นายกรัฐมนตรีเผยอันดับความน่าเชื่อถือของไทย อยู่ที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยสถาบันจัดอันดับเครดิตของโลก มูดี้ส์ ฟิทช์เรตติ้ง และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ย้ำเร่งแก้ไขความเดือดร้อนกลุ่มประชาชนเศรษฐกิจฐานราก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยประเด็นทิศทางเศรษฐกิจไทย ปี 2564 ผ่าน PM PODCAST สรุปประเด็นดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่ประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ได้เป็นอย่างดี โดยพี่น้องประชาชนร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้ไทยประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการทั้งด้านการความคุมการแพร่ระบาดและด้านเศรษฐกิจ
ทำให้สถาบันจัดอันดับเครดิตของโลก ได้แก่ มูดี้ส์ ฟิทช์เรตติ้ง และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ  รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสาธารณสุขทำให้พื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยทั้งการเงินและการคลังยังคงเข้มแข็ง โดยตั้งเป้าหมายการเติบโต GDP ของไทยในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 4
นายกรัฐมนตรี กล่าวรัฐบาลใช้มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจไทย การบริโภคและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็วางรากฐานการพัฒนาด้านสังคม สร้างรายได้ เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขยายโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเน้นการลงทุนด้านคมนาคม สาธารณูปการ และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

โดยมีภาครัฐนับเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในสาขาที่จำเป็นสำหรับการยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ

รัฐบาลยังส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ 4 อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสูงและมีแนวโน้มเป็นอุตสาหกรรมใหม่ของโลก ได้แก่

1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์และการดูแลสุขภาพ และ 4. อุตสาหกรรมดิจิทัล    รวมทั้งเน้นโมเดลเศรษฐกิจ BCG

“เศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจสีเขียว” ปรับเปลี่ยนประเทศไทยให้ใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า สอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำให้สามารถเป็นประเทศ carbon neutral ตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้ว

นายกรัฐมนตรียังเผยว่า รัฐบาลได้เร่งแก้ไขความเดือดร้อนให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนเศรษฐกิจฐานรากควบคู่กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนรุ่นใหม่และผู้สูงอายุโดยให้ความสำคัญกับบ้านพักอาศัย ลดความเหลื่อมล้ำ

โดยมอบการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทาง รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเชื่อมโยงที่อยู่อาศัยเข้ากับแหล่งงานให้กับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน
สำหรับมาตรการการเปิดประเทศ ศบค. ได้ประกาศโครงการให้นักท่องเที่ยวใช้ช่วงเวลากักตัวที่สนามกอล์ฟ เรือยอชต์ กระทรวงการท่องเที่ยวจะเสนอแผนให้ชาวต่างชาติเข้ารับการกักตัวในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งรวมถึง ภูเก็ต กระบี่ และ เชียงใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มขึ้นในไตรมาสสองของปีนี้

Written By
More from pp
รมว.เฮ้ง ห่วงลูกจ้างโดนท่อลมร้อนไหม้เสียชีวิต สั่ง กสร. และ สปส. เร่งช่วยเหลือสิทธิประโยชน์พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยกรณีลูกจ้างโดนท่อลมร้อนไหม้ทั้งตัวเสียชีวิต สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เร่งช่วยเหลือสิทธิประโยชน์พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยด่วน
Read More
0 replies on “นายกรัฐมนตรีเผยอันดับความน่าเชื่อถือของไทย อยู่ที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยสถาบันจัดอันดับเครดิตของโลก มูดี้ส์ ฟิทช์เรตติ้ง และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ย้ำเร่งแก้ไขความเดือดร้อนกลุ่มประชาชนเศรษฐกิจฐานราก”