“ฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาล”

เปลว สีเงิน

หลังจากบุคคลผู้นี้ โพสต์ข้อความนี้ออกไป……

Thanathorn Juangroongruangkit
@Thanathorn_FWP
This is not a compromise. #ม็อบ17พฤศจิกา
จากนั้น ๑๘-๑๙ พฤศจิกา……
กรุงเทพ “เมืองหลวง” ไทย ทั้งย่านเกียกกาย บางโพ อันเป็นที่ตั้ง “สัปปายะสภาสถาน” และค่ายทหาร
ย่านราชประสงค์-ปทุมวัน อันเป็นย่านเศรษฐกิจ-การค้า มีวัดปทุมวนาราม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่บริเวณนั้น
ทั้งป้าย ทั้งกำแพง ทั้งรั้ว ทั้งอาคารสถานที่ ทั้งพื้นถนน

ไม่เว้นกระทั่ง “พระบรมฉายาลักษณ์”
ม็อบส้ม “รุ่นใหม่” ของคณะสามสัส ด้วยการนำของอานนท์-เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง
ทั้งสาด ทั้งละเลง ทั้งพ่นสีสเปรย์ใส่ เลอะเทอะเปรอะเปื้อน ทั้งพัง-ทำลาย ทรัพย์สินทางราชการ

ไม่เพียงแค่นั้น ยังเขียนคำหยาบคาย จ้วงจาบหยาบช้า ด่าทอเบื้องสูง พรืดไปทั้งพื้นถนนและกำแพง

นี่คือ การทำของผู้ประกาศตัวว่า “คนรุ่นใหม่” ที่จะมานำประเทศ “ไปสู่อนาคตที่ดีกว่า” ตามคาถาธนาธรปลุกเสก

เมื่อวาน (๑๙ พย.) เรื่องที่วิจารณ์แซ่ดทั้งเมือง ข่าวสารที่เต็มโซเชียล คือสภาพอับเศร้าหมองศรีของมหานครไทย อันเกิดจากน้ำมือกลุ่มคน “รุ่นใหม่”
ภายใต้การสนับสนุน-ชักใยของพรรคการเมือง คนการเมือง นักวิชาการ อาจารย์มหา’ลัย กลุ่มหนึ่ง
ถ้าไม่บอกหรือไม่รู้มาก่อนว่า…นี่ กรุงเทพฯ
ต้องเข้าใจว่าเป็นย่าน “คนถ่อย-คนเถื่อน” ของประเทศด้อยอารยะที่ไหนซักแห่ง!

มันเป็นสภาพไหน และชาวชนทั้งหลายเขาว่าอย่างไรกัน ผมไม่พูด จะนำที่เขาพูดสะท้อนจากภาพนั้น

ลีโอ “เสฏฐนันท์ ราฟาเอล เตชะวิบูลย์” ที่ออกมาทำความสะอาด พื้น กำแพง ลบ-ล้างความสกปรก บอกว่า

“เมื่อวาน มีการสาดสีตามจุดต่างๆ และที่หนักสุด คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จึงมาสำรวจรอบๆ ตั้งแต่เช้า เพื่อเตรียมสเปรย์และสีมาลบข้อความเกี่ยวกับสถาบัน ไม่ให้มีใครได้เห็น และรู้สึกไม่ดีเหมือนผม
ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยที่จะปกป้องสถาบัน อยากบอกว่า ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้เลย ขอเตือนด้วยว่า การกระทำแบบนี้ มันผิดกฎหมาย”

Fuangrabil Narisroj โพสต์ด้วยข้อความว่า…..
“จากเดิมที่เคยนึกว่ายังไงๆ เสียก็เป็นลูกหลาน ให้อภัยเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน โตขึ้นพวกเขาคงคิดได้มากกว่านี้
แต่มาบัดนี้ ความรู้สึกดังกล่าว มันเหือดหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความด้านชาจากพฤติกรรมที่พวกเขาก่อขึ้น

