การสื่อสารกับการเมือง-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

สนุกเขาละ “กทม.กับสาธารณสุข”
จับชาวบ้านที่ “รอเงก” เป็นเดิมพัน
แล้ว “ยักเงี่ยงใส่กัน” ด้วยปัญหาวัคซีน “ขาดตอน”!
ข้อความประกาศเลื่อนแต่ละแห่ง ใครอ่านแล้วก็ต้อง “อิหยังวะ” กทม.กับกระทรวงสาธารณสุข เขาเล่นอะไรกัน?
ฝ่ายกทม.อ้าง…
กระทรวงฯ ยังไม่จัดสรรวัคซีนที่เพียงพอมาให้ ที่นัดฉีดไว้ จึงต้องเลื่อนไปก่อน
ฝ่ายรัฐมนตรีสาธารณสุขยันกลับ
ที่ตกลงกันไว้ เดือนมิย.จัดสรรให้ ๑ ล้านโดส ตอนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งเดือน ก็ส่งให้แล้ว ๕ แสนโดส
สัปดาห์หน้า จะส่งให้อีกจนครบ ๑ ล้านโดส
ตามที่ตกลงกัน….

จะส่งให้สัปดาห์ละ ๒.๕ แสน แต่เราได้วัคซีนมา ก็ส่งไปให้ครึ่งหนึ่งเลยในสัปดาห์แรกเลย กลายเป็นทำคุณบูชาโทษ
เออ..จะเอาไงก็เอากันตามสบาย
แต่ในฐานะชาวบ้าน ขอโทษนะ…ขอพูดคำ

พวกคุณจะกินเส้น กินวัคซีน กินเกาเหลา หรือกินทิพย์หรือไม่กินอะไรกันเลย เป็นเรื่อง “ภาวะสำนึก” ผู้ใหญ่
แต่การบริการ-จัดการวัคซีนเพื่อประชาชน เป็นงานหน้าเสื่อที่พวกคุณต้อง “รับผิดชอบ” โดยตรง ตามหน้าที่
เอา “ตำแหน่ง” แล้วต้องเอา “หน้าที่” ด้วย

ตำแหน่ง-หน้าที่ จะสร้างศรัทธาและความเชื่อถือจากประชาชนได้แค่ไหน
มันอยู่ที่ “ความรับผิดชอบ” ในเนื้องาน

ข้อมูลคนฉีดแต่ละวัย แต่ละพื้นที่ ข้อมูลวัคซีน ข้อมูลไทม์ไลน์ ตลอดถึงเครื่องมือไอทีเพื่อการประสานงานกัน
พวกท่าน “มีครบ-มีหมด”

เพียงตอบตัวเอง ได้บริหาร “ดีมานด์-ซัพพลาย” ระหว่างคน/วัคซีน/ไทม์ไลน์ ด้วยซื่อสัตย์-จริงใจ พอเพียงขนาดไหนเท่านั้น
ขัดข้องอะไร สื่อสารถึงชาวบ้านตรงๆด้วยข้อความให้เกิดทัศนคติบวกหรือเจตนาสร้างทัศนคติมุมขัดแย้งด้าน “ข้อเท็จจริง”?

ชาวบ้าน ไม่ใช่คนป่า-คนเถื่อน ……
พูดให้ตรง-ให้ชัด ด้วยสัตย์ซื่อ พร้อมเข้าใจ ไม่ใช่สื่อสารแบบ “กูกระแทกมึง-มึงกระแทกกู” ข้ามหัวชาวบ้าน เช่นตอนนี้
นัดแล้วเก้อ ชาวบ้าน “เสียรู้สึก” พออยู่แล้ว

ครั้นอ่านประกาศที่สะท้อน “กทม.-สาธารณสุข” กัดกัน มีปัญหา กทม.โยนไป-สาธารณสุข ก็โยนกลับมา อย่างนี้
แล้วชาวบ้านจะเชื่อใคร….
และจะรู้ได้ไง ว่าใครบิดเรื่องพูดหรือพูดตรงความจริงที่เป็น?

คบเด็กสร้างบ้าน ก็ว่าสุดระอา มาเห็นผู้ใหญ่ทำงานแบบผลาญเมืองอย่างนี้เข้าอีก พูดได้คำเดียว…กูละหน่าย!

จริงๆ แล้ว เรื่องวัคซีนช้า-เร็ว เป็นที่เข้าใจได้ แต่พวกโตแต่ตัว เอามาเล่นการเมืองจนสับสนทางสื่อสารไปหมด นี่ละเรื่องถ่วงความเจริญโลก

วัคซีนจะมาทยอยมาเดือนละกี่โดส เบ็ดเสร็จ ภายในธันวา.มาครบ ได้ฉีดครบแน่ ๑๐๐ ล้านโดสเป็นเบื้องต้น คนกว่า ๗๐%สร้าง “ภูมิต้านทานหมู่” ได้ทั้งประเทศ
นี่คือ “ข้อมูลแห่งชาติ” ที่รับาลสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ

“ภาพใหญ่” ของเรื่องราวที่ชาวบ้านจินตนาการตาม ก็เป็นแบบว่า การได้ฉีด ไล่เรียงกันไปตามการทยอยมาของวัคซีน
ฉีดก่อน-หลัง, ช้าบ้าง-เร็วบ้าง ว่ากันไปตามฐานานุรูป งานนี้ ไม่ต่าง “จุลกฐิน”

ดังนั้น เสร็จช้า-เสร็จเร็ว ไม่ว่ากัน ข้อสำคัญ “ต้องเสร็จ-ต้องได้” ทันกำหนดเวลา!
แต่เพราะ “การพูด-การสื่อสาร” นี่แหละ ทำให้สับสนทางความเข้าใจไปหมด!

เรื่องบริหารวัคซีน เอากันจริงๆ ให้เด็กเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังๆ มาบริหารคิว เจ๋งกว่าระดับผู้ว่าฯ กทม.และรัฐมนตรีซะอีก

ก็ลองดูซี ไปนั่งร้านก๋วยเตี๋ยว แย่งกันสั่ง เบิลคนละ ๓ ชาม ๔ ชาม เป็นสิบ-เป็นร้อยคน แต่คนทำ-คนเสิร์ฟ มีแค่คน-สองคน
แน่นอน เขาทำให้ทุกคนที่สั่งได้กินพร้อมกันไม่ได้ มาหลัง-สั่งแล้วนั่งรอ ไหลไปตามคิวแบบนั้น

พอเข้าระบบคิวแล้ว เชื่อหัวไอ้เรืองได้ ชาม ๒ ชาม ๓ ที่สั่งเบิล ไม่ต้องถือตะเกียบค้าง คนเสิร์ฟจะมีข้อมูลทิพย์ จะมาต่อเนื่อง “ไม่ขาดตอน” จนวางตะเกียบ

เขาบริหาร-จัดการคิวหมุนเวียนลื่นไหลต่อเนื่องแต่ละลูกค้าได้อย่างอัศจรรย์ เห็นแล้วอยากเชิญคนเสิร์ฟมาเข้าพรรค ส่งสมัคร สส.บ้าง สมัครผู้ว่ากทม.บ้างจังเลย

มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ ผมว่า….

ไม่ต้องไปเข้าคอร์ส Business ตามมหา’ลัย ที่สมัยหนึ่งเห่อกันจริง งานบริการเป็นเรื่องหัวใจบวกจิตวิทยาพื้นฐาน แค่จริงใจ, เอาใจใส่ลูกค้า ได้เร็ว-ได้ช้า ทุกพร้อมรอ
ขนาดตะโกนถาม “ของอั๊ว ได้ยัง”?

คนทำตอบตะโกนตอบ “ได้เลี้ยว..ได้เลี้ยว แต่รอเหลียว ลื้อสั่งรายวะ?”

คนรอกิน แทนที่จะโกรธ กลับชอบใจ เพราะอะไร? เพราะ “น้ำใสใจจริง” จับต้องได้ ที่มาพร้อมทั้งภาษากาย ภาษาใจและภาษาพูดนั่นเอง

ที่จริง วันนี้ ตั้งใจคุยเรื่อง ไทยเอาสินทรัพย์ต่างประเทศที่มีอยู่ใน “เงินสำรองระหว่างประเทศ” แปลงเป็นทองคำ ตามที่เป็นข่าว ซึ่งมีบางประเด็น สับสนอยู่บ้าง
แต่มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องค่อยๆ แยกประเด็นในการทำความเข้าใจ วันนี้ ไม่ทัน

เอาแค่เฉพาะคำว่า “แบงก์ชาติ” กับ “กระทรวงคลัง” คิดว่า บางท่านก็ยังสับสนในอำนาจ-หน้าที่ด้วยซ้ำ

ซึ่งจริงๆ แล้ว “แบงก์ชาติ” นี่ เป็นหน่วยงานรัฐก็จริง แต่ไม่เป็นทั้ง “ส่วนราชการ” ทั้ง “รัฐวิสาหกิจ”
เรียกว่าเป็น “ภูมิเจ้าที่” เอกเทศ
คอยกำกับเรื่องการเงินประเทศ ควบคุมสถาบันการเงิน และออกธนบัตร
ไม่อยู่ใต้อำนาจบริหารรัฐบาล

นายกฯ ,รัฐมนตรีคลัง ไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายสั่งการอะไรโดยตรงกับแบงก์ชาติ

“กระทรวงคลัง” ตะหากที่อยู่ในอำนาจบริหารของรัฐบาล ดังนั้น ที่กู้เงินไปทำโน่น-ทำนี่ เป็นเรื่องของคลัง แบงก์ชาติไม่เกี่ยว

“สำรองระหว่างประเทศ” ด้วยการบริหารของแบงก์ชาติ ทุกวันนี้ มั่นใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์
แข็งปั๋ง-แน่นเปรี๊ยะ “มาตรฐานโลก”
“แข็งปั๋ง” ขนาดไหน จะเอาที่อาจารย์ “สมเกียรติ โอสถสภา” โพสต์วันก่อน มาให้พิสูจน์ ดังนี้
……………….
สมเกียรติ โอสถสภา
ทัศนัย ธิยะใจ บทความแนะนำ
คนกัมพูชาในฝรั่งเศสมองไทย

จากประสบการณ์ของเพื่อนผมที่เจอด้วยตัวเองในช่วงปี 2557-60 ผมได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงปารีสบ่อย ๆ
วันหนึ่งออกจากสนามบินได้แท็กซี่ซึ่งมีคนขับเป็นชาวเอเชีย พอนั่งไปสักพักผมก็เลยถามว่า ยูมาจากประเทศไหนเหรอ
เค้าบอกว่า ไอมาจากกัมพูชา ผมเลยบอกว่าผมเป็นคนไทย เค้าดีใจมากและบอกว่า

เค้ายังเป็นหนี้บุญคุณประเทศไทยจนทุกวันนี้และทุกปีที่กลับมาเยี่ยมบ้านก็จะถือโอกาสมาเที่ยวเมืองไทยและหวังว่าสักวันหนึ่งกัมพูชาจะมีทุกๆ อย่างเหมือนที่คนไทยมี (โชคดี)

ผมอยากรู้ว่า ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น ก็เลยถามว่า ทำไมถึงชอบและทำไมถึงได้คิดว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณประเทศไทย
เค้าก็เหมือนจุกคอ กลืนน้ำลายและก็เล่าให้ฟัง…

เค้าเป็นคนเขมรที่อพยพมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในช่วงปี 2518 และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณที่ประเทศไทยดูแลเค้าเป็นอย่างดี
จากนั้นเค้าก็ถูกส่งไปยังประเทศที่สามคือฝรั่งเศสและเริ่มต้นใช้ชีวิตที่นี่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว (ผมเจอเค้าปี 2558)

เค้าบอกว่าคนไทยโชคดีมาก ยูรู้ไหม ประการแรก ยูมีพระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็ง ดูแลประเทศไทยและคนไทยมาตลอดจนประเทศไทยเจริญกว่าประเทศอื่นๆ รอบบ้าน

ผมถามว่ายูรู้ได้ยังไง เค้าบอกว่า
ไอชอบศึกษาเรื่องการเมือง คนไทยมีพระมหากษัตริย์และรักพระมหากษัตริย์ ไออยากให้กัมพูชากลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่เป็นไปไม่ได้แล้ว

พูดแล้วก็มองไปสุดอุโมงค์ที่ขับรถลอดเข้าชานกรุงปารีสที่รถติดอยู่ เหมือนพยายามจะไปให้ถึงแสงสว่างนั้นให้ได้
ครั้งต่อๆ มา ผมก็โทรหาเค้าอีกให้มารับที่สนามบิน เราคุยกันหลายๆ เรื่อง มีครั้งหนึ่งเค้าบอกว่าเดือนหน้าจะไปเที่ยวไทยแล้ว (ทำท่าดีใจมาก) ผมถามว่า จะไปเที่ยวไทยหรือกลับบ้านกันแน่

เค้าบอกทั้งสองอย่าง แต่ที่บ้านไม่ค่อยมีญาติอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะไปเที่ยวไทยเป็นหลัก แล้วก็เหมือนนึกขึ้นได้เลยถามผมว่า ยูรู้ไหม ทำไมตอนนั้นโซรอสถึงโจมตีค่าเงินบาทก่อน…

ผมถามว่าทำไม ?
เค้าตอบว่า ไอไปทุกประเทศ แล้วพูดซ้ำว่า “Every Countries” อีกครั้ง

ในเอเชีย ไอสามารถใช้เงินดอลล่าร์ซื้อของได้ทั้งหมด ไอแลกเงินยูโรเป็นดอลลาร์แล้วไอก็เอาไปใช้ได้ทุกที่ ยกเว้น ประเทศไทย
ผมคิดตามแล้วถามว่าทำไม

เค้าบอกว่า เพราะเงินบาทยูมีค่ามากไง ทุกคนถึงต้องแลกเป็นเงินบาทถึงจะซื้อของได้ ไอไปประเทศอื่น ไอเอาดอลลาร์ไปซื้อของได้เลย ทุกร้านแย่งกันรับ แต่ไอไปเมืองไทย คนขายของไม่เอา บอกว่าให้ไปแลกเงินบาทมาซื้อ !!!

ผมนิ่งไป ทำไมเราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าประเทศเรานอกจากจะโชคดีและสวยงามแล้ว ยังมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจขนาดนี้

สำหรับคนไทยบางคนที่ชอบด่าประเทศตัวเองหรือบ่นว่าอยากไปอยู่ที่อื่นเวลาไม่ได้ดังใจ หากมีโอกาสไปเที่ยวปารีส ลองโทรหาคนขับรถแท๊กซี่คนนี้แล้วคุยกับเค้าดูนะครับว่าจะเหมือนที่ผมเล่ามาไหมครับ

เค้าชื่อ คุณ Yannick Bou ครับ เบอร์โทรศัพท์ +33 7 87 11 25 62 ครับ บอกเค้าว่ามีคนไทยคนหนึ่งแนะนำมา รับรองว่าจะได้บริการอย่างดีครับ

จบครับ!

Written By
More from plew
สมการลงตัว “ชวน-ประยุทธ์”
ครับ………. ศึกรัฐสภานัดแถลง “นโยบายรัฐบาล” จะจบเมื่อคืน หรือจะเรื้อรังมาถึงวันนี้ นั่นก็ช่างเถอะ สิ่งสำคัญที่อยากบอก ก็คือ ทุกคนจงตั้งจิตนิ่งไปยัง “พระที่นั่งไพศาลทักษิณ” ในพระบรมมหาราชวัง แล้วกราบ……....
Read More
0 replies on “การสื่อสารกับการเมือง-เปลว สีเงิน”