ชีวิตรอได้ “เพื่อวัคซีนไทย” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“วัคซีนไฟเซอร์” จากอเมริกา “มหามิตร” บริจาค มาถึงไทยแล้ว
จะ ๑.๕ ล้าน หรือ ๒.๕ ล้านโดส ก็ช่างเถอะ
ยังไงๆ ก็ต้องขอบใจเขา
ที่อุตส่าห์ปันเศษ-ปันส่วนส่งมาให้ ใครที่ปักใจว่าไฟเซอร์คือ “วัคซีนเทพ” mRNA ที่รอคอย คงสมหวัง
ไงก็ดูให้ดีก่อนฉีดนะ ….
วัคซีนใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วจึงโละมา ไม่ใช่อะไร เพราะไฟเซอร์เป็นวัคซีนเทพ อายุเขาเป็นอายุทิพย์
แต่แค่ล้านกว่าโดส น่าจะจัดสรรปันส่วนไปตามกลุ่มเป้าหมายก่อน สาวกที่จดจ่อต้องรอล็อตรัฐบาลสั่งซื้อ ๒๐ ล้านโดส ที่จะมาปลายปีนั่นแหละ
ปลายปีก็อีกแป๊บเดียว….

สวมแมสก์กระชับจมูกรอกันไว้ตุลา.เป็นต้นไป วัคซีน mRNA ที่ปรารถนา ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสัน และแอสตร้า เซนเนก้า วัคซีน viral vector
ก็จะประดัง-ประเดมากองรวม!

สำหรับผม ไม่ใช่คนเรื่องมาก มีอะไรให้ฉีด ก็ฉีด จะซิโนแวค หรือแอสตร้า เซนเนก้า ฉีดได้ทั้งนั้น ยิ่งสูตรต้มยำ “ลุงยง” แซ่บดี ชอบ ชอบ

แต่บอกตรงๆ….
ไม่ขอฉีดวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน ของสหรัฐฯ
เพราะอะไร ไม่ใช่ไบแอส แต่เดี๋ยวจะบอก!

จะฉีดก็ต่อเมื่อ เป็นวัคซีน mRNA “ChulaCOV-19” ของไทยเท่านั้น
หรือไม่ก็ วัคซีนเชื้อตาย “HXP-GPOVac” ที่ใช้ไข่ไก่ฟักของมหิดลและองค์การเภสัช

อีกตัว….
วัคซีนสัญชาติไทยแท้ “ใบยาไฟโตฟาร์ม” สตาร์ทอัพสังกัดจุฬาฯ ที่ผลิตวัคซีนจากพืช คือใบยาสูบสำหรับใช้ในมนุษย์แห่งแรกในเอเชีย

กันยา.ที่จะถึงนี้ ถึงขั้นทดสอบในมนุษย์แล้ว มั่นใจผลสำเร็จ ไปถึงขั้น “วิจัยวัคซีนรุ่น ๒” รองรับ “ไวรัสกลายพันธุ์”

ความจริง ของไทยมีอีกตัว….
เป็นวัคซีน DNA “COVIGEN” พัฒนาโดย “ไบโอเนท-เอเชีย” บริษัทร่วมทุน “ไทย-ฝรั่งเศส” อยู่ระหว่างทดสอบในมนุษย์ ระยะที่ ๑ กับอาสาสมัครที่ออสซี่

เนี่ย….
ตั้งสติกันซักนิด อย่ามองแต่ชาติอื่นเป็นเทวดา เห็นเขาผลิตวัคซีน รุ่นฉุกเฉินออกมา ซึ่งยังไม่มีใครรับประกันได้ถึงความชัวร์ ก็ซูฮกเป็น “วัคซีนเทพ” กันตะพึด

หัดมองแบบให้เกียรติบ้านตัวเอง เชิดชู-ยกย่อง คนไทยและมั่นใจในศักยภาพไทยด้วยกันบ้าง
รู้ไว้ด้วย วิทยาการคิดค้น-วิจัย-พัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทยทุกวันนี้ “ระดับโลก” แล้ว

ปี ๒๕๖๕ ไม่ต้องไปง้อวัคซีนประเทศไหน ของประเทศไทยเราเอง ทั้งจุฬา-มหิดล จะผลิตออกมาให้ใช้ในประเทศ
ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ระดับไหน วัคซีนแบรนด์ไทย ก็ระดับนั้น แถมเชื่อได้ ฉีดแล้วปลอดภัย “ไม่เปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรม” แน่นอน!

คนบางพวก มัวแต่เล็มหญ้า-เล็มฟางที่ไอ้สามสัสสุมให้ เป็นอาหารทิพย์ เล็มแล้ว “ด้อยค่า” ประเทศตัวเอง ด้วยหลงเป็นเทพรุ่นใหม่ ไปถึงขั้นตบหัวสั่งสอนครูบาอาจารย์ ตั้งแต่อธิการฯ ยันอาจารย์-อาจม

ที่จริงก็สมน้ำหน้า….
ตามตรรกะพื้นฐาน ศิษย์เป็นแบบไหน ผู้บริหาร-ครูบาอาจารย์ มันก็เป็นแบบนั้น
คือเบ้าแบบไหน ที่หลอมออกมา ก็แบบนั้น

ทั้งจุฬา ธรรมศาสตร์ มีคำอธิบายทางวิชาการเหนือกว่า “ความจริง” ข้อนี้มั้ย?
ถ้าระบบมหา’ลัย สอนให้นักศึกษารู้แค่ตำราวิชาเรียน
ไม่ต้องมีมหา’ลัยก็ได้

ยุคนี้ ศึกษา-ค้นคว้าในระบบดาตา มีให้ครบเหนือกว่าไปเป็นศิษย์งั่งให้พวก’จานชังชาติ สนตะพายเป็นไหนๆ!
ที่ต้องมีมหา’ลัย มีครูบาอาจารย์ เจตนาหลัก นอกจากให้เด็กเรียนเอาวิชาความรู้แล้ว

ก็หวังให้มหา’ลัย สอนความเป็น “คนคุณภาพ” ให้กับนิสิต-นักศึกษา จากดิบเป็นบัณฑิต คือคนสุกแล้ว สู่สังคม
หวังให้กล่อมเกลาศิษย์สู่สายเลือดดี ยึดมั่นใน “ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์” รากเหง้าแผ่นดินและโคตรเหง้าตัวเอง

หวังให้รู้จัก “ให้เกียรติ” สถาบันศึกษา….
ให้กตัญญู-รู้คุณครูบาอาจารย์ และรู้จักให้เกียรติตัวเอง ที่คลอดจากมดลูกไทย

หวังให้อบรมบ่มเพาะ ให้รู้หน้าที่ และภาระบัณฑิต
ว่าเมื่อสำเร็จออกไปจากเบ้าหลอมสู่ความเป็นบัณฑิตแล้ว หน้าที่บัณฑิต คือต้องรักษาชาติ ไม่ใช่ขายชาติ ทำลายสถาบัน

และคนเป็นครูบาอาจารย์ ผู้บริหารแต่ละมหา’ลัย ด้วยจิตใต้สำนึกคนระดับนั้น ต้องตระหนักรู้
ว่าอัน “ปริญญา-วิชาความรู้” ที่สอนให้เด็กเรียนนั้น
แค่ใช้ “เลี้ยงตัว”

แต่ที่จะใช้เลี้ยงชาติบ้านเมืองและสังคมได้นั้น คือ ศีลธรรม, ซื่อสัตย์, อดทน, ศรัทธา, สละประโยชน์ตน เพื่อประโยชน์รวม

นี่คือ “ความเป็นคน” ที่ชาวบ้านมุ่งหวังจะได้จากการส่งลูกหลานไปเรียนมหา’ลัย
มหา’ลัย ต้องสอน “สัตว์” ประเภทคน ให้เป็น “มนุษย์” คือผู้ฝึกใจแล้วประเสริฐ

ไม่ใช่สอน “สัตว์” ประเภทคนให้เป็น “สัตว์เดรัจฉาน” คือผู้ไม่มีความนึกคิด ไม่รู้จักเหตุและผล
บางที ก็ไม่อยากโทษเด็ก-โทษคนรุ่นใหม่ เพราะเยาวชนเหมือนผ้าขาว แต่ที่แปรเปลี่ยนเป็นผ้าขี้ริ้วสกปรก

ผ้าเปลี่ยนสีตัวเองไม่ได้
คนอบรมบ่มเพาะ คือครูบาอาจารย์ ตามโรงเรียน-มหา’ลัยบางแห่งนั่นแหละ “ย้อมเด็ก”
จาก “ขาวบริสุทธิ์” ให้ต้องเป็น “บาปบริสุทธิ์” ในวันนี้!

กรรมสนองทันตาแล้วมิใช่หรือ?
“ปฐมนิเทศนิสิตใหม่จุฬาฯ” ด้วยปฐมบท ศิษย์ “ตบกระโหลก” อาจารย์ ตั้งแต่อธิการฯยัน’จารย์ผู้ประศาสน์แต่วิชา
ไม่ “ประศาสน์ความเป็นคน”!

เพราะครู-อาจารย์ “หน้าไหว้-หลังหลอก” ต่อหน้าที่นั่นแหละ
รุ่นใหม่ “นักศึกษา” วันนี้ จึงด่าชนิดจิกกระบาน ลากอาจารย์ให้มากราบตีนศิษย์!

ย้อนมาคุยเรื่องวัคซีนต่อ….
ที่ผมบอก ไม่ขอฉีดวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์ โมเดอร์นา ไม่ใช่ว่าของเขาไม่ดี มันดีแน่.
ถ้าไม่ดีจะมีคนเสียเป็นแสนๆ นั่งเรือบินจากไทยไปฉีดที่สหรัฐฯมาอวดกันหรือ?

แต่ผมกลัวผลข้างเคียงอันอาจเกิดขึ้นในระยะยาว ผมเชื่อความปลอดภัยในวัคซีนเชื้อตายหรือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิธีอื่นๆ เช่นวัคซีนใบยา วัคซีนไข่ไก่มหิดลมากกว่า

การสร้างภูมิด้วยวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์ โมเดอร์นา ยังไม่มีใครรับรองได้ แม้กระทั่ง FDA ของสหรัฐฯ
ว่าในระยะยาว….
ด้วย mRNA ที่เกี่ยวพัน DNA มนุษย์โดยตรง มันจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง “พันธุกรรมมนุษย์” หรือไม่?

“สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา” ของสหรัฐฯ (FDA) เบี่ยงตอบเพียงว่า
“เป็นของใหม่ที่ยังไม่เคยทดสอบในวงกว้างกับมนุษย์มาก่อน และไม่อาจรู้ได้ว่า จะมีผลข้างเคียงรุนแรงในระยะยาวหรือไม่?”
“ที่อนุมัติให้ออกมาใช้ ผ่านแค่ขั้นทดลองที่จำเป็น ๓ ขั้นตอน “รวดเดียว” พร้อมกัน เพื่อให้ได้วัคซีนมาใช้อย่างรวดเร็วในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น”

ที่พูดนี่ เป็นทัศนะตอบสนองส่วนตัว ไม่ได้เจตนาด้อยค่าวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์-โมเดอร์นา
คือใครใคร่ฉีด-ฉีด ส่วนผมไม่ใคร่

กลัวแบบโง่ๆว่า ….
ฉีด mRNA ประจำ มันจะกระตุ้นยีนในเซลล์ร่างกายให้ผลิตโปรตีนแบบเดียวกับส่วนหนามของไวรัสออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก

โปรตีนมันสะสม อาจกลายเป็นสารพิษได้ ถ้ามันทำให้กลายเป็นมนุษย์สายพันธุ์เอเลี่ยนขึ้นมาละก็ ยุ่งตายห่ะ!

ต่างกับวัคซีน ChulaCov-19 ถึงเป็นวัคซีน mRNA เหมือนไฟเซอร์ โมเดอร์นาก็จริง
แต่ผลิตโดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วของสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา โดยไม่ใช้ “ตัวเชื้อ” เลย

เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ชิ้นส่วนสารพันธุกรรมจิ๋วก็จะไปสร้างโปรตีนที่เป็นปุ่มหนามของไวรัส กระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกัน
เสร็จแล้ว เจ้า mRNA สูตร ChulaCov-19 ก็จะสลาย โดยไม่สะสมในร่างกาย

เนี่ย….
ด้วยความเชื่อส่วนตัว ไร้วิชาการรองรับ ผมจึงรอวัคซีนไทย เพราะ “ชีวิตผมรอได้”
เชื่อวัคซีน mRNA ของสหรัฐฯ แต่ไม่ไว้ใจ เกิดมีใครคิดไม่ซื่อ หวัง “เปลี่ยนพันธุกรรม” มนุษย์ขึ้นมา ผมยังอยากเป็นคน ไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาด!

ดังนั้น ใครอยากฉีด mRNA ของสหรัฐฯ ก็ฉีดไป ผมขอบายหนึ่งคน
รอฉีดแอสตร้า เซนเนก้า เข็ม ๒ ต่อไป มั่นใจ “วัคซีนไทย” ใบยาของจุฬา, เชื้อตายของมหิดล และ mRNA จุฬาฯคอฟ เท่านั้น

ถ้าจะตาย…
ได้ตายแบบ “ช่วยทดสอบ” วัคซีนให้ไทย มีอะไรต้องเสียดาย…หือ?



Written By
More from plew
โลกจะต้องอิจฉาไทย (อีก)
อย่างนี้ต้องฉลอง! “๒๘ วัน” ติดต่อ ในประเทศไทย โควิด เป็น ๐! แต่เห็น “ยอดรวม” ทั้งโลก พุ่งหลัก...
Read More
0 replies on “ชีวิตรอได้ “เพื่อวัคซีนไทย” – เปลว สีเงิน”