ปิดตายช่องทางธรรมชาติ ห้ามเข้า-ออกโดยเด็ดขาด เสริมกำลังซีลชายแดนไทย-มาเลย์ เตรียมพร้อมรับมาเลย์ล็อกดาวน์

กองกำลังเทพสตรี เสริมกำลังป้องกันชายแดน ทหาร ตชด. และทหารพราน ลาดตระเวนปิดตายช่องทางท่าข้ามธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดระยะทาง 95 กิโลเมตร ตั้งแต่ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ห้ามลักลอบเดินทางเข้า-ออกโดยเด็ดขาด พร้อมให้เจ้าหน้าที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านชายแดนริมลำน้ำตากใบ และ สุไหงโกลก ยกเรือขึ้นฝั่ง สกัดการเดินทางข้ามแดนช่วงโควิด 19 ระบาด รับมาเลเซียล็อกดาวน์ประเทศ

30 พ.ค.2564 พลตรีศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5/ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ลุยตรวจเยี่ยม ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ตำรวจตระเวณชายแดน และกองร้อยป้องกันชายแดน ที่ 4407-4414 ด้านจังหวัดนราธิวาส ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบ โดยเน้นย้ำการดูแลป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย รับมือการล็อกดาวน์ประเทศมาเลเซีย

สั่งปรับเปลี่ยนยุทธวิธี ประสานการจัดกำลังให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ที่ยังเป็นช่องว่าง โดยจัดกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตชด. ทหารพราน ลาดตระเวนร่วม พร้อมจัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนเดินเท้าเลาะชายแดนทั้งทางบก และทางน้ำ สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบข้ามผ่านช่องทางธรรมชาติโดยเด็ดขาด

พลตรี ศานติ ศกุนตนาค กล่าวว่า การดูแลซีนชายแดนในขณะนี้เน้นปฏิบัติการเชิงรุก ตามข้อสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ให้บริหารจัดการกำลังร่วม 3 ฝ่าย ทั้ง ทหาร ทหารพราน และ ตชด. เพื่อป้องกันชายแดนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ในพื้นที่ อ แว้ง อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบ ถือ เป็นพื้นที่แนวชายแดนไทย -มาเลเซีย ที่มีจุดผ่อนปรน และท่าข้ามธรรมชาติ จำนวนมาก

ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด – 19 แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านริมลำน้ำ เพื่อยกเรือขึ้นฝั่ง ถอดเครื่องยนต์ ป้องกันการใช้ไปรับ- ส่งคนจากฝั่งมาเลเซียกลับมา โดยเฉพาะ บริเวณด่านบ้านน้ำตก และใต้สะพานด่านศุลกากรสุไหงโกลก ที่มักพบที่มีการแอบลักลอบมากที่สุด

และวันที่ 1 มิ.ย. นี้ มาเลเซีย จะล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ทำให้ทหารมาเลเซียมีความเข้มงวด ในการเข้า-ออก ประเทศมากขึ้น ตอนนี้ทางฝั่งไทยจำเป็นต้องปิดตายช่องทางธรรมชาติ ห้ามเข้า- ออก โดยเด็ดขาด หากจะเข้ามาต้องมาทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ถ้าหลุดมาก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการกักกันโรค

ทั้งนี้วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่เดิมก่อนจะมีโควิดระบาด จะมีการข้ามไป-มาเพื่อกรีดยางฝั่งมาเลเซีย แต่ปัจจุบันไม่สามารถไปได้ ต้องประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจสร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และให้ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม ป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่กำลังระบาดอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านกลับเข้ามาได้อีก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องไม่ประมาท การลาดตระเวนแนวชายแดนต้องบูรณาการกำลังอย่างเต็มที่ อีกทั้งต้องระวังป้องกันตนเองจากโควิด 19 สายพันธุ์ต่างๆที่มีระบาดอยู่ในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค4ส่วนหน้า

Written By
More from pp
 “ดีไฮจีนิค” เดินหน้าจิตสาธารณะ ช่วยเหลือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ล้ำหน้านวัตกรรมปล่อยควันฆ่าเชื้อออแกนิค ควบคุมปกป้องไม่ทำให้ไวรัสกระจายตัว
“ดีไฮจีนิค”   เดินหน้าจิตสาธารณะ ช่วยเหลือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ล้ำหน้านวัตกรรมปล่อยควันฆ่าเชื้อออแกนิค ควบคุมปกป้องไม่ทำให้ไวรัสกระจายตัว เครื่อง Anti-Virus Disinfection Coating  ระบบ Fogging Technology ประสิทธิภาพเทคโนโลยีไฮเทค รายแรกในประเทศไทย  มั่นใจปลอดภัยสูงต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ...
Read More
0 replies on “ปิดตายช่องทางธรรมชาติ ห้ามเข้า-ออกโดยเด็ดขาด เสริมกำลังซีลชายแดนไทย-มาเลย์ เตรียมพร้อมรับมาเลย์ล็อกดาวน์”