1 ภารกิจ จุรินทร์ “ทำได้ไว-ทำได้จริง” นำ 63 องค์กรเซ็น MOU ขจัดการเลือกปฏิบัติเพราะความแตกต่างระหว่างเพศ

20 ก.ค.63 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดพิธีประกาศเจตนารมณ์การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ที่ห้องประชุม ช้ัน ๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร

โดย นายจุรินทร์ ประธาน กล่าวเปิดงานว่า ถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามารับหน้าที่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระหว่างหน่วยงานที่จะร่วมกันสร้างสังคมให้ตระหนักถึงความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศร่วมกัน อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้มีการกระทำใด อันเป็นการแบ่งแยกกีดกันหรือจำกัดสิทธิ์เพราะเหตุบุคคลนั้นเป็นเพศชายเพศหญิงหรือบุคคลที่แสดงออกแตกต่างจากเพศ

ในการประกาศเจตนารมณ์ครั้งแรกตนอยากเห็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนสถาบันการศึกษาและทุกหน่วยงานทุกองค์กรในประเทศร่วมมือร่วมใจกันให้มีความกว้างขวางยิ่งขึ้น

ในครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ได้มีการประกาศรวม 24 หน่วยงาน มีทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ซึ่งร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจและแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน

จากการติดตามพบว่ามีความก้าวหน้าในทางปฏิบัติมากขึ้น และเป็นสิ่งที่น่ายินดีเพิ่มเติม มีจังหวัดอีก 2 จังหวัดที่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศเกิดขึ้นจังหวัด คือ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดปทุมธานี

รวมทั้ง 1 ใน 24 องค์กรที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในชุดแรก คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศขึ้นรวมทั้งได้มีการออกประกาศในเรื่องของการแต่งกายตามเพศสภาพเพื่อให้มีผลรองรับการปฏิบัติได้จริง เกิดขึ้นรวมทั้งมีการจัดทำห้องน้ำ All Genders ขึ้นมาภายในมหาวิทยาลัยน ถือเป็นความคืบหน้าที่เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ ขอแสดงความชื่นชม


สำหรับผลการประชุมคณะกรรมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ซึ่งตนเป็นประธาน นอกจาก 24 หน่วยงานที่ได้ลงนามไปครั้งแรก วันนี้มีเพิ่มขึ้นมาอีก 39 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานภาครัฐ 18 หน่วยงาน ภาคเอกชน 20 หน่วยงานและพรรคการเมืองอีกหนึ่ง

“พรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมลงนาม
ก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคการเมืองนั้นได้เคยประกาศเจตนารมณ์ไว้แล้วว่าจะขอเป็นหน่อยงานที่ 25 หลังจากที่ได้ลงนามไปแล้ว ชุดแรก 24 หน่วยงาน และพรรคการเมืองนั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ที่ผมเป็นหัวหน้าพรรค

ผมยินดี เพราะคือนโยบายของพรรคเช่นเดียวกันที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และกระทรวง พม.ที่จะต้องดำเนินการต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

รองนายกฯ กล่าวต่อว่าภารกิจที่เราจะต้องเริ่มมือร่วมใจกันดำเนินการถัดจากนี้ไปอย่างน้อย 3 ภารกิจ

1. ภารกิจในการที่จะต้องมุ่งมั่นและมุ่งเน้นในเรื่องของการประชาสัมพันธ์พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พุทธศักราช 2558 ซึ่งออกมาหลายปีแล้ว ให้ทั้งสังคมได้รับรู้ว่าเรามีกฎหมายฉบับนี้ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันดำเนินการ นอกจากนั้นการสร้างทางรับรู้แล้วก็จะต้องปรับกระบวนการต่างๆซึ่งตนทราบว่าเรามีพัฒนาการมาโดยลำดับที่จะทำให้ประชาชนหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็วเมื่อได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

2.การช่วยกันปรับเจตคติและค่านิยมของคนในสังคมให้คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศและการยอมรับความหลากหลายทางเพศที่เข้าลึกลงไปในก้นบึ้งของหัวใจแต่ละคนอย่างแท้จริง

3. เราต้องร่วมมือร่วมใจการขจัดความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ผ่านทางกลไกของรัฐที่มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศและผ่านเครือข่ายทั้งภาครัฐสถาบันการศึกษาภาคเอกชนภาค ประชาสังคมและไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมือง ตลอดจนประชาชนทั่วไปทุกคนให้มีส่วนร่วมและส่งผลในทางปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

“ผมหวังว่าถ้าเราได้ร่วมมือร่วมใจอย่างน้อย 3 ภารกิจ สถานภาพสถานการณ์ของประเทศก็จะมีพัฒนาการในทางที่ดียิ่งขึ้น ผมหวังว่าภารกิจพวกเราคงไม่จบที่ MOU ครั้งที่ 2 แต่จะมีครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 และต่อๆไปเกิดขึ้นอีก และ MOUทั้งหมดที่ได้ลงนามไปแล้วนั้นใช่ว่าจะจบแค่วันลงนามจะต้องมีการเดินหน้านำไปสู่ภาคปฏิบัติจริงและเป็นรูปธรรมต่อไปผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะพาประเทศไทยสู่สังคมยุคใหม่ที่ยอมรับความแตกต่างระหว่างประเทศอย่างแท้จริงต่อไป” รองนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำ

 

0 replies on “1 ภารกิจ จุรินทร์ “ทำได้ไว-ทำได้จริง” นำ 63 องค์กรเซ็น MOU ขจัดการเลือกปฏิบัติเพราะความแตกต่างระหว่างเพศ”