ต่อจากนี้ ก็คงมองแบบคนที่อยู่ร่วมโลก แย่งอากาศหายใจกันไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีใจ ไม่มีเยื่อใย ไม่มีความเอื้ออาทรหลงเหลือให้กันอีกต่อไป

จะเป็นตายร้ายดีอยู่ตรงหน้า ก็คงได้แต่มองแล้วเบือนหน้าเดินจากไป กรรมและเวรเป็นเรื่องของบุคคลนั้นๆ เอง เราไม่ควรเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป

“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
“กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ”

“นันท์สกร นพรัตน์วิมล” โพสต์ว่า……..
#ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ นิ่งเฉย และยอมรับได้ ว่านี่เป็นเรื่องปกติ #มันคือไม่ปกติ
รากเหง้าเหล่ากอของบรรพบุรุษคนไทย สอนลูกสอนหลานให้มีอารยะ มีประเพณี มีวัฒนธรรม ไทยถึงได้เป็นไทมาจนถึงทุกวันนี้

พวกคุณต้องการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย แต่พฤติกรรมนับวัน จะกลายเป็นคนป่าเถื่อน ไร้ซึ่งวัฒนธรรม สวนทางกับสิ่งที่คุณเรียกร้องเพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
#นาคราช

“วรวรรณ ธาราภูมิ” กลั่นจากก้นกระทะใจ โพสต์….
ในท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย ซับซ้อน หากมัวคิดถึงผลได้ผลเสียที่จะตามมา มัวแต่ห่วงว่า ถ้าจัดการอย่างหนึ่งแล้วจะมีผลตามมาอีกอย่างหนึ่ง
คิดแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปปกป้องใครแล้ว

เพราะถ้ามีเวลาคิดนานขนาดนั้น ก็แปลว่าเขาไม่คู่ควรให้ท่านปกป้อง
หากคิดจะปกป้องใคร ก็เพียงเพราะอยากทำ ต้องการทำอย่างแท้จริง ไม่มีเหตุผลอื่น ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง

หากท่านจะปกป้องใครจริง ท่านต้องคิดแต่อันตรายที่จะเกิดแก่คนที่เราอยากปกป้อง
แล้วออกตัวขวางทุกอันตราย ขวางทุกสิ่งทุกอย่าง และยินยอมเผชิญหน้ากับอันตรายนั้นเป็นคนแรก

นี่จึงเรียกว่า “การปกป้อง”
นี่จึงเรียกว่า “ความสัตย์ซื่อถือมั่น”
นี่คือความหมายของคำว่า “ภักดี”
วรวรรณ ธาราภูมิ

19 พฤษภาคม 2563
Loyalty is not about who acts true to your face. It’s about who remains true behind your back.
Averstu.com

และเช้าแก่ๆ เมื่อวาน ตามช่องทางสื่อสารทั้งหลาย ก็มี

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

“จากสถานการณ์การชุมนุมในห้วงที่ผ่านมาซึ่งรัฐบาลและทุกฝ่ายกำลังร่วมกันหาทางออกโดยสงบและสันติ บนพื้นฐานของกระบวนการตามกฎหมาย และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างไรก็ตาม……..

สถานการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง แม้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ใช้ความพยายามปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย
รวมทั้งติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการต่างๆ ตามหลักสากล ด้วยความระมัดระวัง
โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษาบรรยากาศของความรักความสามัคคีปรองดองของทุกคนในชาติ
เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสำคัญ
ปัจจุบัน สถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีนัก และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและสถาบันอันเป็นที่รัก ยิ่งรวมทั้งความสงบสุขปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคง จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติ

โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา ที่มีอยู่ ดำเนินการ ต่อผู้ที่กระทำความผิด ฝ่าฝืนกฎหมาย เพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
โดยจะดำเนินคดีต่างๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ที่สอดคล้องกับหลักการสากล”


