ไทย “ซับซ้อน” ในสามมิติ

“บ้านเมืองไทย”
ก็เหมือนตะกร้าตอนไปจ่ายตลาด ไม่ได้มีของที่ต้องกิน-ต้องซื้อยัดลงตะกร้าอย่างเดียวฉะนั้น……
อย่าไปจดจ่ออยู่กับเรื่องใด-เรื่องหนึ่งโดยเฉพาะจนจับเจ่า ชีวิตจะเฉาเปล่าๆ

เรื่องอาจารย์-นักศึกษาเขาคึกจะล้มเจ้า เปลี่ยนระบอบประเทศไปเป็นแบบมีประธานาธิบดี
ก็ให้เขาคึกไป วัยรุ่นต้องคึก เป็นมะเขือเผา เป็นซาลาเปาแฟบ ไม่ได้

ลานหมดเมื่อไหร่ ค่อยช่วยกันเก็บกวาดใส่ถังขยะก็แล้วกัน

ไม่มีอะไรหรอก อยู่ในช่วงไอ้กันใต้คอนโทรล CFR ปฏิบัติการจัดระเบียบโลกตามแผน New World Order “ตีกัน” จีน ที่รุกกินรวบโลก ในศตวรรษที่ ๒๑ ด้วย “เส้นทางสายไหม” One Belt, One Road เชื่อมต่ออย่างน้อย ๖๕ ประเทศ ทั้งทางบกและทางทะเล

ซีไอเอ “จอร์จ บุช” ตัวพ่อ เป็นคนตั้งขึ้น เป็นแขน-ขา ทำงานให้ CFR ในเมืองไทยเราเอง เข้ามาปักหลักในรูปแบบต่างๆกระจายอยู่ในกรุง และตามหัวเมืองใหญ่ เฉียดหมื่น

เป็นซาตานในคราบวิชาการแทรกซึมตามสถาบันศึกษา เป็นปีศาจในคราบนักบุญ หนุนแทรกตามกลุ่มเคลื่อนไหวหากินทางสังคม แล้วเพาะเชื้อชังชาติ-ชังสถาบัน
ทำอย่างนั้นเพื่ออะไร?

อันที่จริง ไม่ใช่เพิ่งทำ เขาทำต่อเนื่องมานานแล้ว เพียงแต่ว่า เขาทำเหมือนเชื้อไวรัส คือช่วงไหนสังคมผนึกแข็ง ก็โอนอ่อนผ่อนสงบ
แต่ถ้าตอนไหน สังคมแตกแยก สถาบันอ่อนแอ เขาจะเข้าเสริมเป็นลิ่มแทรก ตอกและเร่งเร้าให้มวลชน ไม่ว่าจะเป็นพวกอาจารย์ นักศึกษา นักเคลื่อนไหว ก่อการ-ก่อกวน

ก็เห็นมั้ยล่ะ ตอนเสื้อแดงนปช.เป็นต่อ ตอนธนาธร-ปิยบุตรขึ้นหม้อ จักรวรรดิอำนาจตะวันตก “เปิดหน้าหนุน” ถึงขั้นเปิดสถานทูตต้อนรับ สหรัฐฯ ก็ทำให้เห็นมาแล้ว
อย่าง ๑๐ ข้อเสนอ “ล้มสถาบันกษัตริย์” ที่เวทีธรรมศาสตร์จะไม่ทน ของฮองเฮาเกศินี

นักการทูตจาก “ยุโรป-สหรัฐ” รวมทั้งซีไอเอในคราบนักข่าว-ช่างภาพ นักสังเกตการณ์

ใช้คราบนักการทูตเชิดชูดูไข่นักศึกษาตัวที่เชิดใช้ ซึ่งไร้มรรยาท ไม่เกรง-ไม่ให้เกียรติประเทศไทย ผิดวิสัยอารยชน-อารยประเทศ จะพึงทำ!

