แม่ผู้สร้าง ‘เพนกวิน’-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

การเมืองต้องฟังหูไว้หู

            เห็นแพลมๆ มาสถานการณ์ช่วงนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่เข้าใกล้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุด

แต่จะได้เป็นหรือเปล่าก็อีกเรื่อง

            ครับ…พรรคภูมิใจไทยใช้เวทีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๕ ทำการซักฟอกเล็กๆ นายกฯ ลุงตู่

            นั่นก็เพียงพอที่จะถูกตั้งคำถามว่าหลังจากนี้จะร่วมรัฐบาลกันได้อย่างไร

            ที่จริงก็ไม่มีอะไรครับ

            สันดานนักการเมืองก็เป็นแบบนี้                   ถึงเวลาหน้าเหล้าหน้าข้าว ก็งอแงโก่งค่าตัว

            นักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลได้ทีฉวยโอกาสสร้างราคา ประหนึ่งว่า ถ้าเขาไม่รัก ก็กลับบ้านเราเถอะ! น่าเสียดายไม่บอกให้ชัดว่าบ้านหลังไหน

            สันดานแบบนี้มีมานานแล้ว

            ช่วงไหนรัฐบาลมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพ ก็ยิ่งเจอเยอะ

            พอคุยกันจบก็เงียบกริบ

            จะมีปัญหาอีกทีก็รอบถัดไป

            และสังเกตให้ดี สันดานแบบนี้จะซ้ำๆ ที่คนเดิมๆ และกลุ่มเดิมๆ

            แต่….สถานการณ์การเมืองตอนนี้มีปัญหาจริงๆ 

            คือมีความพยายามจะล้มรัฐบาลให้ได้

            นักการเมืองคนไหนที่คิดจะสร้างสถานการณ์นำไปสู่ความวุ่นวาย วันนี้ยังถอนตัวทัน แต่ถ้าจะเดินหน้าต่อ ขอเตือนไว้ล่วงหน้า หายนะที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกิดกับรัฐบาล

            แต่ประเทศจะเดินเข้าสู่วิกฤติ

            ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย แหกประเพณีการเมือง ประกาศตั้งแต่ไก่โห่ว่า จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ  ๒๕๖๕ ให้ได้

            เพราะทนรัฐบาลนี้ไม่ได้อีกแล้ว

            ก็ไม่มีอะไรมาก เอาเลยครับ หนับหนุน หากมีเสียงมากพอคว่ำได้ ก็ยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ ตามกลไกรัฐธรรมนูญ

            นั่นคือทางเลือกเดียว ไม่มีชอยซ์อื่น

            ถาม ส.ส.ว่าพร้อมจะไปเลือกตั้งในบรรยากาศการระบาดของโควิดหรือไม่

            ถ้าพร้อมก็เอาเลย!

            ใส่ชุดพีพีอีหาเสียง น่าจะเรียกความสนใจได้โขทีเดียว

            ภาพที่ออกมาจึงดูเหมือน มีการล้อมกรอบรัฐบาลทั้งจากภายนอกและในสภา พากันขึงพืดนายกฯ ลุงตู่ ต้อนเข้าสู่มุมอับ

            เตรียมเผด็จศึก!

            ขอโทษเถอะครับ

            ถุย!

            การเมืองเฮงซวยแบบนี้ ควรจะหมดไปได้แล้ว

            อย่าเพิ่งตกใจไป ทั้งหมดนี้แค่ความคิด และความอยากของนักการเมืองไม่กี่คน แต่ในสถานการณ์จริง การสลับขั้วรัฐบาลเกิดได้ยาก

            ไม่ใช่เพราะพรรคร่วมรัฐบาลภักดีลุงตู่

            แต่เพราะยังสามารถประสานผลประโยชน์กันลงตัวอยู่

            “อนุทิน ชาญวีรกูล” น่าจะรู้ตัวเองดีว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ต่างจากการถูกส่งไปเชือด

