“เพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลล้มเหลวจัดการวัคซีน และไม่บอกความจริง ห่วง กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แนะ เร่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนการบริหาร

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจและผิดหวังอย่างมาก ที่แม้กระทั่งวันนี้พลเอกประยุทธ์ ก็ยังจัดการเรื่องวัคซีนได้ล้มเหลวต่อไปได้อีก

ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากผิดหวัง และไม่พอใจและยิ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการในทุกด้านในช่วงวิกฤติการณ์ไวรัสโควิดนี้

แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ อย่างการบริหารจัดการวัคซีน ที่แค่ให้มีปริมาณเพียงพอ มีหลายยี่ห้อ และ เร่งกระจายการฉีดให้เร็วที่สุด พลเอกประยุทธ์ ยังทำได้ล้มเหลวแบบไม่เข้าท่า นับประสาอะไรกับการบริหารจัดการเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก

พลเอกประยุทธ์ คงไม่จะสามารถทำได้ อยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ดูตัวอย่างประเทศลาวที่ยินดีฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ ให้กับคนไทยที่อยู่ในประเทศลาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการที่ต่างกันมาก พลเอกประยุทธ์ น่าจะละอายใจบ้าง ขนาดตนเองยังละอายใจแทนพลเอกประยุทธ์ เลย

การบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาดนี้ พลเอกประยุทธ์ น่าจะต้องออกมายอมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานต่างๆ โทษกันไปโทษกันมา ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ศบค. กทม. และโรงพยาบาล ทำให้ดูมั่วไปหมด แถมพลเอกประยุทธ์ ยังกล้าบอกว่าไม่อยากโทษใคร ซึ่งเป็นการโยนความผิดอีก ทั้งที่ความจริงคนที่ต้องรับผิดชอบในความล้มเหลวเละเทะทั้งหมดนี้ คือตัวของพลเอกประยุทธ์ เอง

และไม่คิดเลยว่าขนาดจัดการเละเทะมาหลายเดือนแล้ว ความเสียหายมหาศาล แต่ก็ยังจะเละเทะต่อไปได้อีก แถมยังล้มเหลวกว่าเก่า ทุกวันนี้ประชาชนไม่สามารถเชื่อถือรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ได้เลยไม่ว่าจะเรื่องวัคซีนว่าจะได้ฉีดไหม หรือจะได้ฉีดเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สร้างความมั่นใจเพื่อเปิดธุรกิจและเปิดประเทศได้

ขนาดเรื่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็ยังสับสน เดี๋ยวบอกกักตัว 7 วันเดี๋ยวขยายเป็น 14 วัน เดี๋ยวบอกไม่ต้องกักตัวแล้ว ขอให้มีการฉีดวัคซีน 2 เข็มครบ และมีการตรวจผลโควิดแล้วก็สามารถเข้าได้เลยไม่ต้องกักตัว ซึ่งสุดท้ายแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ แบบนี้ใครจะกล้าวางแผนมาเที่ยวประเทศไทย

ซึ่งหากสรุปได้ว่ามีมาตรการที่เหมาะสมแล้ว ก็ควรเปิดแซนด์บ็อกซ์ในหลายจังหวัดท่องเที่ยวเลย ทั้ง ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา สมุย ฯลฯ เพื่อสามารถเปิดการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้ และต้องมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนหากจะมีการผิดพลาดอีก ทั้งนี้จะต้องเร่งกระจายการฉีดวัคซีนในจังหวัดท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

แม้จะล้มเหลวขนาดนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังยืนยันกับวุฒิสภา ว่าพลเอกประยุทธ์จะไม่ยุบสภาและจะอยู่ต่อจนครบเทอม ซึ่งก็ต้องดูว่าประชาชนจะทนกับความล้มเหลวเละเทะแบบซ้ำซ้อนของพลเอกประยุทธ์ ได้ไปอีกนานขนาดไหน และพรรคร่วมรัฐบาลจะยอมร่วมหัวจมท้าย และยอมล่มสลายเจ๊งกันไปพร้อมกับพลเอกประยุทธ์ หรือไม่ เพราะยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งจะไม่พอใจเพิ่มขึ้น ความนิยมของพรรคร่วมก็จะย่ำแย่ตามไปด้วย อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่เคยให้เกียรติหรือให้ค่าพรรคร่วมรัฐบาลเลย ซึ่งคงต้องวัดใจกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะถูกนำเข้าสภาในไม่กี่วันนี้ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนได้สนใจในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ เพราะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต

สาเหตุที่ประเทศไทยเสื่อมถอยทุกวันนี้ก็เพราะการฉีกรัฐธรรมนูญและมีการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ ถ้าไม่เร่งแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยเช่น การปิดสวิตซ์ สว. การยกเลิกยุทธศาสตร์ 20 ปี การคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์แบบมั่วๆตามใจชอบ ฯลฯ จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และ จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้

และที่สำคัญที่สุดคือ หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยก็จะจมปลักกับผู้นำประเทศที่ขาดความรู้ความสามารถต่อไป แม้จะบริหารล้มเหลวขนาดไหนก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนผู้นำได้ ซึ่งจะทำให้อนาคตเศรษฐกิจของประเทศไทยมืดมิดเหมือนที่สื่อหลักต่างประเทศวิเคราะห์ไว้ ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนไทยเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อทำให้ประเทศไทยแก้ปัญหาของประเทศและก้าวหน้าต่อไปได้

Written By
More from pp
“ราเมศ” เคลียร์ชัด พรุ่งนี้ ประชาธิปัตย์ ประชุม – ปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ ส่วนจะร่วม-ไม่ร่วม รัฐบาล ยึดมติที่ประชุม ส.ส. + กก.บห.ชุดใหม่
1 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคว่าในวันพรุ่งนี้ (2...
Read More
0 replies on ““เพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลล้มเหลวจัดการวัคซีน และไม่บอกความจริง ห่วง กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แนะ เร่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนการบริหาร”