ป.ป.ส. ควง UNODC พาดูระบบรักษาความปลอดภัยของกลาง แจงยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีก 400 กว่ากระสอบ เตรียมให้ทุกหน่วยงานร่วมตรวจสอบสารเคมีพร้อมกัน เพราะจีนไต้หวันจับ 16 ตันเป็นยาเค 300 กก.เป็นของล็อตเดียวกัน ชี้รู้เบาะแสคนเช่าโกดังแล้ว ประสานตำรวจดำเนินคดีสาวถึงต้นตอ ยันไม่มีนักการเมือง-ผู้มีอิทธิพลเอี่ยว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 63 ที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 (สำนักงาน ปปส.ภ.1) หมู่ 3 ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายเจเรมี ดักลาส (Mr.Jeremy Douglas) ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก)

พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นางสาวกัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด​ สำนักงาน​ ป.ป.ส. และนายปฤณ​ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการส่วนสกัดกั้น ท่าอากาศ และ ท่าเรือ สำนักงาน ป.ป.ส.
ร่วมตรวจสอบสารเคมีจากการจับกุมยาเคตามีน 475 กระสอบ น้ำหนัก 11.5 ตัน ในโกดังสินค้าในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้น 60 กว่ากระสอบ ที่ตรวจพบว่าเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟตใช้ในการซุกซ่อนสารเสพติดส่งออกนอกประเทศ
นายวิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า วันนี้ตนได้พามาตรวจสอบอีกรอบ ให้ดูว่า พื้นที่เก็บของกลางมีรั้วรอบขอบชิด มีการตรวจตราและระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ในอาคารมีกล้องวงจรปิด 17 ตัว ข้างนอกอาคารอีก 16 ตัว รวมทั้งหมด 33 กล้อง ถ้าหากมีใครเข้าออกเราจะเห็นหมด
นอกจากนี้ ห้องเก็บของกลางมีการล็อกอย่างแน่นหนา ทั้งนี้การจับกุมในครั้งนี้เนื่องจากทางประเทศปลายทาง คือ จีนไต้หวัน ได้แจ้งเรามาว่า ได้จับกุมสารเคมี พร้อมเคตามีน จำนวน 300 กิโลกรัม ได้เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 63 จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวโดยไม่เป็นทางการ จากการที่เขาได้จับกุมผู้ต้องหาได้และได้มีการสอบสวนตามหลักฐานต่าง ๆ และได้ทำหนังสือมาถึงเราเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 63
เมื่อเราได้รับหนังสือแล้วจึงได้เริ่มสืบสวนในเรื่องของการส่งออก จนสามารถพบโกงดังสินค้าในพื้นที่อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 63 เบื้องต้นได้ใช้น้ำยาทดสอบแล้วผลออกมาเป็นสีม่วง ซึ่งตรงกับทางประเทศจีนไตหวันได้จับกุมและได้แจ้งทางเรามาว่าเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนต จากประเทศไทยจำนวน 16 ตัน และภายในจำนวนนี้ได้มีการซุกซ่อนเคตามีนมา 300 กิโลกรัม
นายวิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนได้พบว่า การนำเข้าไปที่ประเทศจีนไต้หวันพบว่ามาล็อตเดียวกับโกดังนี้เลย พบภายในโกดังสินค้าจำนวน 475 กระสอบๆ ละ 25 กิโลกรัม ซึ่งมีกระสอบที่แกะไว้จำนวน 66 กระสอบ เราได้ทดสอบเบื้องต้น ปรากฏว่ามีสีม่วง หลังจากนั้นได้นำไปทดสอบภายในห้องแล็บให้ละเอียดอีกครั้ง
โดยเฉพาะกระสอบที่ยังไม่ได้แกะก็จะได้แกะทดสอบอีกครั้ง ซึ่งจะเชิญหน่วยงานต่างๆ เข้ามาตรวจสอบร่วมกันด้วย ที่จีนไต้หวันจับมาแล้วของกลางทั้งหมด เป็นกระสอบชนิดเดียวกันและเป็นล็อตเดียวกับโกดังนี้ และวันนี้เราได้เชิญทีมจีนไต้หวัน เจ้าหน้าที่จาก UNODC เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาช่วยกันร่วมตรวจสอบ
ซึ่งตอนนี้เราตรวจสอบไปได้เพียง 60 กว่ากระสอบ ยังเหลืออีก 400 กว่ากระสอบที่จะต้องตรวจสอบร่วมกัน ระหว่าง ป.ป.ส. UNODC เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจน อย่างที่จีนไต้หวันเจอ 12 กระสอบเป็นยาเคที่ปะปนมากับสารแคลเซียมคาร์บอเนต จำนวน 16 ตัน
นอกจากนี้ ยังพบสารตั้งต้นที่นำไปผลิตยาบ้า และไอซ์อีกด้วย ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัย ขณะนี้เรามีรายละเอียดเบาะแสแล้ว คนที่เช่าเป็นคนไทย มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ เราขอเวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง ซึ่งในวันที่ 22 พ.ย. 63 เราจะไปแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทางตำรวจ หลังจากนั้นทางตำรวจก็จะดำเนินการสืบต้นทางที่มาต่อไป
“ในที่เกิดเหตุเราตรวจด้วยน้ำยาแล้วเป็นสีม่วง และการจับกุมที่จีนไต้หวันก็เป็นของล็อตเดียวกับที่นี่ และท่านรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ก็ให้นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่แล็บและมีการเร่งสอบถามผลการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ แต่ขั้นตอนในแล็บจะช้าหน่อยเป็นเรื่องธรรมดา
ฉะนั้นไม่มีเหตุที่เราจะไปปรับเปลี่ยนของกลางตามที่สังคมสงสัย ซึ่งผมขอยืนยันว่า ไม่มีนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง พบแต่เพียงว่าผู้เช่าโกดังคือใคร แต่หากเราพบว่ามีใครเกี่ยวข้องในขบวนการ เราพร้อมนำมาดำเนินคดี ไม่มียกเว้นใครอย่างแน่นอนของยืนยันกับประชาชนทุกคนได้” นายวิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
นายเจเรมี่ ผู้อำนวยการ UNODC กล่าวว่า ตนยินดีที่จะช่วยนำสารไปช่วยตรวจในแล็บของ UN ให้ เพื่อช่วยยืนยันว่าเป็นเคตามีนหรือสารอื่น โดยชุดตรวจพิสูจน์เบื้องต้นในภาคสนาม อาจพบการผิดพลาดได้ อย่างในเมียนมาและกัมพูชา ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อตรวจแล้วยังไงเราก็ต้องนำมาตรวจที่แล็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เป็นขั้นตอนปกติ


อย่างที่จีนไต้หวันได้ยึด 600 กว่ากระสอบ เจอเคตามีนแค่ 12 กระสอบ ส่วนไทยมี 400 กว่ากระสอบคงต้องตรวจอย่างละเอียดว่ามีเคตามีนเท่าไร ซึ่งที่ผ่านมาผู้ลักลอบขนยาเสพติดจะมีการอำพรางไว้ในของอย่างอื่นหลายอย่าง ส่วนการใช้สารไตรโซเดียมฟอสเฟต ตนพึ่งเคยพบครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นสีม่วง ทำให้เชื่อว่าเป็นเคตามีน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการตรวจสารนี้มาก่อน
นายปฤณ​ ผอ.ส่วนสกัดกั้น ท่าอากาศ และท่าเรือ สำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า การขนย้ายของกลางทั้งหมด มีหน่วยที่ร่วมขนย้ายทั้ง ตำรวจ ป.ป.ส. ขนขึ้นรถมา 2 คัน ออกจากโกดังมาที่ ป.ป.ส.ภาค 1เลย มีรถนำ รถปิดท้าย ออกจากโกดัง ในเวลา 17.00 น. ถึง ปปส.ภาค 1 เวลา 20.00 น.ใช้ความเร็ว 80 กม./ชม. และมี ผอ.ควบคุมการขนย้ายตลอดเวลา ซึ่งเสร็จเวลา 23.00 น.
โดยที่นี่มีระบบกล้องวงจรปิดจับภาพตลอดเวลา ทั้งข้างนอกและข้างใน มีกุญแจเปิดห้อง 2 ดอกเก็บไว้ที่เจ้าหน้าที่ 2 คนคนละดอก
นายวิชัย ไชยมงคลเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. จะนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจพิสูจน์ต่อไป ทั้งนี้ของกลางยังคงเก็บไว้ที่ห้องมั่นคง ณ สำนักงาน ปปส. ภาค 1 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพื่อรอหน่วยตรวจพิสูจน์มาร่วมตรวจพร้อมเพรียงกัน

Written By
More from pp
วางกลยุทธ์พิชิตธุรกิจ รับ นิว นอร์มอล หลังวิกฤตโควิด-19 สมาคมโรงแรมไทย จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “มาตรฐานความปลอดภัย ลูกค้าโรงแรมและร้านอาหาร ต้องการเห็นอะไรจากคุณ” ฟรี
วิกฤตโควิด-19 ทำให้ภาครัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งการออก พรก.ฉุกเฉิน และการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารโดยตรงทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้
Read More
0 replies on “ป.ป.ส. ควง UNODC พาดูระบบรักษาความปลอดภัยของกลาง แจงยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีก 400 กว่ากระสอบ เตรียมให้ทุกหน่วยงานร่วมตรวจสอบสารเคมีพร้อมกัน เพราะจีนไต้หวันจับ 16 ตันเป็นยาเค 300 กก.เป็นของล็อตเดียวกัน ชี้รู้เบาะแสคนเช่าโกดังแล้ว ประสานตำรวจดำเนินคดีสาวถึงต้นตอ ยันไม่มีนักการเมือง-ผู้มีอิทธิพลเอี่ยว”