ช่างหัวคนขี้เรื้อน-ผักกาดหอม

ด่ากันมาเยอะเรื่อง คลัสเตอร์ทองหล่อ

            แต่ในมุมที่เลวร้าย ก็มีข้อดีอยู่บ้างเหมือนกัน

คิดเล่นๆ….

            ถ้าไม่เกิดคลัสเตอร์ทองหล่อเสียก่อน เทศสงกรานต์ ณ  ขณะนี้ กำลังพาประเทศเข้าสู่หายนะครั้งประวัติศาสตร์

            เพราะอะไร?

            ที่แน่ๆ โควิดสายพันธุ์อังกฤษเข้ามาไทยแล้ว

            แค่ระบาดหนักช่วงไหนเท่านั้นเอง

            ฉะนั้น…หากคลัสเตอร์ทองหล่อไม่เกิด คนไทยส่วนใหญ่การ์ดตกฉลองสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานอย่างแน่นอน

            โดยไม่มีใครรู้ว่า โควิดสายพันธุ์อังกฤษ ถูกพาไปทั่วประเทศ

            การเคลื่อนที่ของประชาชนจำนวนมหาศาล ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่มีใครอยากเห็นแน่นอน

            ก็อย่าเพิ่งเบื่อที่ต้องมาพูดเรื่อง โควิด-วัคซีน กันรายวัน

            เพราะขณะนี้มันอยู่ใกล้ตัว ทุกๆ คน

            ครับ…มีความพยายามทำให้ วัคซีน เป็นเรื่องการเมือง

            ความเจ็บป่วยตัดสินกันด้วยความ ชอบ-ไม่ชอบ

            ก็ลองพิจารณากันดู

            “สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ดีกรีศิลปินแห่งชาติ เห็นว่าเป็นหนึ่งในผู้นำทางจิตวิญญาณม็อบสามนิ้ว โพสต์เฟซบุ๊กโชว์วิสัยทัศน์….ตามนี้

                “….ถ้าต้องฉีด-เราต้องการวัคซีน Pfizer, Moderna และ  J & J

                เราไม่ต้องการ AstraZeneca และ Sinovac…”

            คือ…รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน

            ถ้าเกี่ยงว่า AstraZeneca ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ที่พวกแก๊งล้มเจ้าไม่ชอบ ส่วน Sinovac เจ้าสัวซีพีถือหุ้นอยู่  ก็ไม่เป็นไรครับ

            รอ Pfizer, Moderna และ J & J แต่จะเข้ามาเมื่อไหร่ ยังไม่มีใครรู้

            แต่…เจตนาก็รู้กัน เอาการเมืองไปเกี่ยวข้องทุกอย่าง สักวันได้ฉิบหาย

            ไอ้คนจำพวกนี้วิธีคิดคล้ายๆ กันหมด ปากบอกเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมตกขอบ ใครคิดต่างคือศัตรู

            “อาจารย์อัษฎางค์ ยมนาค” รวบรวมคำพูด “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ชำแหละให้เห็นว่า น่าจะถึงเวลา ล็อกดาวน์ธนาธร! ซะที

                เมษายน ๒๕๖๔

                “ธนาธร” ไลฟ์ในหัวข้อ “โควิดระลอกสาม ‘เลานจ์ชนะ’ ”  โดย The Politics มติชน โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า…

                “สงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลจึงตัดสินใจไม่ล็อกดาวน์และปล่อยให้อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด  สิ่งที่น่ากลัวคือเมื่อสายพันธุ์นี้มันระบาดเร็วขึ้น **แล้วไม่มีการล็อกดาวน์** ปล่อยให้คนต่างจังหวัดกลับบ้าน หรือคนกรุงเทพออกไปเที่ยว มันมีโอกาสมากเหลือเกินที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างได้ ผมคิดว่านี่เป็นมิติที่ไม่ได้เกิดขึ้นในรอบ 1- 2”

                https://www.facebook.com/382592748811072/posts/1075580629512277/?d=n

https://fb.watch/4Q4LtWWDFt/

…………………………………………………………………

                ***คำพูดดังกล่าว ธนาธร กำลังตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ ใช่หรือไม่?

                ย้อนเวลากลับไปดูคำพูดของธนาธรเมื่อปีที่แล้วกัน

………………………………………………………………….

                เมษายน ๒๕๖๓

                “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “วอยซ์ออนไลน์”  ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มี.ค. ๒๕๖๓ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า…

                “ที่ผ่านมาเรากึ่งปิดกึ่งเปิดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่การกึ่งปิดกึ่งเปิดทำให้เศรษฐกิจพังหมด

                โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย กลุ่มคนที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม กลุ่มคนที่อยู่ในแรงงานนอกระบบ  ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ พ่อค้าหมูปิ้ง คนร้อยพวงมาลัย  กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ

                **ทำให้ความกังวลของประชาชนตอนนี้จะติดไวรัสตายก่อนหรือจะอดตายก่อน นี่คือโจทย์ใหญ่”

                **ผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศต้องหยุดชะงัก

                ประชาชนที่ประกอบอาชีพโดยสุจริตต้องหยุดทำมาค้าขายจากมาตรการข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘”

                https://voicetv.co.th/read/MfUueMzur

…………………………………………………………………

                ประชาชาติธุรกิจลงบทสัมภาษณ์ของธนาธร ความตอนหนึ่งว่า…

                รัฐบาลมีทางเลือก ๒ ทางเกี่ยวกับการช่วยเหลือ คือ ทางเลือกแรก ถ้ายังเป็นมาตรการ เซมิ-ล็อกดาวน์ หรือกึ่งเปิดกึ่งปิดแบบขณะนี้ต่อไป จำเป็นต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยอัดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อช่วยพยุง ซึ่งจะใช้น้อยกว่าการปล่อยพังแล้วอัดเข้าไป เพราะการจะดึงความเชื่อมั่นกลับมา ดึงนักลงทุนกลับมา เกิดการจ้างงาน เกิดการบริโภคอีกครั้งยากมาก ดังนั้น ต้องยอมเสียเงินพยุงดีกว่าปล่อยให้พัง  เพราะถ้าไม่ดูแลตอนนี้ คนจะอดตายก่อนจะตายเพราะติดเชื้อ

                และสำหรับทางเลือกที่ ๒ คือ คลาย-ล็อก-คลาย-ล็อก สลับกันไป

                https://www.prachachat.net/politics/news-450740

…………………………………………………………………

                ***บทสัมภาษณ์ดังกล่าวคือคำถามที่ ธนาธร ถามว่า รัฐบาลล็อกดาวน์อยู่ทำไม ใช่หรือไม่?

…………………………………………………………………

                 เมษายน ๒๕๖๓

                ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาล “ล็อก”

                ธนาธรตั้งคำถามว่า ล็อกดาวน์ อยู่ทำไม

                และเสนอให้ใช้วิธี “คลาย-ล็อก-คลาย-ล็อก สลับกันไป”

                เมษายน ๒๕๖๔

                ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาล  “คลาย”

                ธนาธรตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ล็อกดาวน์ ใช่หรือไม่?

…………………………………………………………………

            เป็นไงครับวิสัยทัศน์นายกฯ โซเชียล

            ผลจากการมองทุกเรื่อง เป็นเรื่องการเมืองไปหมด ก็อย่าไปถามหาจุดยืน

            อะไรก็ได้ที่ตรงกันข้าม คนพวกนี้รับเหมา

            ยิ่งนานก็ยิ่งเห็น “ขี้เรื้อน” ครับ!

            ตบตูดข้อมูลสดๆ ร้อนๆ

            รายงานผลการประเมินประสิทธิภาพทางคลินิก ระยะที่ ๓ ของวัคซีน Sinovac จากประเทศบราซิล พบว่าวัคซีนสามารถป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและป้องกันการเสียชีวิตได้ ๑๐๐%

            สามารถป้องกันการป่วยได้ ๘๓.๗% และป้องกันการติดเชื้อได้ ๕๐.๗%

            มีความปลอดภัยสูงมาก

            ส่วน AstraZeneca  วัคซีนหลักของประเทศไทย จำนวน ๖๑ ล้านโดส จะส่งมอบเดือนมิถุนายน มีข้อมูลตีพิมพ์เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน

            เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลว่ามีผลต่อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ  B.1.1.7 ป้องกันอาการป่วยได้ ๗๐%

            ใครไม่อยากฉีด ก็ปล่อยไปตามกรรม.

 

Written By
More from pp
ทรูปลูกปัญญา เคียงข้างน้องๆ และการศึกษาไทย แม้ในยามวิกฤตโควิด-19 สานต่อภารกิจสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด ครบครันทั้งคลังบทเรียน คลังข้อสอบ ระบบอัปสกิล พิเศษ…คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี !!! เสริมทักษะภาษาอังกฤษ ติวเลื่อนชั้น ก่อนเปิดเทอมใหม่
ทรูปลูกปัญญา เว็บไซต์ด้านการศึกษา อันดับ 1 ของประเทศ ด้วยสถิติผู้ใช้งานสูงสุดกว่า 26 ล้านคนต่อปี พร้อมเคียงข้างเยาวชนไทยยุคดิจิทัล แม้ในยามวิกฤตโควิด-19 สานต่อภารกิจสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด
Read More
0 replies on “ช่างหัวคนขี้เรื้อน-ผักกาดหอม”