คปภ. จับมือ ธปท.และก.ล.ต. ร่วมแถลงข่าว เผยผลการประเมินภาคการเงิน Financial Sector Assessment Program (FSAP) สาขาประกันภัยไทยผ่านฉลุย เป็นลำดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คปภ. จับมือ ธปท.และก.ล.ต. ร่วมแถลงข่าว เผยผลการประเมินภาคการเงิน Financial Sector Assessment Program (FSAP) สาขาประกันภัยไทยผ่านฉลุย เป็นลำดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลำดับที่ 4 ของโลก • เตรียมนำข้อเสนอไปพิจารณาต่อยอดการจัดทำแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 (2564 – 2568) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลและเสริมเขี้ยวเล็บของธุรกิจประกันภัยของไทยให้เทียบชั้นมาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2562 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยผลการประเมินภาคการเงินตามโครงการ Financial Sector Assessment Program (FSAP) ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ณ ห้องสมานสโมสร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า ประเทศไทยเคยเข้ารับการประเมินภาคการเงิน (FSAP) แบบ Voluntary Basis (สมัครใจ) ครั้งแรกเมื่อปี 2550 (2007) ซึ่งในการประเมินครั้งนั้น สาขาประกันภัยไม่ได้เข้าประเมินแบบเต็มรูปแบบ แต่เป็นการประเมินเฉพาะประเด็น (Focus Review) ซึ่งได้รับข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์มาก เป็นผลให้มีการจัดตั้ง สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ ตลอดจนมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายแม่บทด้านการประกันภัย การนำระบบการกำกับดูแลตามความเสี่ยงมาใช้ในภาคธุรกิจประกันภัย ตลอดจนมีการจัดตั้งกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย

สำหรับการเข้ารับการประเมินครั้งนี้ของสาขาประกันภัยถือเป็นการเข้ารับการประเมินอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกอย่างละเอียดครบทุกมิติในการกำกับดูแลด้านประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นการประเมินจากหลักเกณฑ์ประกันภัยระหว่างประเทศ (ICP) ฉบับปรับปรุงล่าสุดของสมาคมหน่วยงานกำกับดูแลด้านประกันภัยระหว่างประเทศ (IAIS) ทั้ง 26 ข้อ ซึ่งถือเป็นกติกาสากลด้านประกันภัยที่ทุกประเทศถือปฏิบัติตลอดจนการประเมินจากการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย ฯลฯ ซึ่งมีคณะผู้ประเมินภาคการเงิน (FSAP) สาขาประกันภัยจาก World Bank ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก IMF เข้ามาประเมินในช่วงต้นปีนี้ โดยสำนักงานคปภ.ได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่ปี 2559 และมีการทดสอบประเมินตนเอง (self-assess) ในด้านการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยเป็นระยะๆ ทำให้ทราบจุดอ่อนจุดแข็ง และมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งพัฒนาการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในหลายๆ ด้าน อย่างต่อเนื่องทำให้กติกาต่างๆสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ คณะผู้ประเมินได้มีการประชุมหารือเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนในระบบประกันภัย อาทิเช่น หน่วยงานภาครัฐ บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทนายหน้าประกันภัย และสมาคมประกันภัยทุกสมาคมตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่าผลการประเมินเต็มรูปแบบของสาขาประกันภัยของประเทศไทยในครั้งนี้เราผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ICP ทั้ง 26 ข้อ โดยได้คะแนนในระดับที่ดีมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการประเมินของประเทศอื่นๆที่ได้รับการประเมินแล้ว ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 4 ของโลก และเป็นลำดับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียน ในจำนวนนี้ผ่านการประเมินในระดับ Observed (O) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จำนวน 10 ข้อ ผ่านการประเมินระดับ Largely Observed (LO) จำนวน 12 ข้อ และผ่านการประเมินระดับ Partly Observed (PO) จำนวน 4 ข้อ โดยไม่มีข้อใดที่ประเมินไม่ผ่าน ซึ่งในส่วนที่ผลการประเมินอยู่ในระดับ Partly Observed (PO) จำนวน 4 ข้อ ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะหลายข้อเป็นเรื่องที่สำนักงาน คปภ. เสนอขอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายไปแล้วและขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ขณะที่บางข้อเป็นเรื่องความร่วมมือในการกำกับดูแลระหว่างประเทศ ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือ MOU กับหลายประเทศ และอยู่ระหว่างการขยายผลให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้จากรายงานการประเมินที่เป็นทางการชี้ว่าทิศทางการกำกับดูแลด้านประกันภัยของไทยเป็นไปอย่างถูกทาง มีพัฒนาการที่ดีสอดคล้องกับมาตรฐานสากล บุคลากรของสำนักงาน คปภ. มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่ดี และมีประสิทธิภาพ และการกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. ในหลายๆ ด้าน มีการพัฒนาและส่งผลให้มีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ เช่น กรอบการกำกับดูแลตามระดับความเสี่ยง การกำกับคนกลางประกันภัยและพฤติกรรมทางการตลาด การดำรงเงินกองทุน การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ หนี้สิน สำรองประกันภัย และการกำกับดูแลเสถียรภาพระดับมหภาคในธุรกิจประกันภัย

“สิ่งสำคัญที่ทำให้สำนักงาน คปภ. ได้รับเกณฑ์การประเมินที่ดีนั้น มาจากการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง รวมทั้งความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาคอุตสาหกรรมประกันภัย จึงต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานมา ณ โอกาสนี้ นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานชัดเจนจากพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งมีทิศทางที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้านการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ผลจากการประเมินสาขาประกันภัยในระดับที่ดีมากครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อระบบการเงินของไทย แก่ทั้งคนไทยและนักลงทุนจากต่างประเทศ ว่าเรามีระบบบริหารความเสี่ยงที่น่าเชื่อถือตามกติกาสากล ทั้งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อระบบประกันภัยของประเทศไทย เนื่องจากทำให้ทราบจุดอ่อน จุดแข็ง ของภาคธุรกิจและการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยไทย และที่สำคัญคือได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์หลายด้าน ที่จะสามารถนำมาปรับปรุงเพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ได้รับจากการประเมินในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะนำไปพิจารณาประกอบการกำหนดแนวทางในพัฒนาการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ทั้งในเรื่องการปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติต่างๆ รวมถึงการประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลภาคการเงินของประเทศไทย และบูรณาการต่อยอดในแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 (2564 – 2568) เพื่อกำหนดกรอบทิศทางนโยบายในการพัฒนาการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมระบบประกันภัยสู่ระดับสากลต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Written By
More from pp
วาเลนไทน์นี้ ชวนทุกคนมาเช็คอิน รับทั้ง Luck และ Love ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ในแคมเปญ “The Land of Love”
วาเลนไทน์นี้ ชวนมาเช็คอินแบบลัคกี้อินเลิฟ ได้ทั้ง Luck และ Love ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ มาที่เดียวครบ กิน เที่ยว ช้อป...
Read More
0 replies on “คปภ. จับมือ ธปท.และก.ล.ต. ร่วมแถลงข่าว เผยผลการประเมินภาคการเงิน Financial Sector Assessment Program (FSAP) สาขาประกันภัยไทยผ่านฉลุย เป็นลำดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”