โควิดมา “โลกาสะอาด” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“หลวงพ่อโควิด” รุ่น ๓ นี้ ขลัง!
เปรี้ยงเดียว …..
ถีบสารพัดม็อบกระเด็นเกนเก้ไปคนละทิศ-ละทาง
ม็อบผีรวมป่าช้าของตู่-จตุพรว่าเฮี้ยน ขนาดหลวงพ่อตู่ วัดสามป.รวมทรัพยาราม
ซัดข้าวสารเสกไปทั้งกำ มันยังสวนสู้
แต่พอเจอหลวงพ่อโควิด “สายพันธุ์อังกฤษ” รุ่น ๓ เท่านั้นแหละ ไม่ต้องไล่ โกยแนบ รวมทั้งสารพัดแสบสามนิ้ว-สามสัส

ดีครับ…ดี
โควิดนั่นแหละดี ไม่เพียงประเทศไทย ผมว่า “ทั้งโลก” ควรจะขอบใจการมาของโควิด มากกว่า “นั่งด่า-นั่งแช่ง” ว่าเมื่อไหร่จะหมดไปซักที

คริสต์ บอกว่า พระเจ้า “ล้างบาป” ได้
พุทธบอกว่า “เราทำอย่างใด-ได้รับผลอย่างนั้น”

ก็นี่ไง….
มองตามนัยของคริสต์ ใครทำบาปไว้บ้างล่ะ พระเจ้าส่งโควิดมา “ล้างบาป” ให้แล้ว พร้อมนำร่างผู้ชำระบาปบริสุทธิ์แล้วนั้น ไปอยู่กับพระองค์

ตามนัยของพุทธ กรรม คือการกระทำ เป็นของตัวเอง ใครทำอย่างใด ผลที่ได้รับก็เป็นอย่างนั้น

เหมือนเพาะเมล็ดมะม่วง ที่จะได้ก็คือ ต้นมะม่วง-ผลมะม่วง ตามระยะเวลาของมัน จะกลายเป็นต้นมะพร้าว ผลมะพร้าวไปไม่ได้

ทุกอย่างที่ทำเรียกรวมๆ ว่า “กรรม”

ปฏิบัติตามมาตรการรัฐบาลในเรื่องป้องกันโควิด ก็เรียกกรรม

ไม่ปฏิบัติตาม ฝ่าฝืน-แหกทุกกฎกติกา เข้าทั้งวัด เข้าทั้งผับ บาร์ เลาจน์ โดยหน้ากากไม่เอา เอาแต่ กุ๊กๆ จู้ฮุกกรู นี่ก็กรรมเหมือนกัน

จากนั้น ที่เรียกกรรม จะดี-ไม่ดี ก็จำแนกไปตามสิ่งที่ทำ เช่นทำตามมาตรการรัฐ เป็นกรรมส่วนดี ผลดี คือ ห่าไม่ตำปอด

ใครที่ฝ่าฝืนมาตรการรัฐ เป็นกรรมส่วนไม่ดี ผลส่วนไม่ดี จะเป็นอย่างที่ “น้องฟ่าใส” Krystal club ย่านทองหล่อ โพสต์ นั่นแหละ ว่า

“ตอนนี้ผลออกมาแล้วนะคะ ฟ้าพบเชื้อโควิดน่ะค่ะ ใครอยู่ใกล้หรือสัมผัสฟ้า รีบไปตรวจนะคะ เพื่อจะได้รักษาหายไวไว ต้องขอโทษด้วยทุกนะคะ”

การเที่ยวคลับ เที่ยวบาร์ เป็นเรื่องธรรมดาของโลกียะวิสัยสังคม ไม่ต้องเอามาเสียดสีขยี้ขยำกัน

ประเด็นควรพิจารณามันอยู่ตรงว่า ในภาวะอย่างนี้ ควร-ไม่ควรแค่ไหน ต้องใช้ความคิดใคร่ครวญก่อนทำ

แต่เมื่ออดใจคิดถึงน้องฟ้าใสไม่ไหว มีตังค์ก็ไปเหอะ บอกเธอด้วยละกัน ว่าผมฝากความคิดถึงมาด้วย

เมื่อไปแล้ว ศีล ๕ โควิด รักษาเคร่งครัดหรือไม่ หรือเผลอใจทำศีลขาด?

๑.กินร้อน ๒.ช้อนกลาง ๓.หน้ากากอนามัย ๔.ดิสแทนซิ่ง ๕.นั่งนิ่งๆ…ห้ามแตะ

ตรงนี้แหละ เป็นตัวกรรมที่จะ “ออกดอก-ออกผล” เป็นส่วนดีหรือส่วนไม่ดีเป็นรูปธรรมจับต้องได้

ถ้าเคร่งครัดในศีลโควิด ๕ ข้อนั้น ผลจะออกมาดี คือ ไม่ติดโควิด ๘๐-๙๐%
แต่ถ้าทำศีลโควิดขาด “ข้อใด-ข้อหนึ่ง” โดยเฉพาะข้อหน้ากากก็หลุด ระยะห่างก็ไม่รักษา ทั้งมือไวเป็นปลาไหลไฟฟ้า เจอหน้าคว้าหมุบหมับ

แบบนี้ ผลที่ออกมา คือ…..
“รีบไปแยงจมูกไวไวนะคะคุณพี่ขาาา เพราะน้องฟ้าใสพบเชื้อแล้วน่ะค่ะ”!

เห็นข่าวว่อนเมื่อวาน (๗ เมย.๖๔) ครม.นายกฯ ตู่มี ๓๕ รัฐมนตรี ต้องไปรพ.บำราศนราดูร ให้เจ้าหน้าที่แยงจมูก ๑ โหลรัฐมนตรี พอดิบ-พอดี

ไม่เกี่ยวกับ “น้องฟ้าใส” ในคลับนะ……..
แต่กับ “พ่อของฟ้า” น่าจะเกี่ยวกันอยู่บ้าง ไม่ทางนอมินีในสภา ก็ทาง “ปล่อยเพื่อนกู” ในถนน!

เนี่ย………
บ้านเมืองมันถึงคราวต้องปฏิรูประบบบริหารราชการงานแผ่นดิน แต่นายกฯ ลุงตู่ ไม่ยอมเป็น “เจ้ากรรม” ปฏิรูป
โควิดก็เลยมาเป็น “นายเวร” ปฏิรูปให้

การปฏิรูปของนายเวร ก็จำแนกเป็นรายปัจเจก คือรายตัวบุคคลไปตามกรรม
คุยไป-คุยมา อย่าว่าแต่ท่านฟังแล้วไม่เข้าใจเลย

ผมเอง คุยเอง ยังงงเอง!
ก็ให้โควิดล้างซะให้หมด เหลือเท่าที่เหลือ ที่ไม่เหลือเก็บเอาไปดองเกลือไว้ สำหรับคนวัยร่วมศตวรรษ นึกย้อนต้น จะไม่ตกใจกับการมาของโควิด
เพราะมันมีมาแบบโควิด “ตามกรรม-ตามวาระ” ตามวงรอบของมัน ในรอบ ๑๐๐ ปี อย่างน้อยก็ ครั้ง-สองครั้งแล้ว

อย่างกึ่งพุทธกาล คือตอน พ.ศ.๒๕๐๐ ช่วงนั้น มาทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ระบาด ทั้งโรคอหิวาต์ ตายกันเป็นปลาโดนวางยายกบ่อ

ผมเนี่ย…นึกว่าไม่รอดซะแล้วตอนนั้น เผอิญมีนัดคุยกะท่านวันนี้ เขาเลยแทงบัญชีปล่อย!

ตอนนี้ ดูท่าชักว้าเหว่กัน นึกว่าวัคซีนมาแล้ว ฉีดบ้างแล้ว จะตะแล๊ดแต๊ดแต๋กันได้

ที่ไหนได้ ครม.ถูกโควิดยกเค้า เกือบยกเข่ง ทั้งทุกวงการ ในทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นกระทั่งสื่อ

ถูกโควิดเรียกตัวไปปั่นเฟหนิวส์ ปั่นแฮชแท็ก เป็นโต้โผคลับเฮาส์ ในปรโลก ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ สื่อใต้ดิน-บนดิน โควิดเอาหมด

คนไทย ได้ชื่อว่า “พุทธบริษัท” คือ ผู้เดินตามทางธรรมพุทธองค์ แค่โควิดมา จะรุ่น ๑ รุ่น ๒ รุ่น ๓ หรืออีกสักกี่รุ่นก็ช่าง
ก็ไม่ต้องไปกลัว….

ตราบใดที่เดินตามรอยธรรมพระพุทธองค์ ตราบนั้น “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม”

ไปหาหนังสือสวดมนต์มาซักเล่ม ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวดบท “รัตนสูตร” ก่อนนอน รับรอง โควิดเกรงใจ

แต่ต้อง “การ์ดอย่าตก” อย่างที่หมอทวีศิลป์บอกด้วยนะ เอ้า…ลองอ่านดูเป็นตัวอย่างนี่ก่อนก็ได้

“รัตนสูตร”
ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา

ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิกิญจิ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย ตะถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิโย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ ตะยัสสุธัมมา ชะหิตา ภะวันติ สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ จะตูหะปาเยหิจะ วิปปะมุตโต ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ.
………………………..
ธรรม คือ ธรรมชาติ
พุทธ สอนธรรมชาติ ไม่ใช่สอนศาสนา
ฉะนั้น ใคร ศาสนาไหน น้อมเอาศาสดาของตนเป็นที่รวมจิต แล้วภาวนารัตนสูตรไป โควิดหนีไกลแน่นอน
จะไม่หนีได้ไง เพราะคนสวดมนต์ก่อนนอน แน่นอน คือคนในส่วนกรรมดี
“เคร่งศีล ๕ โควิด” กันแทบทั้งนั้น!

Written By
More from plew
มีอะไรเสนอนอกจาก “แบน”?
สมองมนุษย์มีตั้ง ๓ ส่วน…….. แต่พวกเอ็นจีโอแก๊ง “แบน ๓ สาร” นี่ สงสัยมีแค่สมองส่วนหลังอย่างเดียว จึงไม่เข้าใจระหว่างคำว่า “ยกเลิกการใช้” กับคำว่า...
Read More
0 replies on “โควิดมา “โลกาสะอาด” – เปลว สีเงิน”