ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ “ว่าด้วยเรื่อง Ban Sponsors”

พ.อ.การุณ เก่งระดมยิง เป็นเสมือน บิดาแห่งการ “Ban Sponsors” โดยห้ามโฆษณากาแฟ และ ชา ในรายการที่ท่านเป็นเจ้าของ และเป็นพิธีกรและผู้จัด เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว

เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วมาสถานีโทรทัศน์ขาวดำช่องเจ็ดสนามเป้า มีรายการโทรทัศน์ยอดฮิต ออกอากาศทุกบ่ายวันอาทิตย์ ชื่อรายการ Pop-Top เจ้าของรายการเป็นพิธีกรเอง คือ ผู้การฯ การุณ เก่งระดมยิง และเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของช่องนี้ด้วย

ซ้าย – ดำรง พุฒตาล / ขวา – พ.อ.การุณ เก่งระดมยิง

ตัวผมเอง ได้ฝึกงาน ได้เรียนรู้ ได้หัดเป็นโฆษก และเป็นลูกมือของท่านผู้การคนหนึ่ง ซึ่งได้รับรู้ประสบการณ์ตรงอย่างมหาศาลจากรายการนี้

รายการนี้ มีนโยบายที่เป็นกฎเหล็กอย่างเข้มแข็ง คือไม่รับโฆษณาสินค้า กาแฟ และชา โดยเด็ดขาด

ซึ่งสมัยนี้เรียกว่า Ban Sponsors แต่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ เนชั่นช่อง 22 ประสบอยู่

Ban แปลว่า “ห้าม” สมัยนั้น เจ้าของรายการเห็นว่า ชา และกาแฟ เป็นของเสพติดเป็นพิษกับเยาวชนไม่สมควรที่จะมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ ที่พวกเรามีส่วนร่วมในรายการ ทั้งๆ ที่สินค้าดังกล่าวนี้ มีความประสงค์เป็นอย่างยิ่งที่จะมาลงโฆษณา เพราะเป็นรายการที่มียอดคนดูสูงที่สุดในสมัยครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาแล้ว

ซ้าย-ดำรง พุฒตาล / กลาง-ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ / ขวา-อาทร จุลโลบล

แต่คำว่า Ban Sponsors ที่กำลังเป็นปัญหาของสถานีโทรทัศน์เนชั่นช่อง 22 นั้น ต่างกัน หรือตรงกันข้าม กับสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง

ก็คือ Sponsors เป็นฝ่าย Ban สถานี พูดง่ายๆ ก็คือ น้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง บริษัทประกันภัยประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง และบริษัทที่บริการส่งอาหารถึงบ้านอีกบริษัทหนึ่ง ประกาศ Ban หรือ “ห้ามลง” โฆษณาสินค้าดังกล่าว ในรายการของ Nation TV

นี่เป็นอีกมิติหนึ่งที่ เจ้าของสินค้าเป็นฝ่าย Ban รายการโทรทัศน์ อันตรงกันข้ามกับสมัยผมเริ่มจัดรายการ สถานีโทรทัศน์จะเป็นฝ่าย Ban สินค้า

ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ผมเริ่มทำหนังสือคู่สร้างคู่สม ผมก็เป็นสื่อนิตยสารที่ออกกฎเหล็กว่า คส.คส. จะ Ban สินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เหล้าเบียร์ ทุกชนิด ห้ามลงโฆษณาในหนังสือของผมโดยเด็ดขาด และทีมงานกองบรรณาธิการก็ ได้ปฏิบัติตาม กฎข้อนี้อย่างเคร่งครัดตลอด 38 ปีของหนังสือคู่สร้างคู่สม พูดง่ายๆ คือ ดำรงแบน เหล้าเบียร์ห้ามลงโฆษณาในหนังสือ คส.คส.โดยเด็ดขาด

การที่จู่ๆ สินค้าสองสามชนิดปฏิเสธไม่ให้โฆษณาในรายการโทรทัศน์ เป็นเรื่องที่จะต้องคิดลึกๆ ให้ละเอียด

ถามว่าจู่ๆ เจ้าของสินค้าคิด Ban ทีวี ช่องดังกล่าว ด้วยความคิดของเจ้าของสินค้าเองหรือ

ไม่ใช่ ครับ ! แต่ความจริงมันเป็นอิทธิพลของกระแสประชาชน และมหาชน ที่ได้รับข่าวสารผ่านสังคมออนไลน์ ก็พวกโซเชียลมีเดียต่างๆ ช่วยกันปลุกกระแส ไม่ให้ประชาชนไปซื้อ สนับสนุน หรือใช้บริการของสินค้าดังกล่าว

ซึ่งเกิดผลทันที ก็คือยอดขายของสินค้าทั้งหมดนั้น หายไปเป็นจำนวนมาก แน่นอนย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจการค้าทันทีและทันใดเสียด้วย

ถามว่าเจ้าของสินค้าทั้งหลายที่ถอนโฆษณา ไม่ชอบ Nation ช่อง 22 หรือเปล่า??

