เปลว สีเงิน
การชุมนุมภายใต้ “รัฐธรรมนูญคุ้มครอง” หมดโปรไปนานแล้ว
มีแต่…..
“กลุ่มก่อการรับจ้าง” ใช้ยุทธิวิธีกองโจรโจมตีตำรวจสร้างสถานการณ์ปะทะ ให้เกิดภาพเมืองไทย “ไม่น่าเข้ามาลงทุน”
เน้นตรงนั้น ด้วยโหมปฏิบัติการ “ลบหลู่สถาบัน”
ทำลาย “พระบรมฉายาลักษณ์” ตามถนนราชดำเนินและสนามหลวง หวังให้ภาพระเนระนาดนั้น เผยแพร่ออกไป
คนไม่รู้ความจริง อาจคล้อยตามการสร้างสถานการณ์ ว่าสถาบันคือชนวนความขัดแย้งเชิงต่อต้านของคนไทยขณะนี้
ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีคนไทยต่อต้านสถาบัน
มีแต่ “คนทอน” ระบบสามนิ้ว-สามสัส ที่ปฏิบัติการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” มาต่อเนื่อง
อันเป็นปฏิบัติการร่วมของคนนอกชาติและในชาติ “บางคน-บางพรรค” ที่นอกคอก หวังฉีกรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บางคนกลับเข้าประเทศอย่างเท่ๆ
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕ บอกว่า….
“บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”
มาตรา ๔๙ บอกว่า
“บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้”
ก็เห็นชัดแล้ว ม็อบ “เดินทะลุฟ้า” ๑๓ มีนา.และม็อบ “ราษเก็ต” ๒๐ มีนา.ที่ธนาธรนำปลุกระดมเอง
ไม่ใช่การชุมนุมโดย “สงบและปราศจากอาวุธ”
หากแต่….
เป็นกลุ่มก่อการร้ายรับจ้างพรางตัวมาในคราบผู้ชุมนุมโดยสันติ แล้วใช้ยุทธิวิธีกองโจร “จลาจลเมือง”
ไม่มีความชอบธรรมใดสำหรับกองโจรรับจ้างนี้อีกต่อไปแล้ว ที่ตำรวจจะต้องระงับ-ยับยั้งการใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าปราบปราม ขั้นเด็ดขาด
อีกทั้งเวลานี้……
ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ตำรวจต้อง “ปราบจริง-จับจริง”!
ก็ต้องชมเชยและเป็นกำลังใจให้ตำรวจนครบาลทุกนาย ตั้งแต่พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผบช.น.
ตลอดถึงระดับปฏิบัติการในภาคสนามทั้งฝ่ายสืบสวน-สอบสวนทำสำนวนคดี ทั้งฝ่ายปราบปรามที่ตามลากคอโจรแก๊งสามนิ้ว-สามสัส
เหล่าท่านเหนื่อย งานหนัก แต่หนักก็ต้องหนักยามนี้
นักเรียน-นักศึกษา-ประชาชน ในภาพรวม “คนรุ่นใหม่ ที่เคยหลงเชื่อธนาธร-ปิยบุตร ออกมาร่วมชุมนุมโดยบริสุทธิ์ใจนั้น
ตอนนี้” ไม่มีแล้ว”
เพราะเด็กเหล่านั้น “รู้แล้ว” ว่าถูกครู/อาจารย์แก๊งสามสัสหลอกใช้เป็นเครื่องมือ
ดังนั้น ที่เหลือออกมาป่วนเมืองแต่ละเสาร์-อาทิตย์ ไม่ใช่รุ่นใหม่ “ก่อการดี”
หากแต่เป็น “กองกำลังแดงส้ม” อาชีพรับจ้าง “ก่อการร้าย” ขาประจำ สวมรอยออกมาสร้างสถานการณ์
ให้ดูว่า “ประเทศไทยไม่สงบ”
เพราะประชาชนไม่เอาสถาบัน ออกมาชุมนุมต่อต้าน-ล้มล้างสถาบัน ซึ่งก็ต่อเนื่องยาวนานเป็นปีๆ
ขบวนการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” เขาเดินแผนประสานกันเป็นชั้นๆ ต่อเนื่อง
ในถนน ผู้คนก็ออกมาชุมนุมต่อต้าน
ในสภา พรรคค้านเป็นแนวประสานต่อต้าน
ในหัวเมือง ธนาธร-ปิยบุตร ซุก-สั่งในเสร็จ ก็ออกทางเลี่ยงเมือง ตลบหลังตามหัวเมือง
ในมหา’ลัย กลุ่มแค้นค้างมาแต่ ๖ ตุลา.เมื่อเติบเป็นจานมหา’ลัย ก็เพาะเชื้อแค้น เป็นขบวนการ “ต้านเจ้าใต้ดิน”
ประสานสายวิชาการทั่วประเทศ “ล้างสมองเด็ก” ตามโรงเรียน-มหา’ลัย บิดเบือนประวัติศาตร์ ทั้งสอน ทั้งเขียนตำรา “สางแค้นทางวิชาการ”
“เสี้ยม” ให้เกลียดเจ้า….
