว “แรงงานไทย” ก็จะได้ตีตั๋วเครื่องบินแห่ไปขุดทองที่ประเทศซาอุดิอาระเบียกันอีกครั้ง หลังจากนายกฯลุงตู่ได้แจ้งข่าวดี..ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ ทำให้ประตูบ้าน-ประตูเมืองของ “ซาอุ-ไทย” ได้เปิดให้ประชาชนไป-มาหาสู่กันเป็นปกติ!
Read More
0 replies on “ดูหนังดูละครแล้วย้อนมาดูตัว”