27 ธ.ค. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน ดังนี้
โฆษก ศบค. ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีการรายงาน ศบค. ไม่พบผู้ติดเชื้อที่จังหวัดสุโขทัย ทั้งที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อที่จังหวัดสุโขทัย และขณะนี้ได้มีรายงานผู้ติดเชื้อหรือไม่ ว่า
ทางจังหวัดจะเป็นผู้รายงานให้รับทราบ อย่างไรก็ตามขอแจ้งรายงานชุดข้อมูล เบื้องต้นว่า พบเป็นเพศหญิง อายุ 41 ปี ไม่มีแสดงอาการ มีประวัติอาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร และเดินทางกลับไปที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาและได้ส่งตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย ผลตรวจออกมาเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ปรากฏว่ามีเชื้อโควิด-19
ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัยอยู่ ซึ่งในรายละเอียดทางจังหวัดสุโขทัยจะชี้แจงรายงานให้รับทราบอีกครั้งต่อไป
ส่วนกรณีพบผู้ติดเชื้อที่จังหวัดระยองมีความเชื่อมโยงกับสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน ศบค.จะมีมาตรการพิเศษเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวหรือไม่ โฆษก ศบค. ชี้แจงว่า ในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ จำนวนมาก มีการแบ่งพื้นที่เป็น 4 ระดับพื้นที่ คือ
1) พื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งคาดว่าจังหวัดระยองก็จะเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่จะมีการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งต้องงดจัดกิจกรรมทุกรูปแบบ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการที่จะดำเนินการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ในจังหวัด
ทั้งเรื่องของการปิดสถานประกอบการที่เสียงแพร่โรค ควบคุมการเข้าออกยานพาหนะ ห้ามการเคลื่อนย้ายจัดตั้งด่านตรวจคัดกรอง เป็นต้น รวมไปถึงในแหล่งที่ปฏิบัติ ไม่ถูกกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ต้องเข้าไปดูอย่างเข้มงวด
2) พื้นที่ควบคุม เช่น พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็สามารถพิจารณาให้เปิดดำเนินการได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์
3) เฝ้าระวังสูงสุด มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 10 คน และ
4) พื้นที่เฝ้าระวัง คือไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ โดยจังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลย ขอให้ทุกคนช่วยกันเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ และให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเต็มที่ “อยู่ห่างไว้ ใส่หน้ากากไว้ หมั่นล้างมือ” และขอลดการพบปะสังสรรค์ไว้ก่อน
ส่วนมีการประเมินการติดเชื้อครั้งนี้ว่าหนักกว่ารอบแรกหรือไม่ และต้องมีมาตรการอะไรเข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น โฆษก ศบค. กล่าวยอมรับว่า ต้องสะท้อนความเป็นจริงว่าหนักกว่ารอบที่ผ่านมา แต่เราก็มีความรู้และสรรพกำลังมากพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งเรื่องหน้ากาก อุปกรณ์ทางการแพทย์ สถานพยาบาล บุคลากรทางด้านการแพทย์ โดยขณะนี้เชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคนในประเทศมีหน้ากากเพียงพอสำหรับใช้ในการป้องกันการติดเชื้อ และขอความร่วมมือประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้ได้ 100%
ทั้งนี้ การที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคน ตลอดจน ผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิงกลางคืนต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการและข้อกฎหมายที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
โฆษก ศบค. กล่าวถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรการของสาธารณสุขและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้คนเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ว่า เน้นย้ำในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูงไม่ควรมีการเดินทางเคลื่อนย้าย โดยขณะนี้พื้นที่ควบคุมสูงสุดมี 2 พื้นที่ คือจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดระยอง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพื้นที่ใดของจังหวัดที่มีการติดเชื้อ หากอยู่ห่างจากบริเวณที่มีการติดเชื้อก็สามารถที่จะเดินทางได้ ตอนนี้ไม่ต้องการที่จะให้เกิดมาตรการเข้มจนเกินไป โดยขอให้รับฟังข้อมูลและคำสั่งจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลัก ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดใน 30 จังหวัดที่ไม่ได้มีการติดเชื้อก็ยังสามารถเดินทางไป-มาได้
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามทางสายกลางที่ไม่ได้เข้มงวดจนเกินไป แต่จะเน้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และบุคคลที่สัมผัสหรือเสี่ยงเท่านั้นที่จะต้องดูแลรับผิดชอบตนเองอย่างสูงที่สุด พร้อมย้ำปฏิบัติตามมาตรการ“อยู่ห่างไว้ ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ หยุดเชื้อเพื่อชาติ การ์ดอย่าตก”
