ชาติหน้า “ไทยก็ไม่ถังแตก”

เปลว สีเงิน

โอ๊ะ…ท่าจะหนักจริง “ทั้งโลก” ยกเว้นไทยเรา
ที่คิดกันว่า ซักปี-สองปี โควิด ก็คงไป
ดูท่า มันไม่ไปง่ายๆ ซะแล้ว!
และมีความน่าจะเป็นสูงด้วยว่าระดับ “๒๐๐ ล้าน” ของคนป่วย และ ๕-๑๐ ล้าน ของคนตาย จะเป็นเป้าหมายที่โควิดมุ่งทำยอด
เพราะ สหรัฐ-ยุโรป กระทั่งเอเชียหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ธรรมชาติอุ้มสม สร้างอุณหภูมิให้เป็นห้องเพาะเชื้อ-ขยายพันธุ์โควิดได้เหมาะเจาะเหลือเกิน

เพราะหนาวปีนี้ ขั้น “โคตรๆ หนาว” ขนาดหิมะ ตกเอง ยังสั่นเองด๊กๆ
โควิดบอก แบบนี้ ต่อให้พ่อวัคซีนมา ก็พร้อมชน!

ชาวโลกกำลังเจอ ๒ เด้ง
เด้งแรก เด้งโควิด เด้งที่สอง เด้งขาดแคลนอาหาร!

ยกเว้นไทยเรา เจอเด้งเดียวพองาม คือเด้งโควิด ส่วนเรื่องอาหาร อยากจะรับประทานแบบไหนล่ะจ๊ะ ทั้งสด-ทั้งแห้งเหลือเฟือ
ขาดอย่างเดียว ที่ไม่เหลือเฟือ คือ “เงิน”!

เมื่อวาน (๑๒ มค.๖๔) เห็นนายกฯประยุทธ์แถลงเอง จะ “เยียวยาทุกคน” อีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานนอกระบบ อาชีพอิสระ เกษตรกร

เอาไปเลย ๗,๐๐๐ ล้านบาท แจกกันเห็นๆ คนละ ๓,๕๐๐ บาท ต่อเดือน เป็นเวลา ๒ เดือน

“ไม่ผ่านคนกลาง” โอนเข้ากระเป๋าเงินยุคดิจิทัลโดยตรง รับประกัน ได้ดูดไอติมกันเต็มแท่งทุกคน

แต่เชื่อเหอะ…….
เยียวยา-ก็ (มีคน) ด่า,ไม่เยียวยา-ก็ (มีคน) ด่า และพวกริษยาลุงตู่ลงตับ จะฉอดๆ “รัฐบาลเก่งแต่กู้-ดีแต่แจก”!

ผมขอยุรัฐบาล แจกไปเลย
และแจกอีก ขนาดว่าใครตั้งท้องเมื่อคืน เอาใบหมอมายืนยัน รับค่าเยียวยาไปอีกหัวในท้อง

แจกให้โลกมันรู้ซะบ้าง ว่าประเทศไทย ถึงกระจอก ก็ “กระจอกเทศ”
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย อันดับ ๑๒ ของโลกนะเว้ย มีตั้ง ๒๗๕,๒๐๓.๑๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ตีเป็นเงินบาท นอนเย็นๆ เป็นเครดิตเศรษฐกิจและฐานะประเทศ มากกว่า ๘,๗๑๔,๐๓๑.๒๕ ล้านบาท

พูดจะหาว่าคุย……..
มากกว่าสหรัฐฯ ที่พิมพ์แบงก์ได้เองซะอีก มีเงินสำรองฯแค่ ๑๓๒,๒๓๙ ล้านเหรียญ เป็นอันดับ ๒๐ ของโลก

จะแพ้สหรัฐฯ ก็ตรงทองคำนี่แหละ สหรัฐฯเขามี ๘,๑๓๔ ตัน มากอันดับ ๑ โลก
แต่ไทยเรา มีทองคำสำรอง อันดับ ๒๘ โลก ด้วยจำนวน ๑๕๔ ตัน คิดเป็นสัดส่วนเงินทุนสำรอง ๓.๕%

รู้แล้ว พวกเราทุกคน นึกน้อมถึงบุญคุณ “พระหลวงตาบัว ญานสัมปันโน” กันด้วย แล้วกราบในใจกันซะ

ด้วยอนาคตังสญานของหลวงตาพระผู้วิมุต คราวต้มยำกุ้ง ปี ๒๕๔๐ หลวงตามองเห็นอนาคตประเทศ จึงทอดผ้าป่าทองคำช่วยชาติ สะสมทองเข้าท้องพระคลังหลวงไว้ให้
ตอนนั้น ทองบาทละราวๆ ๔,๐๐๐ กว่า แต่ ณ วันนี้ ๑๒ มค.๖๔ จากบาทละสี่พัน เป็นบาทละ ๒๖,๕๕๐ บาท!

เอาทองคำ ๑๕๔ ตันในท้องพระคลังมาคำนวณเป็นเงินเล่นๆ ว่านอกจากเงินสำรองฯ ในรูปเงินสกุลต่างๆ แล้ว
รวมกับมูลค่าทองคำ ไทยเราจะมีเงินสำรองฯ ขนาดไหน พวกแช่งชักประเทศ อย่าเพิ่งอกแตกตายก่อนซะล่ะ

ทองคำ ๑ ตัน เท่ากับ ๑,๐๐๐ กิโลกรัม
ทองคำแท่ง ๑ กิโล คิดเป็นน้ำหนัก ๖๕.๕๙๙ บาททอง
ทองหนัก ๑ บาท ราคา ณ วันนี้ ๒๖,๕๕๐ บาท

ไทยเรามีทอง ๑๕๔ ตัน ก็เข้าสูตรคูณเลย
ทอง ๑ ตัน เท่ากับ ๖๕.๕๙๙ X ๑,๐๐๐ =๖๕,๕๙๙ บาททอง
ทอง ๑๕๔ ตัน จึงเท่ากับ ๖๕,๕๙๙ X ๑๕๔ =๑๐,๑๐๒,๒๔๖ บาททอง ที่เป็นทุนสำรองประเทศ

อยากรู้ว่า ๑๐,๑๐๒,๒๔๖ บาททอง จะเป็นเงินซักกี่บาทไทย
ก็ไม่ยาก เอา ๑๐,๑๐๒,๒๔๖ ตั้ง คูณด้วย ๒๖,๕๕๐ ที่เป็นราคาทองคำแท่งปัจจุบันเข้าไป ก็จะได้ตัวเลข
๒๖๘,๒๑๔,๖๓๑,๓๐๐ บาท!

โอ๊ะ…พ่อเจ้า-แม่เจ้า ช่วยอ่านที ผมอ่านไม่ถูก หรือคิดเลขผิดก็ไม่แน่ใจ ใครช่วยยืนยันทีเหอะ

ยอมรับตรงๆ ทองคำผมมีไม่ถึงตัน พอมาเจอระดับร้อยตันขึ้น งงเลย คิดไม่ถูก!

เนี่ย….
เอาตัวเลขเงินสำรองฯ ในรูปสกุลเงินกับทองคำไปคิดกันเล่นๆ ให้เห็น ยังมีหน้าไหนจะพูด ว่าประเทศไทยหมดตูด…รัฐบาลถังแตกอีกมั้ย?

นี่ยังไม่พูดถึงมูลค่าสำรองฯ ในรูป “ทรัพยากรอาหาร” ที่ประเทศไทยเรามีทุกประเภทขั้นเหลือเฟือนะ

สมมติเล่นๆ พรุ่งนี้ “โลกแตก” ดังโพล๊ะ!
ที่ตายก็ตายไป ผมไม่ตายอยู่แล้ว ที่เหลือ…พลโลก (ยกเว้นคนอยู่ในประเทศไทย) ไปถามมหาเศรษฐีอันดับ ๑-๕๐๐ ของโลกดูซิ?

จะกินผักหญ้า-ข้าวปลาอาหาร หรือจะกินดอลลาร์-ทองคำ?

อดตายหมดแหละ เหลือไม่กี่ประเทศในอาเซียนที่ยากตาย โดยเฉพาะไทย เพราะถึงกระดาษที่เรียกธนบัตรกินไม่ได้ ทองคำกินไม่ได้

เราเอาไปหล่อพระทองคำองค์ใหญ่ๆไว้เป็นอาหารใจได้ ส่วนอาหารเลี้ยงร่างกาย อยากกินซีฟู้ด โดดลงน้ำ อยากกินผัก หลับตาเดินก็ชนต้นกระถิน
อยากกินประเภทโปรตีน เอาจะตีนไหนล่ะ ประเภทเนื้อ หรือแมลง หรือหนอน ผมไปดอยแม่สลองเดือนก่อน โปรตีนด้วยหนอนไม้ไผ่ซะขยั้นกระเพาะ

เงิน-ทอง เก็บไว้เฉยๆ ไม่บูด-ไม่เน่าก็จริง
แม้ไม่ไร้ค่า แต่เมื่อไม่หมุนเวียนสร้างประโยชน์ มันก็ไร้ราคาในตัวมันเอง เป็นแค่กระดาษกับก้อนแร่ธาตุเฉยๆ

นี่ถ้าโควิดมันยังไม่ไปไหน วนเวียนอยู่กับเราทั้งปีหรืออีกเป็นปีๆ สภาพนี้ เราไม่ตายกันหมดหรือ?
ตาย…ทั้งหวังอยู่-หวังเต๊ะ ตายหมด!

