ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ ว่าด้วยเรื่อง ตำนานเคาท์ดาวน์

ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์

ตำนาน countdown ในอดีตของผม ที่คนสมัยก่อนเรียกว่า คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ผมรู้จักคำว่า countdown และได้ทราบความหมายอันแท้จริง ตลอดจนได้ทำหน้าที่ เป็นผู้  “นับถอยหลัง” อยู่บนเวทีของโรงแรมเอราวัณเก่า เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งผมจะได้รับค่าตัว 10,000 บาท ในการ “ทำงาน” เป็นพิธีกรบนเวที พร้อมกับได้รับห้องพักฟรีอีก 1 คืน รวมอาหารเช้า

และต้องทำอย่างนี้อยู่อีกหลายปี จนโรงแรมเอราวัณ ได้เปลี่ยนมือจากเดิมซึ่งเป็นของรัฐวิสาหกิจมา เป็นของเอกชน หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้ทำหน้าที่นี้ และไม่เคยได้ไปร่วมงาน countdown ที่ไหนอีกเลย จนถึงวันนี้

ขอสรุปไว้ก่อนว่า บางช่วงชีวิตของผมในอดีตนั้น แทนที่จะได้สนุกสนาน ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมกลับต้องไป “ทำงาน” จนถึงค่อนคืนอยู่หลายปี

หน้าที่หลักอันสำคัญ ของผมซึ่งเป็นพิธีกร ก็จะไปยืนอยู่หน้าไมโครโฟน บนเวที แล้วก็ประกาศ ด้วยภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง แจ้งแขกที่มาในงานว่าเหลือเวลาอีก 2 หรือ 1 นาที ก็จะขึ้นวันใหม่ และเป็นปีใหม่ด้วย

พอเหลือเวลาอีกซัก 10 วินาที ผมก็จะเริ่มนับถอยหลัง เป็นภาษาอังกฤษ เริ่มตั้งแต่ 9 8 7 ซึ่งแขกในงานก็จะนับไปพร้อมๆ กับผม จนกระทั่งถึง 2-1-0 แล้วผมก็จะตะโกนว่า happy new year สวัสดีปีใหม่ครับ ผสมกับเสียงรัวกลองบนเวที ผสมเสียงไชโยโห่ฮิ้ว ปนกับเสียงชนแก้ว


บรรดาแขกก็จะชนแก้วกับเพื่อนที่มาในงาน ถ้าเป็นแขกฝรั่ง ที่มากันเป็นคู่ๆ ชายหญิง ก็จะหอมแก้มหรือจุ๊บปากกัน แต่สมัยนั้น
คู่ผู้ชายกับผู้ชายยังไม่กล้าจูบกันในที่สาธารณะ ผมจึงไม่ได้เห็น ในขณะเดียวกันวงดนตรี ก็จะบรรเลงเพลงสามัคคีชุมนุม ก็คือเพลง Auld Lang Syne นั่นเอง

จากนั้นดนตรีก็จะเล่นเพลงสวัสดีปีใหม่ และตามด้วยเพลงสนุกๆ ครึกครื้น แขกในงานก็จะออกไปเต้นรำ เมื่อได้เวลาอันสมควร ผมก็จะทำหน้าที่จับหางบัตร แจกรางวัลให้ผู้โชคดี หลังจากนั้นอีกไม่นาน ถึงเวลาประมาณ 01:00 น. ของวันใหม่ ก็ปิดงาน แต่ผมกับเพื่อนๆ และเจ้าหน้าที่โรงแรม  เช่นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กับแฟนของเขา ก็ยังคงนั่งสรวลเสเฮฮากันต่อ รับวันใหม่ของปีใหม่ ส่วนผมก็รับเงินสดๆ ไป 10,000 บาท ในสมัยนั้นก็ถือว่าได้ราคาดีพอสมควร

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า เราเองก็ทำงานหนักตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เหตุไฉนคืนวันสุดท้ายของปีที่คนอื่นๆ เขาสนุกสนานเฮฮาส่งท้ายปีกัน แต่เรากลับต้องมาทำงานในอาชีพ ของเราอีก เราเห็นแก่เงินเกินไปหรือเปล่า?

แต่ก็ตอบได้ว่า เปล่าเลย เพราะในความเป็นจริง ตอนที่เราอยู่ในงานเราก็สนุกสนานเฮฮาเหมือนคนอื่น แต่พอจบงานก็มีเราคนหนึ่งล่ะที่ได้รับเงินสดๆ หลังจากปีเก่าผ่านไปเพียงไม่ถึงชั่วโมง

แต่เมื่อคืนนี้ (31 ธ.ค.2563) และในวัยนี้ ผมก็หลับปุ๋ยแต่หัวค่ำ ไม่ได้รู้สึกดูดำดูดีอะไรกับคืนวันสงท้าย ปีเก่าต้อนรับปีใหม่เลย

สวัสดีปีใหม่ 2564 จากเชียงรายครับ

0 replies on “ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ ว่าด้วยเรื่อง ตำนานเคาท์ดาวน์”