ตอบคือ เปล่าเลย

และถามว่ามวลมหาประชาชนชาวโซเชียลมีเดีย ไม่ชอบสินค้าทั้งสามตัวหรือเปล่า

ก็น่าจะตอบได้ว่าก็เปล่าเลยอีกนั่นแหละ

กลุ่มก้อนที่ไม่ชอบเนชั่นทีวี จะพูด จะลง โซเชียลมีเดียกันอย่างไรก็ได้ผลเพียงน้อยนิด

แล้วจะทำอย่างไรถึงจะส่งผลให้ช่องนี้เดือดร้อนอาจจะถึงขั้นปิดสถานีหรือหยุดกิจการไปเลยก็ได้

สังคมโซเชียลก็สื่อถึงกัน และร่วมมือกัน ไม่ดื่ม ไม่ใช้ บริการของสินค้าดังกล่าว ซึ่งผมได้ทราบข่าวมาจากนักข่าวท่านหนึ่งบอกว่า “น้ำดื่ม” ยี่ห้อนั้นกระทบกระเทือนมาก เพราะเป็นน้ำดื่มยอดนิยมของวัยรุ่น

ในสหรัฐอเมริกา มีห้างสรรพสินค้าชื่อดัง คือ Wall Mart มีสาขาอยู่เกือบจะทุกเมือง ทุกรัฐ น่าจะหลายพันสาขา มีอยู่วันหนึ่งพนักงานขายของห้างได้พูดจา หยาบคายดูหมิ่น ลูกค้าชาวอเมริกันผิวดำ จิกหัวเรียก ลูกค้าคนนั้นว่า “ไอ้นิโกร” ซึ่งคนผิวดำถือว่าเป็นคำหยาบคายมาก และพวกเขาก็จะโกรธมาก

กลุ่มคนผิวดำทำอย่างไรทราบมั้ยครับ?

สมัยนั้นพวกคนดำเค้าไม่ได้ชุมนุม ไม่ได้ประท้วง ไม่ได้ทุบกระจก ไม่ได้เผาห้าง Wall Mart แต่คนดำทั้งหมดทั่วประเทศอเมริกาก็ Ban ห้างสรรพสินค้าห้างนี้ โดยพร้อมใจกันไม่เข้าไปซื้อสินค้าในห้างนี้เลยทั่วประเทศ เป็นการต่อต้านและประท้วงแบบอารยะที่ทำให้ผู้ถูกประท้วงได้รับผลกระทบทันทีทันใดและเห็นทันตา และสงบเงียบดีดว้ย ตำรวจหรือทหารหรือฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ต้องทำอะไรเลย

ในสมัยนั้นไม่ต้องพูดถึงโซเชียลมีเดีย แม้แต่โทรศัพท์มือถือ ก็ยังไม่รู้จักกัน แต่คนอเมริกันผิวดำ ก็สามารถทำให้ห้างดังกล่าวต้องเสียเงิน ลงโฆษณาขอโทษ ขออภัย และแสดงความเสียใจ ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์รายวัน นิตยสารต่างๆ เป็นเงินมหาศาลหลายพันล้านบาท หรืออาจจะเป็นหมื่นล้านก็ได้ เพราะจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้ได้ทั่วประเทศอเมริกา

ชัดเจนมากเลยครับว่า พลังของประชาชนนั้น ไม่ว่าจะฝ่ายไหน เป็นพลังที่มีอำนาจเหนือพลังต่างๆ อย่างสิ้นเชิง



Written By
More from pp
กรุงเทพฯ จมหายจากแผนที่โลก? – สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน “…ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน…” ลองถ้าเพ้อถึงขั้นนี้ ผมว่าหมอชลน่านช่วยกรุณากระซิบนายเหนือหัวเถอะ.. “พอได้แล้วครับนาย”! นี่ไง.. “พูดจาปากไม่เชื่อมสมอง” ของแท้ล่ะ ถ้าขี้ข้า-หมาในคอกไม่บอก-ไม่ช่วยกันปรามหรือร้องขอให้...
Read More
0 replies on “ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ “ว่าด้วยเรื่อง Ban Sponsors””