ในบัดดล แกนนำกลุ่ม “คณะสามสัส” โพสต์เฟซสวน

“อานนท์ นำภา”
ประยุทธ์ ประกาศรบกับประชาชน
สำหรับข้าราชการที่ยังไม่เลือกข้าง ท่านต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่กับอดีตหรือจะสร้างอนาคตไปพร้อมกับพวกเรา

จะให้ความรุนแรงทั้งทางกฎหมายและทางกายภาพใดๆ กับผู้ชุมนุมก็เชิญตามแต่ความชั่วช้าของพวกท่าน

พวกเรายืนยันสันติวิธีขั้นสูงสุด ในการต่อสู้ครั้งนี้ และพร้อมจะยกเพดานการต่อสู้ทางสันติวิธีแบบที่เคยยกเพดานด้านข้อเรียกร้องเช่นกัน

ขอให้เพื่อนร่วมขบวนราษฎรเตรียมรับความชั่วช้าของประยุทธ์กับพวกให้พร้อม เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน และดูแลจิตใจให้เข้มแข็ง มุ่งมั่น ต่อสู้เพื่อสังคมใหม่ของเราทุกคน

ครับ……..
วันนี้ให้โพสต์แต่ละท่านเดินเรื่องเองได้อรรถรสมากกว่าให้ผมเขียนๆ คุยๆ
เห็นโพสต์ของนายอานนท์แล้ว รู้สึกไงครับ สำหรับผม หนาวววว (แทน) กับอหังการแห่งขุนพลกองทัพบกฏสามสัส!

แต่เมื่อวาน นอกจากมีโพสต์แสดงถึง “สุดทน” กับม็อบสามสัสแล้ว มีโพสต์หนึ่ง ฮือฮามาก ยกเว้น “ไมค์ ระยอง”

DrWarissara Siri
ถึงไมค์
ถ้าการเข้ามาในคุกไม่ได้ช่วยทำให้มีจิตสำนึกมากขึ้น
ก็อย่าได้ขึ้นเวทีไปให้ข้อมูลเท็จกับผู้อื่นในเรื่องของเรือนจำ…


เพราะเจ้าหน้าที่และผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคน มีความรักและเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด
เรายืนตรงเคารพธงชาติทุกวัน ไม่เคยมีใครชู 3 นิ้ว และเราเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีจากหัวใจ

และนั่นไม่ใช่แค่การกระทำ แต่ทุกลมหายใจเราพร้อมปกป้องซึ่งสถาบัน…
จำไว้
และเชื่อว่าคงจะได้เจอกันในนั้นอีกครั้งในไม่ช้า
DrWarissara Siri คือ……

“น.ส.วริศรา ศิริสุทธิเดชา” ผอ.ส่วนส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาจิตใจ กรมราชทัณฑ์

สืบเนื่องจากนายไมค์ ตอนได้ประกันตัวออกจากคุก ไปปราศรัยว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังพากันชู ๓ นิ้วใส่กล้องวงจรปิด ระหว่างร้องเพลงชาติ
ก็ขอให้โชคดีนะไมค์ ………

เอาหละ เมื่อรัฐบาลประกาศ จะใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา จัดการกับผู้ทำผิดกฎหมาย นับต่อจากนี้
ก็อยากดู….
ผู้ทรงอำนาจปฐมสถาปนามิติ “ธนาธร-ปิยบุตร” จะปรากฏกายแบบไหน?

แบบ “อ็องตวน” หรือ แบบ “ตีตรวน”?



Written By
More from plew
กรรมการเมือง ของประยุทธ์”
ต้องอ่าน “พระมหาชนก” วันละเที่ยวนะครับ ท่านนายกฯ จะได้มีกำลังใจ เพียรสู้ “ร้อยมาร-ล้านอุปสรรค” ที่ถาโถมทดสอบตบะ “วิริยะบารมี” ช่วงนี้
Read More
0 replies on ““ฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาล””