“ทิพานัน” ไลฟ์กับ “รองเลขาสปสช.” ยันรัฐบาลดูแลประชาชนตั้งแต่ก่อนติดเชื้อโควิด-จนรักษาหายฟรีทุกรพ. ไม่มีสองมาตรฐาน

“ทิพานัน” ไลฟ์กับ “รองเลขาสปสช.” ยันรัฐบาลดูแลประชาชนตั้งแต่ก่อนติดเชื้อโควิด-จนรักษาหายฟรีทุกรพ. ไม่มีสองมาตรฐาน ยันชดเชยหากพบอาการข้างเคียงฉีดวัคซีนสูงสุด 4 แสนบาท เผยรัฐบาลอัดเม็ดเงินหนุนสปสช.เต็มที่ ย้ำรพ.เอกชนไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากคนไข้ได้

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวในไลฟ์พูดคุยกับ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ Onn-Tipanan Sirichana เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลหากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า

ตน ได้สอบถามถึงบทบาทของ สปสช.ในการดูแลสิทธิการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทพ.อรรถพร ระบุว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด บอร์ดสปสช.ได้บรรจุเรื่องของการรักษาโควิดให้เป็นสิทธิประโยชน์ หมายความว่าผู้เจ็บป่วยจากไวรัสโควิด-19 สามารถรักษาได้โดยไม่เสียเงิน

โดยกำหนดให้กลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยหลังจากตรวจแล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือติดเชื้อ กับไม่ติดเชื้อ หากไม่ติดเชื้อให้กักตัวครบ 14 วัน ตรวจซ้ำ ถ้าไม่มีเชื้อก็ปลอดภัย แต่ถ้ามีเชื้อต้องเข้ารับการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน

ซึ่งสปสช.รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ค่า ห้องไอซียู ห้องความดันลบ ค่ายา ค่าจิปาถะ สปสช. จ่ายแทนประชาชนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิดฟรี มีกติกาว่าหากสงสัยว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แล้วเล่าประวัติกับแพทย์ หรือพยาบาลให้วินิจฉัยว่าเข้าข่ายให้ตรวจได้จึงเข้าเงื่อนไขตรวจฟรี แต่ในกรณีที่บางคนเข้าไปตรวจแบบไดรฟ์ทรู หรือขับรถเข้าไปตรวจไม่ได้พบแพทย์ก็ไม่เข้าเกณฑ์ตรวจฟรี ดังนั้นจึงต้องเป็นดุลพินิจของแพทย์ อีกทั้งการออกตรวจคัดกรองเชิงรุกก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรณีครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกันหลายคนและมีคนหนึ่งติดโควิดอีก 6 คนที่เหลือจำเป็นต้องตรวจหรือไม่นั้น รองเลขา สปสช.กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าเกณฑ์เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวติดโควิด และใช้ชีวิตร่วมกัน มีโอกาสใช้ของและรับประทานอาหารร่วมกัน

“เมื่อคุณหมอวินิจฉัยแล้ว ประชาชนไม่ต้องจ่ายแต่รัฐบาลจ่ายค่าตรวจ แทนที่จะเรียกเก็บจากประชาชนมาเรียกเก็บจาก ซึ่งรัฐบาลบอกสปสช.ให้ทำให้เต็มที่ ถ้างบประมาณหมด จะเติมเงินให้ ดังนั้นโรงพยาบาลมั่นใจได้ว่า ถ้าเข้าเกณฑ์แล้วตรวจ รัฐบาลโดยสปสช.จะจ่ายให้”

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อประชาชนตรวจแล้วพบเป็นโควิดสามารถรักษาฟรี ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งทพ.อรรถพร ยืนยันว่ากติกาคือ โรงพยาบาลไหนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดแล้วต้องรับรักษาเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลนั้น หากจะส่งต่อให้โรงพยาบาลอื่นจะต้องเป็นโรงพยาบาลในเครือข่าย แต่มีบางกรณียกตัวอย่างผู้ป่วยไปตรวจที่โรงพยาบาล ก. แล้วบอกให้รอเตียงระหว่างรอเตียง ไปติดต่อกับโรงพยาบาลเอกชนอื่น ขอไปรักษาตัวอย่างนี้ก้ำกึ่ง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนสปสช.ก็รับผิดชอบ ค่ารักษาพยาบาลรวมทุกรายการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่น เช่น ห้องพิเศษ เพิ่มเติม และบริการอื่นที่ไม่ใช่ความจำเป็นพื้นฐาน ต้องจ่ายเงินเอง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีสองมาตรฐาน เพราะไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ก็มุ่งหวังรักษาให้หายเร็วที่สุด ฉนั้นต้องถึงมือแพทย์ให้เร็วและดูแลให้เร็วคือสิ่งที่ดีที่สุด

