“เส้นทางโดดเดี่ยว” สามสัส

เปลว สีเงิน

เอาเลยทอน ……

ไม่ต้องเขิน เขารู้กันหมดแล้วหละ ว่าม็อบ “ล่มชาติ-ล่มสถาบัน” แต่ “เทิดทูน-พิทักษ์ Pornhub” นั่นน่ะ Behind the Scenes คือ “สามสัส” ปลอกคออเมริกัน!

ฉะนั้น ออกจากง่ามตูดเด็ก นำทัพให้สมกับผู้นำรุ่นใหม่หัวใจ Pornhub เถิด

เกมไม่ใช่ถึงขั้นรู้ผล “แพ้-ชนะ” หรอก หากแต่มันใกล้ “ตาจน” แล้วตะหาก

“รบก็ตาย-ไม่รบก็ตาย”
เยี่ยงนั้น ก็เปิดหน้านำทัพหลากหลายทางเพศ ออกรบขั้นแตกหัก ฝากชื่อ-ฝากตระกูล ว่ากูนี่แหละ ทอน…ลูกแม่สมพร ผู้เหิมหาญเข้าหักยอดเขาพระสุเมรุ มี “ปิยบุตร-พรรณิการ์” เป็นขุนพลซ้าย-ขวา

ประกาศให้รุ่นนี้-รุ่นหน้า ได้ศรัทธาหรือถ่มถุยเถิด!

ขุนศึกน้อยใหญ่ ศาลปล่อยให้ออกมาครบหน้าแล้วมิใช่หรือ?

เฉพาะอานนท์คนเดียวก็พาเสียวทะลุคุก แต่นี่ยังสมทบครบหน้าด้วย “เพนกวิน, ไมค์, รุ้ง,ไผ่” และอีกหลายๆ แสบ

จึงไม่น่าแปลกใจ ตอนนี้จะเห็นแต่ละขุนพล Pornhub แยกกันสร้างมิติ “แมลงวันตอมขี้” ๑๐ สถุลแถลง ๑๐๐ สื่อรุมถ่าย!

สรุปเป็นทิศทางได้ว่า…….
จาก ๘ พฤศจิกา.เป็นต้นไป จนถึงปลายธันวา. “ม็อบล้มเจ้า” จะมากันแบบ “สงคราม ๙ ทัพ” จากทุกทิศ-ทุกทาง เข้าตีพร้อมกัน

น่าจะเป็น “ขั้นแตกหัก” ของสามสัสกระมัง เพราะระดมกระทั่งเด็ก แต่งเป็นทัพ “นักเรียนเลวๆ” เข้าฉาก

ตอนเรียน เรียกร้อง “ไม่เอาเครื่องแบบ”
แต่ตอนเลว ทั้งเด็กหญิง-เด็กชาย กลับแต่งเครื่องแบบนักเรียนสร้างจุดขาย!?

มันเก๋มากเลยนะหนู ยิ่งเรียนยิ่งโง ยิ่งโตยิ่งเป็นควาย คิดอะไรไม่เป็นเลย ตอนจับไมค์ท่องแถลง ตามชิปที่ฝังไว้ พ่อ-แม่คงภูมิใจมาก

เลวก็เลวให้สุดด้ามหอก จะได้ติดดาว ถ้าครึ่งๆ กลางๆ จะ “ระห่ำหัก” ซะก่อน

ฉะนั้น เมื่ออยากเลว ก็ลุยให้สุดหอก ขอยุส่ง

ปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคต……
หนูๆ ก็รู้แล้วนี่ ว่าที่ทำวันนี้ อนาคตตัวเองจะเป็นอย่างไร ถ้าทอนเปิดประตูบานที่สามได้ พวกหนูบิ๊ก..เบิ้มๆ แน่