แต่ถ้าแปลงมูลค่าเงินและทองทุนสำรองฯเป็นธนบัตรรดเลี้ยงรากเศรษฐกิจและสังคมประเทศให้เคลื่อนไหวมีทั้งชีวิตและชีวา

แบบนั้นแหละเงินทุนสำรองฯ จึงจะมีทั้งค่าและราคาตรงตัวของมัน โดยโภชผลที่เกิดนั้น จะตรึงเงินนอกให้นอนนิ่ง

ก็มันจะเอากระดาษไปไหนกันล่ะ ในเมื่อทั้งโลกรู้ ไทยนี่แหละ Safe Haven คนต่างประเทศน่ะ รู้ทุกซอก-ทุกมุมของกำปั่นประเทศไทย มากกว่าคนไทยซะอีก


ทั้งเงิน-ทั้งทองสำรองฯ ของเราแน่นปึ๊ก แบงก์ชาติเราบริหารมาตรฐานโลก
การรู้ว่าสถานการณ์ไหน-เวลาไหนควรเก็บ ควรแปลงสินทรัพย์ที่เก็บ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีเป้าหมาย มันจะเป็น “ล็อก ๒ ชั้น” ด้านเชื่อมั่นต่อความเสถียรของไทยด้วยซ้ำ

สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น ใช้มาตรการ QE มาแล้วกี่ปี ไม่เห็นมันกลายเป็นกระดาษอย่างที่พูดกันซักที

ปีที่แล้ว อินโดฯ มีเงินทุนสำรองฯ แค่ ๑๓๐,๕๔๔ ล้านเหรียญ น้อยกว่าไทยตั้งครึ่ง อยู่อันดับ ๒๑ ของโลก
แบงก์ชาติเขาใช้มาตรการ QE แก้ปัญหาเศรษฐกิจและกันเงินไหลออก ใครๆ นึกว่ารูเปียห์พังแน่
แต่ “เอาอยู่” ตามฐานานุรูป ไม่รูดอย่างที่คิดกัน!

แล้วไทย ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ “ดาวรุ่ง” อันดับต้นๆ ในภูมิภาค แต้มต่อเหลือเฟือ

ฉะนั้น ถ้าวิกฤติโควิดทำให้เศรษฐกิจถึงขั้นแห้งขอด ยังไงๆ ไทยเราก็ไม่เป็น “บัวแล้งน้ำ” เชื่อเหอะ
“เงินทองแค่ของมายา” เข้าใจกันดีมิใช่หรือ?

เชื่อรัฐบาลลุงตู่และแบงก์ชาติบริหารเหอะ ถึงจุดนั้น พิมพ์แจกมันรายหัว ๕ นิ้วก็แจก ๓ นิ้วก็แจก ลิ้น ๒ แฉกก็แจก

เงินมันจะไปไหน เมื่อเงินไปทำงานจนเศรษฐกิจหมุน
สุดท้าย มันก็เป็นกระดาษ เป็นดิจิทัลบาท
ไหลกลับไปเก็บที่คลัง “มากกว่า” เดิมด้วยซ้ำ!



Written By
More from plew
“อาคม” ผู้มาคู่ “ช้างเอราวัณ”
ไม่มีอะไรลงตัวไปกว่านี้อีกแล้ว….. เมื่อวาน (๕ ตค.๖๓) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำประกาศ “นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
Read More
3 replies on “ชาติหน้า “ไทยก็ไม่ถังแตก””
  1. says:

    ๒๖๘,๒๑๔,๖๓๑,๓๐๐ ล้านบาท ต้องตัดคำว่าล้านออกครับ พิมพ์เกินไป

  2. says: ธน

    ชาติหน้าไทยก็ไม่ถังแตกนี่ ไม่จริงน้า
    ทองคำสำรองที่มีคิดแล้วแค่สองแสนกว่าล้านบาท
    ใช้เยียวยาโควิดระลอก2 ยังไม่พอเลย

Comments are closed.