“สามารถ” โต้ “ปิยบุตร” อย่าเล่นการเมือง หรือชี้นำสังคมโดยข้อมูลเท็จ

9 ม.ค.64-นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์โดยระบุว่า ตนได้รับข้อมูลจากประชาชนที่ส่งมาให้กรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อมวลชน วานนี้ 8 ม.ค.64 ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน รวมทั้งต้องแก้ไของค์กรอิสระ

ตนคิดว่า นายปิยบุตร ออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจึงออกมาชี้แจงเพื่อให้สังคมเข้าใจ โดยการหยิบยกว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นระบบประชาธิปไตย ซึ่ง นายปิยบุตร คงเข้าใจผิด

เพราะรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวหากดีจริงคงไม่เกิดการปฏิวัติบ้านเมืองใน พ.ศ.2549 อย่างแน่นอน

ถ้าจำกันได้ช่วงเวลาขณะนั้นเกิดการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย ใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภา ทำให้ประชาชนเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549

นายสามารถ เผยว่า ตนอยากให้ นายปิยบุตร นั้นอยู่กับความเป็นจริงว่าอะไรที่ควรทำเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา นายปิยบุตร พยายามชักจูงคนให้เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อีกทั้งตนเห็นว่า นายปิยบุตร เป็นกุนซือให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาโดยตลอด ตั้งแต่การเปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ที่กระแสตอบรับดีมากแต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง 2 ปี ก็เห็นแล้วว่าแนวคิดของ นายปิยบุตร ผิดเพี้ยนไม่ถูกต้องทำให้คะแนนนิยมของพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันคือพรรคก้าวไกลน้อยลง

ซึ่งเห็นได้จากการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่แกนนำคณะก้าวหน้าต่างลงพื้นที่หาเสียงและรองเท้าขาดไปหลายคู่ กลับไม่ได้นายก อบจ. เลยแม้แต่แห่งเดียว เพราะแนวคิดเช่นนี้พ่อแม่พี่น้องประชาชนไม่ต้องการ

แถมคะแนนเสียงได้เพียง 2,670,792 คะแนน ทั้งๆที่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง อบจ นายปิยบุตรพร้อมทั้งทีมคณะก้าวหน้าเดินหาเสียงจนรองเท้าขาดไปหลายคู่ ผิดกับตอนเปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ ไม่ต้องเดินหาเสียงได้มา 6,265,950คะแนน แปลว่าคะแนนน้อยลงไปเกือบ 300เปอร์เซ็นต์

นายสามารถ เผยอีกว่า แปลว่าประชาชนต้องการการเมืองแบบใหม่ที่เข้าใจประชาชนและรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นสิ่งที่ นายปิยบุตร พูดมาตลอดไม่ใช่แนวความคิดของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศไทย

ตนเคยเตือน นายปิยบุตร อยู่หลายครั้ง ส่วนองค์กรอิสระก็มาจากรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 และไม่เคยถูกแทรกแซงจากหน่วยงานใด แต่มีอำนาจตรวจสอบการบริหารงานของทางราชการ ซึ่งประเทศไทยแบ่งอำนาจการบริหารเป็น 3 ฝ่าย ทั้ง ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ โดยองค์กรอิสระจะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจเพื่อให้เกิดการถ่วงดุลตามหลักนิติธรรม นิติรัฐ


“นายปิยบุตร น่าจะเข้าใจโครงสร้างประเทศ หรือเพราะนายปิยบุตรอาจเป็นนักกฎหมายจึงไม่เข้าใจโครงสร้างรัฐศาสตร์ ก็ควรเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดินจะได้ไม่ต้องทำผิดกฎหมาย

ขออย่าเล่นการเมืองหรือชี้นำสังคมโดยข้อมูลเท็จ ให้รู้จักเสียสละส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นอกจากนี้ ฝากสุภาษิตจีนถึง นายปิยบุตร เรื่องการใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น ว่า ฟ้าดินอยู่ได้ยาวนานเพราะไม่ได้เกิดมาเพื่อตัวเอง จึงอยากให้นายปิยบุตรทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติบ้าง อย่าทำเพื่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง

ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนไม่ได้ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 ผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถเปิดประเทศได้อีกครั้ง อย่าลืมว่ารายได้หลักทางหนึ่งของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยว ดังนั้นถ้าแก้ปัญหาโควิดได้เร็ว ก็จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างรวดเร็ว จึงขอให้นายปิยบุตรนึกถึงส่วนรวมให้มากนึกถึงตัวเองให้น้อย จะดีต่อตัวนายปิยบุตรเอง ”นาย สามารถกล่าว

 

Written By
More from pp
“ดอท เจพีจี คาดรายได้ปีนี้โตเพิ่ม 30% รับงานโฆษณาล้นมือ ภาคเอกชนเตรียมก้าวยุคดิจิทัล 5.0
คุณอิศราภา สนิทประชากร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย คุณศลิษา ศรีธงชาติ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอท เจพีจี จำกัด บริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณาออนไลน์ และเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัล...
Read More
0 replies on ““สามารถ” โต้ “ปิยบุตร” อย่าเล่นการเมือง หรือชี้นำสังคมโดยข้อมูลเท็จ”