1. สถานการณ์โรคโควิด-19 ทุกวันนี้พบตัวเลขผู้ติดเชื้อเกินหลักร้อยและมีบางส่วนเสียชีวิตเพิ่มเติม จึงอยากให้ทุกคนต้องตระหนักให้มากและร่วมมือกับรัฐบาลอย่างจริงจัง เป็นเวลาสำหรับทุกคนที่ต้อง “รวมไทยสร้างชาติ ร่วมต้านโควิด-19” เริ่มจากการป้องกันตัวเอง ครอบครัว และสังคมใกล้ตัว
หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงเหล่านั้นแล้วพบมีอาการสงสัยหรือเกรงว่าจะติดเชื้อก็ให้รีบไปพบเจ้าหน้าที่ทีทันที และแจ้งข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการเดินทางไปในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจะได้แก้ไขปัญหา
สำหรับพื้นที่ที่ได้ออกข้อกำหนดในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด คือ จ.สมุทรสาคร จันทบุรี ชลบุรี ระยอง และตราด โดยได้กำหนดว่าใครที่จะเดินทางเข้าออกต้องมีเอกสารรับรองความจำเป็น รวมถึงผู้ที่ปกปิดข้อมูลการเดินทางด้วย หากฝ่าฝืนต้องได้รับโทษ ขอยืนยันว่าทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของการควบคุมโรค
สำหรับ วัคซีนป้องกันโควิดนั้น มีความตั้งใจว่าภายในปีนี้จะฉีดให้ได้อย่างน้อย 50% ของประชากรไทยหรือมากกว่านั้นขึ้นกับปริมาณยาที่ได้รับจากต่างประเทศและบางส่วนที่จะมีการผลิตเองของประเทศในระยะต่อไปเพื่อฉีดให้กับประชาชนทั้งประเทศ ตลอดจนการดูแลไปถึงประเทศในอาเซียนด้วยหากทำสำเร็จ
โดยครั้งแรกให้เริ่มจากกลุ่มเสี่ยงก่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ อสม. ผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ที่ต้องมีการปฏิบัติงานหรือมีการพบประกับประชาชนจำนวนมาก เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ด่านตรวจ จุดสกัดต่าง เป็นต้นแบ่งเป็น เดือน ก.พ. 200,000 โดส/เดือน มี.ค. 800,000 โดส/เดือน เม.ย. 1,000,000 โดส/เดือน พ.ค. 26,000,000 โดส/จากนั้นจะจัดหาเพิ่มอีก 35,000,000 โดส เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ขอให้ทุกคนได้เชื่อมั่นศรัทธา รัฐบาลก็จะดูแลให้ดีที่สุด
รวมทั้ง เร่งจัดหาสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นจะตั้งในพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ เพื่อดูแลคนของจังหวัดตัวเองขอให้เชื่อมั่นว่าโรงพยาบาลสนามทุกแห่งจะมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการโหลดแอพพลิเคชันหมอชนะว่า กรณีที่ประชาชนบางคนมีโทรศัพท์ที่ไม่สามารถโหลดแอพพลิเคชันดังกล่าวได้นั้น ไม่ได้ถือเป็นความผิดแต่อย่างใด แต่ขอให้ลงทะเบียนเพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและตรวจสอบได้
แต่ในส่วนที่ประชาชนมีโทรศัพท์ที่สามารถโหลดแอพพลิเคชันได้ก็ขอความร่วมมือให้ดาวน์โหลดไว้ด้วย พร้อมปฏิเสธกรณีข่าวลือเรื่องเงิน 4,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลใช้เงินอย่างระมัดระวัง และมีงบประมาณเพื่อรองรับเรื่องนี้เพียงพอ
เช่น งบรายจ่าย ปี 2564 กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิดกว่า 139,000 ล้านบาท และยังมีวงเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1,000,000 ล้านบาท
2) ปัญหาบ่อนการพนันและแรงงานผิดกฎหมาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ถือเป็นต้นเหตุสำคัญของการแพร่ระบาด ต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี ซึ่งอาจมีนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเสนอผลประโยชน์ให้
ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันขจัดคนไม่ดีออกไป โดยให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา หาทางออก ไม่โทษกันเอง นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากใครก็ตาม ซึ่งต้องหาวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างเหมาะสม ดำเนินการบนพื้นฐานของกฎหมายอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที นายกรัฐมนตรีย้ำว่าทุกวันนี้ทำเพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อส่วนตัวหรือญาติพี่น้อง
3) สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์ประจำวันและแสดงความเป็นห่วง โดยกล่าวให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้แก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด และได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยและกองทัพ และหน่วยงานอื่นๆ ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ จัดกำลังพลและอุปกรณ์ลงไปช่วยเหลือให้ทันท่วงที ส่วนพื้นที่ไหนที่เริ่มคลี่คลายแล้ว จะต้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมการฟื้นฟูทั้งด้านกายภาพ จิตใจ และความเดือดร้อนของประชาชน อย่างทั่วถึง
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งความยากลำบาก ทุกคนต้องช่วยกันเสียสละ เชื่อว่าหากเราช่วยกันทำทุกอย่างให้ดี ประเทศไทยก็จะมีโอกาสอีกมากในโอกาสต่อไป พร้อมห่วงใยประชาชนทุกคนเสมอ เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน ช่วยกัน รวมใจไทยสร้างชาติ ต้านโควิด และเชื่อว่าทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยน้ำมือคนไทยทุกคน