            ไม่ใช่เชือดธรรมดา

            ถูกรุมเชือด

            ฉะนั้นรัฐบาลจะอยู่ต่ออีกพักใหญ่ๆ

            จบศึกโควิดปีหน้าเราอาจได้เห็น “ลุงตู่” ยุบสภาก็เป็นได้ ใครจะไปรู้

            แต่การเปลี่ยนม้ากลางศึกโอกาสเป็นศูนย์

            ครับ…ก็อย่างที่บอกช่วงนี้ไม่มีอะไรมาก

            เดือน ๑๒ ของหมาเป็นแบบไหน

            ต้นเดือนมิถุนายนของนักการเมืองบางคนก็เป็นแบบนั้น

            สุดท้ายแล้วงบปี ๒๕๖๕ ผ่านสภา รัฐบาลอยู่บริหารประเทศต่อไป

            ส่วนคนไทยเตรียมตัวฉีดวัคซีน

            สำหรับการเมืองนอกสภา แม้แกนนำ ๓ นิ้วออกจากคุกครบถ้วนแล้ว อาจจะมีการเคลื่อนไหวตามที่ต่างๆ บ้าง   แต่ยังไม่มีอะไรน่ากังวล

            สาเหตุหลักคือ การระบาดของโควิด และเงื่อนไขประกันตัวที่ศาลกำหนดไว้

            การเคลื่อนไหวจึงไปกระจุกในโซเชียลเสียเป็นส่วนใหญ่

            แต่วานนี้สะดุดกับคำพูดของ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์  แม่เพนกวินอย่างแรง

                “ส่วนตัวแม่เชื่อว่าทั้งจากการโพสต์ และการออกมาทำกิจกรรมเพนกวินไม่ได้ละเมิดเงื่อนไขใดของศาลเลย จึงอยากฝากไปถึงคนที่มายื่นคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวว่า ขอให้กลับไปอ่านเงื่อนไขที่ศาลได้ระบุให้ชัดเจน

                อ่านภาษาไทยให้แตก การที่มายื่นขอคัดค้านประกันตัวเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา

                เพนกวินไม่ได้ทำสิ่งใดที่ผิด ต้องยอมรับว่ามีหลายคนที่จ้องจะเล่นงานและมุ่งร้าย ไม่ว่าเพนกวินจะอ้าปากหายใจหรือพูดแค่ไหนก็ผิด”

            เลิกแปลกใจครับว่าทำไมเพนกวินเป็นแบบนี้

            เบ้าหลอมเป็นแบบไหน สิ่งที่ออกจากเบ้าก็เป็นแบบนั้น

            เพนกวินไม่ได้โดนคดี ม.๑๑๒ คดีเดียว

            แต่โดนเป็นหางว่าว

            อย่าลืมว่า เพนกวิน อยู่ในระหว่างการประกันตัว  ฉะนั้นมีโอกาสที่เพนกวินจะกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง ทั้งจากกรณีทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวที่ศาลกำหนดไว้ “ห้ามทำกิจกรรมที่จะทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์”

            และจากกรณีศาลพิพากษาว่ามีความผิดในวันข้างหน้า

            การที่แม่เพนกวินสื่อออกสาธารณะว่า “ส่วนตัวแม่เชื่อว่าทั้งจากการโพสต์ และการออกมาทำกิจกรรมเพนกวินไม่ได้ละเมิดเงื่อนไขใดของศาลเลย” ไม่ต่างจากกรณีพ่อแม่รังแกฉันเท่าไหร่

            คนค่อนประเทศเห็นเหมือนกันว่า เพนกวิน ลบหลู่ ให้ร้ายสถาบัน แต่แม่เพนกวินมองว่า เพนกวินแค่อ้าปากหายใจก็ผิด

            ทุกอย่างมันชัดเจน เมื่อคนเป็นแม่ไม่ห้ามปรามลูก  กลับยุยงส่งเสริมว่าสิ่งที่ลูกทำถูกต้องแล้ว ลูกก็จะทำผิดมากขึ้นกว่าเดิม

            วันข้างหน้าหากเพนกวินต้องกลับเข้าเรือนจำ ก็อย่าโทษใคร

            “แม่” นั่นเองมีส่วนสำคัญให้ลูกกลับเข้าคุก

            ครับ…รบกวนเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านสอดส่องเส้นทางธรรมชาติให้ถี่ขึ้นกว่าเดิม เพราะนอกจากจะมีพวกหลบหนีเข้าเมืองพาโควิดมาด้วยแล้ว

            อาจมีพวกหลบหนีออกจากเมืองที่ไม่เกี่ยวกับโควิดด้วย

            เพราะหนทางข้างหน้าของคนกลุ่มนี้มีแต่คุก.

Written By
More from pp
เดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ให้หญิงตั้งครรภ์ สร้างภูมิคุ้มกันแก่แม่เเละเด็กตั้งแต่ในครรภ์
14 กันยายน 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กรมอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งเป้า “1 เดือน 1...
Read More
0 replies on “แม่ผู้สร้าง ‘เพนกวิน’-ผักกาดหอม”