ที่ทำเช่นนั้น เพราะเชื้อที่พวกเขาเพาะ “บรรยากาศ-สถานการณ์” ถึงระดับจุดติดแล้ว

การเมืองในสภา เมื่อฝ่ายค้านไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็สุดจะทนรอต่อไป หาเรื่องตีรวน ทั้งให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ทั้งให้รัฐบาลลาออก
เป็นหวังทางเดียว ที่จะได้กลับเข้ามามีอำนาจ คือทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ “ประยุทธ์ออกไป” เท่านั้น ทุกอย่าง-ทางเปิด
และฉวยโอกาสช่วง “ผลัดแผ่นดิน”…..

นักศึกษา-คณาจารย์ “เครือข่ายพรรคพ่าย” ในคอนโทรลฝรั่งล่มชาติ ก็โหมโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์

สร้างแรงกดดัน หวังให้รัฐบาลใช้กำลัง เกิดการเผชิญหน้า นำไปสู่จลาจลเมือง อย่างที่ทำมาแล้วในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และอาเซียน-เอเชีย

ทั้งหมดนี้ เพื่อ……..
เปลี่ยนโครงสร้างสังคมประเทศ ทั้งสถาบัน ทั้งระบบ-ระบอบการปกครอง

ถ้าประเทศไทย ยังดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ จักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตก ที่ CFR เป็นหัวหอก ก็ยากที่จะครอบงำไทย ให้เป็นประเทศ “ตามใบสั่ง”

โดยเฉพาะ……..
รัฐบาลที่มี “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ!
คือ “ขบวนการล่มชาติ” ทั้งในชาติและนอกชาติ เห็นตรงกันว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นตัวขวางทาง “ล้มสถาบันกษัตริย์”

และตราบใด ที่พลเอกประยุทธ์ “ยังเป็นนายกฯ”
ตราบนั้น แผนเปลี่ยนระบบ-ระบอบประเทศไทย เป็นรูปแบบ “ประธานาธิบดี” ก็เกิดขึ้นไม่ได้!

เมื่อเกิดขึ้นไม่ได้…….
๑.จักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตกก็ครอบงำไทยไม่ได้
๒.พรรค “ร่างทรง” ตะวันตก ก็ขึ้นมาครองเมืองไม่ได้
๓.เมื่อพรรคร่างทรงครองเมืองไม่ได้ กลุ่มทุนตะวันตก อันมี CFR ของสหรัฐฯเป็นหัวหอก ก็ไม่สามารถใช้ไทยเป็นฐาน “สู้รบจีน” ได้

เส้นทางสายไหม “ทางบก” ของจีน สหรัฐฯยังทนได้

แต่ Maritime Silk Road เส้นทางสายไหม “ทางทะเล” ของจีน สหรัฐ “บอก…ทนไม่ได้!

ยังไงๆ สหรัฐฯ ไม่มีทางยอมให้จีนกินรวบในย่านเอเชียแปซิฟิก เพราะนอกจากเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเลของกองทัพในภูมิภาคนี้แล้ว

ยังเป็นยุทธศาสตร์เส้นทางเดินเรือสินค้าและเรือบรรทุกน้ำมันจากอีกมหาสมุทรหนึ่งไปสู่อีกมหาสมุทรหนึ่งด้วย

คือจากช่องแคบฮอร์มุซ เชื่อมอ่าวเปอร์เซีย อ่าวโอมานและทะเลอาหรับ ในตะวันออกกลาง สู่มหาสมุทรอินเดีย มาลอดช่องแคบมะละกา
ระหว่างแหลมมลายูกับสุมาตรา เริ่มตั้งแต่ภูเก็ตไปจนถึงสิงคโปร์ ทะลุออกทะเลจีนใต้ สู่มหาสมุทรแปซิฟิก นั้น

ตอนนี้ หลายประเทศอาเซียนกับจีน กำลังกินแหนงแคลงใจกันไม่รู้จบ เรื่องแย่งเกาะแก่งในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะเกาะสแปรตลีย์ และเกาะพาราเซล

แน่นอน…
สหรัฐฯต้องถือหางและหนุนประเทศในอาเซียน “อย่ายอม” จีน ถ้ายอม เท่ากับยอม ยกทั้งมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกให้จีน

เพราะตรงนี้ด้วย จีนจึงเล็ง “ขุดคลองไทย” จับพลัด-จับผลู สหรัฐฯ ปิดเส้นทางทะเลจีนใต้ ก็ยังมี “คลองไทย” เป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าและน้ำมันแทนได้

ตรงนี้ เข้าใจว่า จีนจ้าง “ผีไทยโม่แป้ง” อยู่ จึงเห็นทั้งนักการทหาร นักการเมือง นักวิชาการ และสื่อบางสำนัก ปลุกกระแส “ขุดคลองไทย” ชนิดไม่ลืมหู-ลืมตา

ขุดเมื่อไหร่ ฉิบหาย เมื่อนั้น ยิ่งกว่าพวกคณาจารย์-นักศึกษาร่านเมือง ตอนนี้อีก
ไม่เพียงผ่าประเทศเป็น ๒ ซีก ยังเปลี่ยนภูมิศาสตร์ สภาพดินฟ้าอากาศ ทะเล-ร่องน้ำ ไปทั้งหมด

รวมทั้งการท่องเที่ยว การเกษตร ระบบนิเวศน์ภาคใต้ ที่เลี้ยงคน-เลี้ยงประเทศอยู่ รายได้ปีละหลายแสนล้าน รวมทั้งเกาะ-แก่งภาคใต้ “อันดับหนึ่งโลก”

ขุดคลองไทยวันไหน “ฉิบหายเรียบ” วันนั้น!
ไม่เพียงเท่านั้น มันยัง “ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน” ชัดๆ

นึกหรือ……
เมื่อขายประเทศให้จีนขุดทำคลองเป็น “ทางสำรอง” ล่องเรือ แล้วสหรัฐฯ มันจะยอม?

ทีนี้แหละ อยู่ดีไม่ว่าดี ไทยเป็นหญ้าแพรกที่แหลกลาญ เพราะจีนกับสหรัฐฯจะเข้ามาใช้ประเทศเป็น “สนามรบ” ฟัดกันทันที
แล้วแบบนี้…คุ้มมั้ย …..

กับพวกที่ไปรับค่าจ้างเขามาผลักดันกันเหยงๆ ทั้งในและนอกสภาให้ขุดคลองไทยน่ะ?

เนี่ย…
ไทยเราเกิดมา เหมือนถูกบังคับให้เป็นวันทองกรายๆ ซ้ายก็ขุนช้าง ขวาก็ขุนแผน เพราะความเป็น “ศูนย์กลาง” ในภูมิภาคนี่แหละ จีนก็ดึง สหรัฐฯ ก็ดัน
คนไทยซื้อไม่ได้หรอก แต่บางพวกบอก “ขึ้นอยู่แต่ว่าเท่าไหร่”

ดังนั้น ที่สหรัฐฯในคราบองค์กรนักบุญ-สันติภาพ แทรกเข้าบ่อนไส้ ให้ชังชาติ-ล้มสถาบัน
มันก็เป็นเรื่อง “เข้าใจได้”

เราเป็นเพื่อน-เป็นมิตร “คบกันได้-รักกันได้” แต่เราจะยอมรับ “สิ่งที่พวกเขาทำ” โดยใช้ประเทศและคนเป็นเครื่องมือ เพื่อประโยชน์เขาเป็นที่ตั้งแบบนี้ไม่ได้!

กับฝรั่ง-ต่างชาติ คนไทยหัวอ่อน เขาจ้างให้ออกหน้าบ้าง ยืมชื่อใช้ ทำโน่น-ทำนี่แทนบ้าง ก็ยอม

อาจารย์-นักศึกษา “บางพวก” เขาจ้างผ่านคำว่าทุนวิจัย ทุนไปเรียนต่อ ส่งไปดูงานเข้าหน่อย ก็เชิดเป็นกิ้งก่าหัวนอก
แล้วอะไรๆ ที่เป็นไทย ก็บอกว่ามันไม่ดี เชย ล้าสมัย ตกยุค รุ่นใหม่ ต้องเป็นแบบฝรั่งตะวันตก ถึงจะเข้ายุค-เข้าสมัย

ดูกันแต่หนัง ก็หลงเข้าใจว่า ฝรั่งมันศิวิไลซ์ ซึ่งมันก็ใช่ แต่ก็แค่ส่วนหนึ่ง
ในอีกหลายๆ ส่วน ไปดูซี มีแต่ “ควายหน่ายคันนา” บ้านเรานี่แหละ ซูฮกยกมันเป็นเทวดาไปทั้งหมด

เถื่อน, ถ่อย, ซกมก นอกจากตัวใหญ่ เพราะกินอาหารขยะแล้ว ยังโง่ยิ่งกว่าควายกะลาครอบ นอกจากหัวแม่ตีนตัวเองแล้ว มันมองไม่เห็น-ไม่รู้จักอะไรเลยในโลก

โควิดระบาดป่วยกันเป็นล้าน ตายเป็นแสนๆ ใครจะเผาศพที ต้องรอคิวเป็นปีถึงจะได้เผา มันยังว่าโควิดนิทานหลอกเด็ก

“บางกอก-ไทยแลนด์” เดอะ เบสท์ อิน เดอะ เวิลด์ ด้านสาธารณสุข-ท่องเที่ยว คนทั้งโลกบอก ก่อนตายต้องมาซักครั้ง ฝรังงั่ง มันยังบอกไม่รู้จัก!

ในขณะที่คนทั้งโลก สมเพชในความงั่งพวกนี้ แต่พวกไทยชังชาติ กลับงั่งกว่า
ไปยกยอว่า ไอ้งั่งสังคมสูง ส่วนไทยสังคมต่ำ จึงไม่อยู่ในสายตาไอ้งั่ง!?

อันที่จริง ก็ว่ากันไม่ได้……..
เพราะภาพสะท้อนจากหนังละครทำให้เข้าใจว่าสังคมฝรั่งมันหรูแฟ่ไปทั้งหมด ถ้าวันใด มีโอกาสไปเห็น-ไปสัมผัสชีวิตตะวันตก โดยเฉพาะพวกไอกัน “นอกจอ” แล้ว จะเข้าใจ

ไม่มีที่ไหนในโลก สุขสบาย เป็นชีวิตที่เลือกได้ เหมือนที่เมืองไทยเรานี้หรอก!

เพราะสบายกันตามใจชอบเกินไปกระมัง จึงกระสัน กระแดะ อยากเป็นแบบฝรั่งเศส แบบอเมริกันกันนัก ทั้งที่ตอนนี้ มันเป็นสังคมที่ล้มเหลวที่สุด

ไม่เชื่อก็ไปถามเมียคณะสามสัสดูซิ….
ถ้าฝรั่งเศสสบายกว่าไทย แล้วมากิน ขี้ ปี้ นอน อยู่ในเมืองไทยทำไม ไม่ชวนสามีกลับไปอยู่ที่ฝรั่งเศสล่ะ?

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกน สแกน QR Code 




Written By
More from plew
โอ้…ชะตา “เศรษฐา” เอ๋ย! – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน คุยไปวันก่อน …….. ว่าจาก ๑๒ ธันวา.๖๖-๙ เมษา.๖๗ เป็น ๔ เดือน “เงื่อนตาย”...
Read More
0 replies on “ไทย “ซับซ้อน” ในสามมิติ”