ความยากลำบากที่ต้อง “ทำใจ”

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

อสมท” แดนสนธยาแห่งการหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าพวกพ้องมานานแล้ว “สรยุทธ” เป็นเพียงปลาซิวที่ตกเป็นเหยื่อ

นี่..เป็นข้อความที่ นายจอม เพชรประดับ ซึ่งลี้ภัยอยู่ต่างประเทศได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หลังศาลฏีกาตัดสินจำคุกคุณสรยุทธ สุทัศนจินดา 6 ปีกับ 24 เดือน

ซึ่งจะด้วยเจตนาอะไร ก็เป็นเรื่องภายในจิตใจของนายจอมที่ใครก็ไม่อาจไปก้าวล่วงรู้ได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เชื่อว่าข้อความนี้คงทำให้คนในอสมท.ร้อนเนื้อร้อนตัวอยู่บ้าง

โดยเฉพาะคุณเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เห็นจะไม่เงียบปล่อยเลยตามเลยไปได้ เพราะคำว่า “แดนสนธยาแห่งการผลประโยชน์เข้ากระเป๋าพวกพ้องมานานแล้ว” นั้น..

ย่อมหมายถึง..ณ ปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่?

ก็..คอยดูคุณเขมทัตต์จะชี้แจง-อธิบายว่าอย่างไร หรือจะยึดภาษิต “พูดไปสองไพ่เบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” ก็แล้วไป!



แต่..เรื่องนี้ ประเด็นมีคนสงสัย ที่ศาลตัดสินจำคุก 6 ปีกับ 24 เดือน ทำไมไม่สั่งจำคุก 8 ปีไปเลยนั้น คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายให้ความรู้เป็นวิทยาทานอย่างผู้ชำนาญการว่า..

ทำไมศาลถึงตัดสิน ปี 24 เดือน ไม่ตัดสิน ปี ไปเลย ผมในฐานะอดีตนักโทษหลายครั้งหลายครา ขอเขียนอธิบายง่ายๆให้ชาวบ้านเข้าใจ ดังนี้

1.กฎหมายบางมาตราจำคุกเป็นเดือน เช่น ข้อหาแรกศาลลงโทษ เดือน ข้อหาที่สองศาลลงโทษอีก เดือน นับรวมกันเป็น 12 เดือน แต่ไม่ใช่ ปี

2.สาเหตุเพราะในการลงโทษตามกฎหมาย ปี เท่ากับ 365 วัน แต่ เดือน กำหนดให้เท่ากับ 30 วัน

3.ดังนั้นหากศาลตัดสินว่าจำคุก ปี จึงเท่ากับ 365 วัน แต่หากตัดสินว่าจำคุก 12 เดือน เท่ากับติดคุก แค่ 360 วัน น้อยลงไป วัน

แหม.. อิสรภาพแม้แต่วันเดียวก็มีค่านะครับ การติดคุกจะติดขาดหรือเกินไปวันเดียวก็ไม่ได้



ยกตัวอย่าง หากศาลตัดสินวันที่ กุมภาพันธ์ ให้จำคุก เดือน ไม่ได้หมายความว่าปีนี้จะออกวันที่ 29 กุมภาพันธ์ได้ ต้องอยู่ให้ครบ 30 วัน จึงขอให้เข้าใจด้วยว่า เพราะอะไรศาลถึงแยกการลงโทษ ปี กับ เดือน ออกจากกัน

ครับ..ก็ต้องขอบคุณคุณชูวิทย์ที่ได้ช่วยเฉลยข้อสงสัยนี้ให้เป็นที่กระจ่างใจ ส่วนคุณสรยุทธก็เห็นจะไม่ต้องให้กำลังใจอะไรกันมาก

เพราะจากที่อ่านความในใจทางเฟซบุ๊กก่อนศาลตัดสิน ดูเหมือนจะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้อย่างเข้มแข็งดีแล้ว

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่างน้อยวันนี้ชีวิตผมก็จะได้เริ่มต้นใหม่เสียที แม้จะต้องเริ่มต้นจากติดลบ อยู่ในคุกตะราง จุดต่ำสุดของชีวิต แต่ก็ได้เริ่มต้น ซึ่งมันจะมีวันหนึ่งในที่สุดที่จะได้นับหนึ่งใหม่

เอาล่ะ.. “ความยากลำบากเดียว คือ ทำใจ” อย่างคุณสรยุทธว่านั่นแหละ ก็หวังจะยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ กองเชียร์ก็อย่าได้ฟูมฟายไปเลย..

รออึดใจก็ได้เริ่มต้นชีวิต (สื่อ) ใหม่อีกครั้ง!



Written By
More from pp
ความห่วงไม่เคยห่าง ผ่านโครงการ “กรุงศรีปันสุข” ส่งมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารกรุงศรี ส่งมอบความห่วงใยผ่านโครงการ “กรุงศรีปันสุข”
Read More
0 replies on “ความยากลำบากที่ต้อง “ทำใจ””