อยากให้เรียน-ให้สอนแบบไหน เข้าไปชี้นิ้วในกระทรวงศึกษาเอาตามอยากได้เลย

แต่ถ้าบานที่สามของทอน เป็นบานประตูเรือนจำ ก็เสียใจนะ ที่ด้ามหอกหักเสียก่อน
แต่เบาใจได้ สังคมชาติไม่โหดร้ายกับพวกเธอหรอก ถึงยังไงก็มีประตู “บ้านเมตตา” เปิดอ้าให้เข้าไปศึกษาในสถาบันชีวิตจริง แทนสถาบันราชทัณฑ์

กฎบ้านเมือง คือกฎหมาย กฎธรรมชาติ คือกฎกรรม ก็ฝากให้รู้ไว้เผื่อคิดในวันหน้า

ส่วนวันนี้ ในความเป็นนักเรียนเลวๆ ตามชิปฝัง พวกเธอไม่สนใจฟังหรอก ตกมันตามฮอร์โมนวัยรุ่นกระตุ้นให้ทำอะไรก็ได้ ขอให้คนหันมามองเป็นใช้ได้
มันเท่ แต่ถึงวันข้างหน้า……

เมื่อเขาไม่ต้องการใช้เป็นเครื่องมือ เมื่อนั้นแหละ พวกเธอจะว้าเหว่ โดดเดี่ยว ไม่มีคำปอปั้นปั่นให้เหลิง “กฎหมาย-กฎกรรม” เรียงหน้าเข้ามาในชีวิต

“เลว” รสชาติแท้จริงเป็นยังไง เธอจะได้รู้ แต่บางทีมันก็ “สายเสียแล้ว”!

“รุ่นใหม่” สมองไม่มีกันหรืออย่างไร?
เขาประดิษฐ์คำให้ตะโกน ให้ทวิต หยาบๆคายๆ วนเวียนใต้สะดือ พวกเธอ นักเรียน-นักศึกษาหญิงแท้ๆ ก็เชิดหน้าสง่างาม คิดว่าโก้เก๋

การจ้วงจาบ หยาบช้า ต่อสถาบัน ไม่ต้องเรียนหนังสือ ใช้แค่สำนึกคน ก็รู้ได้ว่า ไม่สมควร ไม่ถูกต้อง

แต่นี่ ทั้งเป็นนักเรียน เป็นนักศึกษา เป็นครูบาอาจารย์กลับหยาบช้า-สามานย์ ผิดวิสัยคนเกิดในแผ่นดินไทย-แผ่นดินกษัตริย์สร้าง

ไม่เคารพ ก็ส่วนของใจ แต่การจงใจแสดงออกทางกาย-วาจา ดูหมิ่น-เหยียดหยามให้ปรากฏ
พูดกันตรงๆ สัตว์…อย่างสุนัข ยังรู้คุณคน แล้ว “รุ่นใหม่-รุ่นเก่า” ก็ล้วนคน ทำไมพวกนี้ จึงไม่มีความคิดแยกแยะอะไรเลย

หรือ “คนรุ่นใหม่” พันธุ์สามสัส คือ “สัตว์นรก” จำแลงมาในร่างคนยุคสำส่อนสับสนทางเพศเฟื่องฟู?

สมองแยกคิด “ผิด-ถูก, ชั่ว-ดี” ไม่มีเลย มีแต่ท่องตาม-พูดตาม-ทำตาม “ที่เขาฝังชิปไว้

มนุษย์พันธุ์นี้ ไม่มีคำว่าเหตุผล มีแต่โมหะเศษคนบ้าคลั่งตามต้องการสันดานเถื่อน
ตั้งเงื่อนไข นายกฯ ต้องลาออก!

ถามว่า ให้เขาลาออกด้วยเหตุผลใด?
คำตอบ คือ ไบเดนชนะ ทรัมป์แพ้ นายกฯต้องลาออก, ทอนไม่ได้เป็นนายกฯ นายกฯก็ต้องลาออก

เพื่อไทยตายแห้งมานาน นายกฯ ต้องลาออก, ประเทศไทยโควิดไม่ระบาด นายกฯต้องลาออก

ประชาชนคนไทยเทิดทูนจงรักภักดีพระมหากษัตริย์ นายกฯ ต้องลาออก

รัฐบาลวางรากฐานพัฒนาประเทศก้าวหน้าไปสู่อนาคตปรากฏชัดมากมาย นายกฯต้องลาออก และ…ฯลฯ…..

นี่คือเหตุผล “คนรุ่นใหม่” ในการตั้งเงื่อนไข “นายกฯต้องลาออก” ไม่งั้น รุ่นใหม่จะเป็นไฟลามทุ่ง…เออ เอากะมันซี!
ยื่นคำขาด “ต้องปฏิรูปสถาบันให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ” ไอ้เบื๊อกหรือไอ้ปิ๊ปั้นวาทกรรมให้พูด ก็หลับหู-หลับตาตะโกนตามกันไป

ถ้ามีสมองซักนิด เห็นอ้างธรรมศาสตร์เป็นกระดองอยู่เรื่อย กลับไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ ว่าทุกวันนี้ พระมหากษัตริย์ก็ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมอยู่แล้ว

เจตนามันจะล้ม แต่ด้วยความเป็นหัวหมอ เลี่ยงบาลีเป็นว่าปฏิรูป

ไอ้หมอนี่ คงได้หอบตำราเข้าไปสอนกฎหมายในคุกซักวันจนได้ เห็นชอบยกหางความเป็นหลวงรอบข่มคนโน้น-คนนี้อยู่เรื่อย กระทั่งพนักงานสอบสวนก็ยังเหยียบหัวเขา

แต่คนที่รู้กฎหมาย และใช้กฎหมายในฐานะทนายอย่างนายอานนท์ ถ้าจะได้เข้าไปเป็นอาจารย์ใหญ่ในคุก พินิจตามลีลา-วาทะแล้ว น่าจะได้รับเกียรติเป็นคนแรก

ก็ลองฟังที่เขาพูดหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อ ๓ พย.ก็แล้วกัน

“เผด็จการบอกให้ถอยคนละก้าว แต่เราจะก้าวข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีเกียร์ถอย

เรากำหนดข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ ถ้าจะลด จะเหลือข้อเดียว คือ ข้อที่ ๓ นอกนั้น ไม่ต้องมาพูดกัน

จะตั้งกรรมการกี่กรรมการ กี่ฝ่าย ถ้าไม่อยู่บนเงื่อนไข ๓ ข้อ ไม่ต้องมาคุย กลับไปเลี้ยงหลานที่บ้าน

ก้าวต่อไป พวกเรามีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต้องก้าวด้วยความระมัดระวังเพราะพวกเขาเป็นสุนัขจนตรอก พร้อมใช้ความรุนแรงกับเรา ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป จะให้เกิดความรุนแรงไม่ได้เด็ดขาด


มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เรื่องแรกเมื่อสภาเปิด ถ้าไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ พวกเราจะไปปิดสภาด้วยมือเราเอง ถ้าไม่พูดเรื่องการขยายพระราชอำนาจ ส.ส.ก็ไม่ต้องเป็น ส.ส.อีกแล้ว

ประยุทธ์ลาออก นี่ไม่ใช่การขอให้ลาออก แต่พวกเราจะไล่มันออก ข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ ยังเหมือนเดิมทุกประการ

ในอีกไม่กี่วันนี้ การชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเกิดขึ้นแน่นอน แกนนำออกมา แกนตามออกมาเต็มถนนเหมือนเดิม คุกขังเราได้แค่ร่างกาย

ผมพยายามคิดวิธีหาทางแพ้ หาไม่เจอ เมื่อคนรุ่นใหม่ตื่นตัว จนแทบจะเป็นมติเอกฉันท์ว่าจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ไม่มีทางที่จะแพ้เหมือนอดีตอีกต่อไป”

เป็นไง กับวาทะอานนท์ ผู้มีหัวใจสีชมพูกับสาวๆ ทุกวินาที ข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ ใน ๒ ข้อแรก ลดราวาศอกได้ ยกเว้นข้อที่ ๓ ไม่ได้เด็ดขาด

ข้อที่ ๓ คือ “การปฏิรูปสถาบัน”!
โอ…พ่อ “ดอนฮวน” เก่งกล้า อะไรปานนั้น?

นี่ถ้าผมเป็นทอน จะตั้งโต๊ะด้วย Balvenie เกรด ๒๔ ปี แช่ดีเหี้ย-หัวใจตะกวด หนึ่งขวด จิ้มจุ่มเนื้อควาย สดๆ เลือดซิกๆ ๓ ชั่ง คารวะทันทีเลย


เอาละ ขอคั่นรายการด้วยเรื่องสร้างโรงครัวให้โรงเรียนร่มเกล้าปางตองในโครงการตามพระราชดำริ ที่แม่ฮ่องสอน ตามที่ผมคุยไปวันก่อนบ้าง

ผมโอน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ตามงบก่อสร้างไปให้ผอ. “คุณปุรเชษฐ์ มธุรส” เรียบร้อยแล้ว
และเมื่อผมนำเลขที่บัญชีลงเพจเปลว สีเงิน ปรากฏว่ามากมายหลายท่าน โอนเงินตามเข้าบัญชี

เป็นค่าอาหารกลางวันนักเรียน
บางท่าน โอนแล้ว แจ้งมาให้ผมทราบ มีบางท่านส่งเงินมาที่ผม อย่างท่านหนึ่ง โอนเข้าบัญชีไทยโพสต์ ๕,๐๐๐ บาท
บอก อุดหนุนไทยโพสต์ ๒ พัน ค่าอาหารนักเรียน ๓ พันบาท
สาธุหลายเน้อ……

ผมโอนไปให้โรงเรียนแล้วครับ ที่ท่านโอนโดยตรงและแจ้งมา ก็มี นส.ขนิษฐา พรหมสมัคร ๓,๐๐๐ บาท นพ.วิศิษฐ์-อุไรรัตน์ นครชัย ๓,๐๐๐ บาท
คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส ๑๐,๐๐๐ บาท คุณสุภิญญา สังขวรรณ ๑,๐๐๐ บาท นส.อัคสุภาพรรณ อินรัมย์ ๕๐๐ บาท

ผอ.ปุรเชษฐ์บอกว่า ท่านที่โอนเงินไป ถ้าต้องการใบอนุโมทนา แจ้งชื่อ-ที่อยู่ให้ชัดเจนด้วย ใช้ลดหย่อนภาษีได้
จะลงเลขที่บัญชีไว้ตรงนี้อีกที เผื่อท่านจะโอนเงินไปช่วยค่าอาหารเด็กๆ ดังนี้

ชื่อบัญชี “กองทุนเงินบริจาคโครงการตามพระราชดำริ”

ธนาคารกรุงไทย สาขาแม่ฮ่องสอน

หมายเลขบัญชี ๕๐๘-๐-๒๗๙๘๒-๖

ท่านที่โอนแล้ว ต้องการให้ผมประกาศให้ทราบ ช่วยบอกมาในเพจเปลว สีเงิน
ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่าน แทนเด็กๆและคณะครูโรงเรียนร่มกล้าปางตองด้วยครับ

ส่วนยอดรวมจะได้ซักเท่าไหร่ ไว้ผมจะสอบถามท่านผอ.ปุรเชษฐ์ได้ความแล้วจะมาแจ้งให้ทราบกันตรงนี้

ช่วงนี้ ขออนุญาตหดๆ หายๆ ขอแรงให้คุณ “ผักกาดหอม” มาคุยกับท่านสลับกันไป-มา จนกว่าชีพจรผมคงที่ ตกลงกันตามนี้นะครับ!

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกนQR Code

 



Written By
More from plew
รุ่นใหม่ “ลลิษา มโนบาล”-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน จะคุยเรื่อง “ไพรวัลย์-สมปอง” วันนี้ ……… ดูมันเด๋อๆ ด๋าๆ เหมือนคุยงาน “ล้างป่าช้า” กลาง “สยามพารากอน”...
Read More
0 replies on ““เส้นทางโดดเดี่ยว” สามสัส”