วันที่ต้องมอง “อนาคตสามสัส”

เปลว สีเงิน

นี่น่ะเรอะ “รุ่นใหม่” ของธนาธร?

ที่ใช้ออกหน้า “เปิดประตูบานแรก” ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่ประกาศวันก่อนน่ะ
สถุล “ต่ำสัตว์” อย่างนี้ มันจะไหวหรือ?
ยิ่ง “พังรุ้ง” ตกมัน ยกโขลงไปกระทืบหน้าค่ายทหาร ปาไข่-ละเลงสีใส่เลอะเทอะ นายไมค์ปีนขึ้นไปนั่งขย่มบนรั้วแบบนั้นด้วยแล้วสงสัยธนาธรจะถูกประตูบานแรกหนีบซะละมากกว่า!
โม้ “ต้องจบที่รุ่นเรา”
“คณะสามสัส” ที่บังอาจเหิมเกริม “ล้มเจ้า-ล้มแผ่นดิน” นั่นแหละ…จบ

เชิดนิสิต-นักศึกษาเป็น “รุ่นใหม่ปัญญาชน” มานำเปลี่ยนชาติ
แต่จาก ๑๙ กันยา.ที่สนามหลวง, หน้ารัฐสภา และหน้าค่ายทหารที่เกียกกายวานซืน
พฤติกรรม รุ่นใหม่ “พันธุ์สถุล” ชัดๆ!

รู้เช่นเห็นสันดานหนักขึ้นทุกวันแบบนี้ ที่ว่า ๑๔ ตุลา.จะมาชุมนุมกันมืดฟ้ามัวดิน ก็คงมีแค่รุ่นใหม่ที่คณะสามสัสขุนไว้อย่าง “อานนท์-เพนกวิน-รุ้ง” เท่านั้น

“นิสิต-นักศึกษา-นักเรียน” ทั่วไป ถึงตอนนี้ เขาแยกแยะได้แล้วว่า ไหนผิด-ไหนถูก คงไม่เป็นเหยื่อให้หลอกไปติดคุกแทนอีกแน่
ความจริง “รุ่นใหม่” ที่ใส-บริสุทธิ์ ก็ไหวตัว-รู้ทัน ว่าถูกธนาธรหลอก ไม่มาร่วมชุมนุมเมื่อ ๑๙ กันยา.อยู่แล้ว

ที่เห็นหรอมแหรม นั่นไม่ใช่มาเพราะถูกหลอก หากแต่เป็นตัวหลอกที่คณะสามสัสเพาะพันธุ์ไว้
๑๙ กันยา.จึงกลายเป็น “นปช.เสื้อแดง” ระบอบทักษิณคืนอาชีพรับจ้างชุมนุม ๗๐-๘๐%
คนเพื่อไทย ทำเป็นวิญญูชนเข้าไปตั้งโต๊ะสังเกตการณ์

แท้ที่จริง……
เข้าไปนับหัว-นับสาย ว่ามาเท่าไหร่ ครบมั้ย ๓ หมื่นหัวตามที่ตกลงกันไว้มั้ย อีหรอบเดิมตอนปี ๕๒-๕๓ นั่นแหละ!

พอมาเจอ “กราบเดียว” ของคุณหญิงพจมาน จนเสียวทั้งเพื่อไทยอย่างที่ทราบ
ก็เป็นสัญญานกรายๆ ส่งถึงธนาธรว่า…….
๑๔ ตุลา.ที่หวังว่าเพื่อไทยจะเกณฑ์ “รุ่นใหม่น้ำหมากย้อย” มาสมทบสร้างกระแสกดดันสถาบันและรัฐบาล นั้น
เลิกหวังได้…….

ทั้งเกรียง ทั้งใครต่อใคร ตอนนี้ พากัน “ส่ายหน้า” ตามสัญญานที่ “นายใหญ่-นายหญิง” ส่งซิกมา
“ให้เปลี่ยนหน้าไพ่เล่น”!

ก็ยังมีเวลาให้ธนาธรจัดทัพ “รุ่นใหม่พันธุ์สถุล” อีกครึ่งเดือน จะพลิกแพลงสถานการณ์ยังไงก็รีบคิด-รีบทำ ในเมื่อหุ้นส่วนล้มประเทศ-ล้มสถาบัน “ถอนหุ้น” ฉับพลันแบบนี้

ไม่มี “เสื้อแดงอีสาน” ส่งมาเป็น “กองหลอนหลัก” แน่!
๑๔ ตุลา.ระวัง งานจะกร่อย
โม้ไว้ จะชุมนุม ๗ วัน ๗ คืน แต่รุ่นใหม่ไม่ว่าพันธุ์ไหน นอกจากพันธุ์ไมค์ขยะ ที่นอนแช่ข้ามคืน-ข้ามวัน ไม่มีหรอก
อย่างเก่ง ตกบ่าย ก็โดดร่มหมดแล้ว!