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตนได้ถามถึงข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชนว่าหากไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ว่าค่ารักษา แพงมาก ที่จะเรียกเก็บจากสปสช.แพงเกินไปหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ รองเลขา สปสช.อธิบายว่า โรงพยาบาลเอกชนแยกออกเป็น 2 กลุ่มที่อยู่ในระบบ สปสช. ส่วนนอก สปสช.มีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดูแลอยู่ และได้ ประกาศแล้วว่า โรคระบาดโควิด เป็นโรคระบาดร้ายแรงรงต้องดูแลเป็นพิเศษไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลไหนก็ต้องดูแล ซึ่งจะเรียกเก็บตามรายการและราคาตามบัญชีกลางที่ตกลงกันไว้

ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในรายการ ไม่สามารถเรียกเก็บจากคนไข้ ให้เสนอไปที่อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเพื่อสเสนอครม. ให้อนุมัติต่อไป แต่ ณ วันนี้ ที่เห็นข่าวใขที่ออกมาเป็นใบแจ้งราคาสูงนั้น เป็นระบบของเอกชนในการแจ้งค่ารักษา แต่สุดท้ายแล้ว ไม่สามารถเรียกเก็บจากคนไข้ตามนั้นได้ ประชาชนไม่ต้องเสียเงิน ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดรัฐบาลจะจ่ายให้ ซึ่งปัจจุบันสปสช.จ่ายค่าคัดกรองไปแล้วเป็นพันล้านทั่วประเทศ ย้ำว่ารักษาฟรีและโรงพยาบาลอย่าไปเรียกเก็บจากพี่น้องประชาชน ขอให้เรียกเก็บจากสปสช.

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตนยังได้สอบถามถึงการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน กรณีมีได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวีคซีนป้องกันโควิด ซึ่งรองเลขาสปสช. ระบุว่า รัฐาลอยากให้ฉีดได้เร็วที่สุดอยากให้มาใช้ชีวิตปกติ วัคซีนคือ คำตอบ บอร์ดสปสช.มีมติเพื่อสร้างสามมั่นใจให้กับประชาชน ตามมาตรา 41 คนไทยทุกคนไม่ว่าใช้สิทธิการรักษาอะไร ถ้าไปฉีดวัคซีนแล้วอาการไม่พึ่งประสงค์เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บต่อเนื่อง มีเงินชดเชยให้ตามจริงไม่เกิน 1 แสนบาท ถ้าถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ ชดเชยไม่เกิน2.4 แสนบาท และถึงขั้นเสียชีวิต ชดเชยไม่เกิน4 แสนบาท

โดยกระบวนการคือฉีดวัคซีนโรงพยาบาลไหน ถ้าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ให้ แจ้งโรงพยาบาลนั้น อยู่ต่างจังหวัดสามารถแจ้งสาธารณสุขจังหวัด หรือสปสช.เขตได้ ทั้ง 3 หน่วยจะส่งเรื่องให้อนุกรรมการระดับเขตพิจารณาใน 1 สัปดาห์ หากพบว่าอยู่ในเกณฑ์ช่วยเหลือ จะได้รับเงินไม่เกิน 5 วันทำการ ซึ่งสปสช.พยายามทำทุกอย่างให้เร็ว กำหนดกติกาใหชัดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ซึ่งหากมีข้อสงสัยอื่นสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1330

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ารัฐบาลดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต้ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่ตรวจฟรี รักษาฟรี และฉีดวัคซีนฟรีอีกด้วย ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสปสช. ที่ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน

ฉะนั้น จึงเชิญชวนพี่น้องประชาชนฉีดวัคซีน และอย่าหลงเชื่อและแชร์ข่าวปลอม ซึ่งล่าสุดพบว่ามีกรณีที่หญิงสาวนำภาพผู้ป่วยรายอื่นแอบอ้างเป็นภาพของตนเองว่าได้ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจนเป็นผื่นนั้น กำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีฐานผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่สร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนกให้กับประชาชน

ดังนั้นพี่น้องประขาชนต้องรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร ตนพร้อมจะช่วยตรวจสอบข่าว และขอวิงวอนให้ช่วยกันแชร์ข่าวจริงเพื่อที่วิกฤติจะได้คลี่คลายโดยเร็วและกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

Written By
More from pp
เฮอร์บาไลฟ์ ทูลเกล้าฯ ถวายกระเช้าผลิตภัณฑ์ที่ได้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 41 ของมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย
Read More
0 replies on ““ทิพานัน” ไลฟ์กับ “รองเลขาสปสช.” ยันรัฐบาลดูแลประชาชนตั้งแต่ก่อนติดเชื้อโควิด-จนรักษาหายฟรีทุกรพ. ไม่มีสองมาตรฐาน”