ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์
หลายวันมาแล้วผมได้ดูและได้ฟังข่าวจากโทรทัศน์ BBC เป็นภาษาอังกฤษ จึงฟังรู้เรื่องบ้างและไม่รู้เรื่องบ้าง จากคนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงอะไรก็ไม่รู้ ในรัฐบาลใหม่ของประเทศ สิงคโปร์ ท่านได้ออกมาพูดเตือนสติชาวสิงคโปร์ ที่มีเนื้อหาซึ่งผมเชื่อว่าจะไม่มีวันได้ยินจากรัฐมนตรีคนใดๆ ของรัฐบาลประเทศไทย
ท่านได้พูดว่า “ขอให้คนสิงคโปร์พึงจำไว้เลยว่า ประเทศของเราถ้าผ่านพ้นวิกฤตโควิด 19 ไปแล้ว เศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์เรา หรือสถานภาพต่างๆ ของเราจะไม่มีวันกลับไปรุ่งเรืองเหมือนเดิมอีกอย่างแน่นอน”
ผมขอไม่ขยายต่อที่เขาพูดแต่อยากทิ้งไว้ให้ท่านทั้งหลายเก็บไปคิดก่อนแล้วกัน คนไทยชอบตำหนิการศึกษาไทย ว่าไม่สอนให้นักเรียนนักศึกษารู้จักคิด ถึงตอนนี้มัน New Normal ก็ขอให้พระเดชพระคุณคิดกันเองก้อแล้วกันว่าผมเอาประเด็นนี้มาพูดทำไม
วันก่อนผมคุยกับคนขับแท็กซี่ที่มีประสบการณ์และรอบรู้เรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว ผมจึงถามเขาว่าท่องเที่ยวที่เชียงรายเป็นอย่างไรเขาตอบว่า “หายไป 80% โรงแรมระดับสี่หรือห้าดาวจะปิดหมดโรงแรมระดับกลางลดราคาค่าห้องพัก ครึ่งหนึ่ง พวกมัคคุเทศก์ตกงานกันหมด”
คนไทยที่อยู่ในองคาพยพของการท่องเที่ยว ต่างตั้งความหวังกันว่าไม่ช้าก็เร็วทุกอย่างจะกลับมาเป็นอย่างเดิม โดยลืมคิดไปว่า วิกฤตโรคระบาดเที่ยวนี้ มันต่างกับ วิกฤติต้มยำกุ้ง โดยสิ้นเชิง
โควิด 19 มีฤทธิ์ทำลายชีวิต ทำลายเศรษฐกิจ ทำลายครอบครัวและสังคม ทำลายอนาคต กับทุกประเทศทั่วโลกต่างจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่ประเทศไทยเรารับหน้าเสื่อเดือดร้อนแต่เฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ และการเงิน อยู่ประเทศเดียว
ขอให้พึงระลึกไว้เถิดว่า ถ้าประเทศไทยปลอดภัยจากไวรัสโควิด 19 อย่างแน่นอน 100% ก็อย่าได้หวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 20-30 ล้านคน จะแห่กันเฃ้ามาเที่ยวไทยเหมือนเดิม เพราะประเทศอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นลูกค้าหลักของการท่องเที่ยวไทยก็ยังเผชิญหน้ากับโควิด 19 ที่ยังมีขึ้นมีลงหาความแน่นอนไม่ได้ และพยากรณ์ หรือคาดเดาก็ไม่ได้ สรุปว่าเราไม่อาจจะคาดหวังอะไรได้เลย
เรื่องเล่าสั้นสั้นของผมวันนี้ก็มีจุดประสงค์ที่จะให้คนไทยใด้ฟัง อย่างมีสติต่อคำเตือนของรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์ที่ เตือนคนของประเทศเขาว่า ต่อจากนี้ไปอย่าใด้หวังว่าเราจะรุ่งเรืองเหมือนเดิม น่าคิดครับ ขอบพระคุณมากครับ
อ้อเกือบลืม!!!! ที่เชียงรายมีกิจการเดียวเท่านั้นที่โควิดซึ่งว่าแน่ๆ ก็ไม่สามารถทำให้ธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเลย..
“ยาบ้า” ไงครับท่าน เฟื่องฟูคงเส้นคงวาจริงๆ