ดังนั้น ถ้าไม่มีเสื้อแดงขาประจำยืนโยง ประตูบาน ๒ ที่ธนาธรเหี้ยนกระหือรือเปิด คงไม่มีโอกาส อีกทั้งจะถูกบานที่ ๑ หนีบขี้แตกตายด้วยซ้ำ
แล้วจะโทษใครล่ะ….

โทษนายใหญ่ต่างแดนหักหลัง หรือจะโทษนายหญิงจันทร์ส่องหล้าเอาตัวรอดกลางคัน “ถีบหัวเรือ” ขึ้นตลิ่ง?
ต้องโทษตัวธนาธรเอง สัญชาติขี้ข้าเรี่ยดิน เหิมเหินขึ้นทาบฟ้า ก็ต้องหน้าคะมำ
รบกับนายกฯ ประยุทธ์ ทำหน้าด้านๆ พอรบได้

แต่การได้อาศัยไออุ่นแผ่นดินแล้วมีแรง กำแหงรบเจ้า จะเอาประเทศไปบรรณาการต่างชาติ
นับดูซิ ตระกูลคุณมีกี่หัว พอให้ตัดมั้ย?

คนไทยน่ะ หลอกอะไร ปั่นอะไร ก็พอได้ แต่หลอกและปั่นให้ “ล้มเจ้า-ล้มสถาบัน” นอกจากขี้ครอกไม่กี่ตัวแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอากะคุณหรอก

เกมนี้ ไม่เพียงพังแค่ประตูบานแรก ที่บังอาจประกาศล้มเจ้า-ล้มสถาบัน
พลอยพังถึงประตูบาน ๒ เกมแก้รัฐธรรมนูญในรัฐสภา ที่จะตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เป้าหมายเปิดทางสู่การเป็นสาธารณรัฐ

ทั้งสส.-สว.และประชาชน “ไหวทัน”
ดังนั้น ที่จะแก้เพื่อตั้งสสร.หวังรวมหัวกับเพื่อไทยเขียนรัฐธรรมนูญตามเป้าหมายนั้น แท้งนอกมดลูกก่อนซะแล้ว

อยากแก้ ก็ต้องบอกให้ชัด ……
ว่าจะแก้มาตราไหนบ้าง แก้ไปสู่จุดไหน แล้วก็แก้รายมาตราในรัฐสภานั่นแหละ อย่างนี้จึงจะมีโอกาสเป็นไปได้

สภาพการจาก “กราบเดียว” ของคุณหญิง ไม่เพียงเทธนาธร ให้เดี่ยวโดดในเกมล้มเจ้าเท่านั้น
ยังเท “พรรคก้าวไกล-ก้าวหน้า” ให้พ้นไปจาก “ใบบุญทักษิณ” ในตลาดเลือกตั้ง
รวมทั้งในรัฐสภา ที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นหางให้พรรคก้าวไกลตีรวนกวนตีนรัฐบาล นั่นก็ยากแล้ว

เว้นแต่ก้าวไกล ยอมให้เพื่อไทยเป็นหัว แล้วตัวเองไปเป็นหางคอยกระดิกตามสถานเดียว

ซึ่งนั่น ธนาธร-ก้าวไกล ก็หลงตัว-ลืมตีนเกินเส้นไปไกล จนยากที่จะปรับสถานะเป็นฝ่ายยืนกุมไข่ ซูฮกให้เพื่อไทยเป็นลูกพี่แล้ว!

เพื่อไทย ยุคอักษร “พท.” มีหัว ถึงแม้นายสมพงษ์จะกลับเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งก็ตาม
แต่ หัวของ พ.พาน หัวนั้น คือ “หัวพจมาน”
หัวของ ท.ทหาร นั่นคือ หัวของ “ทักษิณ”
เพื่อไทย สู่ความเป็น “พรรคครอบครัวชินวัตร” สมบูรณ์อีกครั้ง

นโยบายใดๆ ออกมาจากที่ทำการพรรคถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นั่นของโชว์
ต้องที่ “ตึกชิน” อันมีนายหญิงบัญชาการหัวโต๊ะเท่านั้น ของจริง!

ถามว่าใน “เกมล้มเจ้า” ระบอบทักษิณล้มดีลกับธนาธรแล้วหรือ?
ไพ่น่ะ เขาไม่เก ไม่ลักไก่ กันทุกตา เหมือนไก่เดือยอ่อน หัดขัน ในสุ่มสามสัสหรอก
ไต๋กบอะไร จะหงายตอนไหน “นายใหญ่-นายหญิง” เท่านั้นที่รู้


ตอนนี้ นายใหญ่-นายหญิง เปลี่ยนจากไพ่วงธนาธร ขึ้นไปเล่นในอีกวงแล้ว โดยนายหญิงลงมานั่งหน้าแป้นเอง
เพื่อไทย “ในภาพรวม” ไม่หนาวหรอก
เว้นแต่ขั้วตรงข้ามนายหญิง ถ้าอยากรู้ขั้วไหนอยู่-ขั้วไหนไป ให้ดูวันประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ๑ ตุลา.

เห็นโฉมหน้ากก.บห.ชุดใหม่ เท่ากับเห็นแต้ม-เห็นไพ่ไต๋นายหญิง-นายใหญ่ ว่าเพื่อไทยปรับทิศการเมืองไปทางไหน? ไปทางทิศ “กราบเดียว”
หรือยังจะไปทิศ “ฝ่ายเผด็จการ-ฝ่ายประชาธิปไตย” ซ่อนดาบแดงไว้ในรอยกราบ รอจังหวะ?
“รัฐบาลแห่งชาติ” อย่างที่ขบวนการ “ปั้นคลิป-ปั่นข่าว” ว่าจะมีนายกฯ พระราชทานนั้น ส่อสันดานว่า จริงใจ หรือ “หน้าไหว้-หลังหลอก”?

ถ้าตามกติกา-ตามเกม พลังประชารัฐ-เพื่อไทย จับมือกันตั้งรัฐบาล นั่นตามวิถีทางประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา มันเป็นไปได้
นายใหญ่-นายหญิง ไม่ใช่คนโง่ ที่จะไม่รู้ว่า ขืนยืนถ่างขาเป็นฝ่ายค้านไปเรื่อยๆ ลงท้าย ไปกันหมดพรรคแน่

เพราะไม่มีสส.คนไหน ที่จะทน “อดอยากปากแห้ง” เป็นสิบๆ ปี และนับวัน พลเอกประยุทธ์ “บารมีมา-ศรัทธาเกิด” เพื่อไทยก็จะแห้งตาย ทั้งในอำนาจและในสนามเลือกตั้ง

นายใหญ่-นายหญิง ไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่เป็นคนใช้เงินมีเหตุผล
เหตุผลของเขาคือ “จ่ายไป-ต้องได้มา” ทบต้น ทบดอก


ฉะนั้น ที่จะให้จ่ายตะพึดทุกปี เป็นสิบๆ ปี อย่างที่เป็นขณะนี้ คนรวยเขาบอกว่า ไม่มีเหตุผล เป็นการค้าขายขาดทุน!
เมื่อประเมินตามรูปไพ่อยางนี้แล้ว คณะพรรคธนาธร จะหนาวอันดับ ๑ จะไม่ถูกผนวกเป็น “สินค้าพ่วง” ในเกมการเมืองของเพื่อไทย ยุคนายหญิงคุมหน้าเสื่อ
เพราะธนาธร เล่นไพ่ “ล้มเจ้า” นายหญิงต้องการชิ่งออกจากวง มากกว่าจะดึงเข้าร่วมวง

แก๊ง “หญิงหน่อย” ประกอบด้วย โภคิน-พงษ์เทพ และฯลฯ น่าจะหนาวอันดับ ๒ ตื๊ออยู่ได้ก็ตื๊อไป แต่อยู่แบบตายซาก เพราะทุกอย่าง ยุคพท.มีหัว
ต้อง “พ.พจมาน” วางตั้ง แต่ผู้เดียวเท่านั้น!

ดูรอบวงแล้ว “ไพ่ประยุทธ์” กลับแข็งสุด
ถึงใครมีแต้มจริงหรือคิดลักไก่ ก็รู้อยู่กับใจว่า ยังไงก็ “แต้มไม่ถึง” สู้ไปมีแต่แพ้ประตูเดียว

ก็ห่วง “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” ทุกคนพาสปอร์ตยังไม่ขาดอายุใช่มั้ย?

สำหรับธนาธร ไม่น่าห่วง สหรัฐฯ-ยุโรป โอเพ่นตลอดอยู่แล้ว

ปิยบุตร ก็ไม่น่าห่วง ใช้สิทธิ “เมียแหม่ม” ไปอยู่ฝรั่งเศส สุมหัวแยกประเทศเป็นสาธารณรัฐกับแก๊งสมศักดิ์เจียมได้

พรรณิการ์ ลึกๆ แล้ว ก็หายห่วง เธอเอาตัวรอดสบายอยู่แล้ว
เหลือแต่ “อานนท์/เพนกวิน/รุ้ง” แถมนายไมค์อีกตัว

คิดว่า “คุก” นั่นหวังได้
แต่คิดจะไปกินชีสเค้กอยู่สหรัฐฯ…ฝันไปเถอะ!

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกนสแกน QR Code



Written By
More from plew
ว่าด้วย “ล้วงลูก” ของรัฐมนตรี
พูดเรื่องย้ายผอ.รพ.ขอนแก่น “นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล” มา ๒ ครั้ง วันนี้ คงต้องอีกสักครั้ง เป็น “บทพิสูจน์” ในทางบริหาร-จัดการของรัฐบาล ที่ประกาศ...
Read More
0 replies on “วันที่ต้องมอง “อนาคตสามสัส””