ยาวนาน-ต่อเนื่อง จนสุกงอมและปลุกระดมมาใช้ตอนนี้ ไปหาดูที่สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันก็ได้เยอะแยะ
วานซืนเห็นตำรวจไปยึดหนังสือว่าด้วย ๑๐ ข้อถึงสถาบันกษัตริย์ที่ทนายอานนท์พูดมาเป็นหมื่นเล่ม
ธนาธรเขาชอบ เพราะเป็นหนังสือ “เปิดประตูบานแรก” ในมิติของเขา ใช้แจกขยายเชื้อต่อตามวงชุมนุม
ใน CH หรือ club house สัมภเวสีมาในมาด มิสเตอร์ TONY กระชับพื้นที่ร่วม โผล่มาเพื่อให้รู้ว่า งานนี้พี่ดูแลนะ
วัน-สองวันนี้ สหรัฐฯ ที่ “การทูต ๒ หน้า” กับไทยมาตลอด ถึงคราวซวย สวะไปเกยประจานหน้าสถานทูต
ไอ้โล้นท่าพระจันทร์ มันฉลาดจนขนหัวร่วงหรือโง่จนหนังกลับก็ไม่รู้ ดันพาแม่เพนกวิน แม่ไผ่ ไปกระจองอแงถึงหัวกระได
“ให้ช่วยเอาลูกฉันออกจากคุกที” ประมาณนั้น!
เลยทำให้ทุกคนร้อง อ้อ….
สหรัฐฯนี่เอง คือ “ญาติผู้ใหญ่” ของขบวนการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน”
มิน่า…เพนกวิน รุ้ง อานนน์ ไผ่ ใครต่อใคร ถึงได้อหังการนัก ไม่เห็นหัวใครในบ้านเมืองไทยเลย
เพราะพ่อมันคือไอ้กัน
“ชีสเค้ก” ชิ้นเดียว เลี้ยงหมาตัวไม่อิ่ม แต่เลี้ยงสามนิ้วตระกูลสามสัสได้ทั้งตระกูล!
วันก่อน เพนกวิน เล่นใหญ่รัชดา ยืนบนเก้าอี้ อ่านแถลงการณ์หน้าบัลลังก์ในห้องพิจารณา ชี้นิ้ว-ชี้หน้าศาล วันนี้แหละมั้ง (๒๒ มีค.๖๔) ศาลจะพิจารณาโทษ
ทำไมเพนกวินถึงกล้า….
ธรรมศาสตร์สอนแต่ล้มเจ้า ไม่ได้สอนให้เป็นคนอารยะเลยหรือ?
ความจริงธรรมศาสตร์สอนคน ไม่ได้สอนสัตว์ แต่ที่เพนกวินเถื่อนเช่นนั้น เพราะ
๑.เตี๊ยมกับนักข่าวต่างชาติเอาภาพประวัติศาสตร์
๒.ฮึกเหิม เพราะวันนั้น มี “คนนอกชาติ” เข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ในห้องพิจารณาคดีจำนวนมาก
มีทั้ง คนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ (OHCHR) แอมเนสตี้, และเจ้าหน้าที่สถานทูต ๑๔ ประเทศ
สหภาพยุโรป, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, ลักเซมเบิร์ก, สวีเดน ,นิวซีแลนด์
และ แอ่น..แอ๊น….สหรัฐอเมริกา!
“จักวรรดินิยมอำนาจตะวันตก” ยกเข้ามายุ่มย่ามกันทั้งโขยงอย่างนี้ เป็นพลังปลุกเสกให้เพนกวิน “ของขึ้น” โชว์ทันที
ที “เอกชัย หงษ์กังวาน” นิ้วก้อยตีนซ้ายสามสัสถูกจับ ไม่เห็นไปสังเกตการณ์
แต่กับ “หัวแม่ตีนขวาสามสัส” ยกโขยงกันไปพรึ่บ สิทธิมนุษยชน “สองมาตรฐาน” ของพวกลื้อนี่ มันเฮงซวยชิบ…!
เพราะปลอกคอเป็น “ลูกพี่นอกชาติ” อย่างนี้เอง เพนกวินถึงได้ผยอง ไม่เห็นหัวใคร แม้ในศาล
ในห้องพิจารณา “ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด” แล้วรูปที่ว่อนโซเชียลไปทั่วโลก มาจากไหน ใครถ่าย?
นี่คือคำตอบ……
ฟอร์ด เส้นทางสีแดง
ภาพนี้มาจากเพจคุณแอนดรูวน์ถ่ายจากฝั่งขวามือของห้องพิจารณาคดี อันเป็นที่นั่งของตัวแทนจาก UN, EU และทูตนานาประเทศ ……..ฯลฯ……
เป็นภาพประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพนกวินประกาศอดอาหารประณามความอยุติธรรม….(ขอลบออก-เปลว) และมาตรา 112
และนี่คือ “ผู้จัดฉาก” ให้เกิดภาพนี้และเป็นผู้ถ่ายในศาลนำออกเผยแพร่เป็นคนแรก
Andrew McGregor Mar…
! Images of “Penguin” Chiwarak making his speech at the start of the trail of 22 democracy activists yesterday
#Whats Happening in Thailand
เห็นมั้ย….
“นอกชาติ-ในชาติ” ทำกันเป็นทีม เป็นขบวนการ หวังล่มชาติ-ล้มสถาบัน
กับแก๊งนอกชาติ “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”
แต่กับแก๊งในชาติ “ขบวนการสามนิ้ว-สามสัส” มันคือศัตรูถาวร ของคนรักชาติ-รักบ้านเมือง
ต้อง “กำจัด” จริงจัง ทั้งในถนนและในสภา
