“บิ๊กป้อม” หัวหน้า พปชร. ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกช่วย อาญาสิทธิ์ หาเสียง พร้อมยืนยันตลอด 2 รัฐบาลได้ทำทุกเรื่องให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง และมีความสุข
ย้ำสมาชิกพรรคมีความรักใคร่กันดี ขณะที่ “อนุชา” เลขา พปชร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย “อาญาสิทธิ์” หาเสียง ชูนโยบายรัฐบาล พร้อมขอโอกาสให้ผู้สมัครของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯช่วยนายกฯทำงานเพื่อประชาชน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เบอร์ 4 ผู้สมัครของพรรคหาเสียง ที่ตลาดนัดควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด โดยระบุว่าวันนี้ไม่ได้มาปราศรัยแข่งกับใคร แต่มาบอกความจริงว่าตนเองรักคนชะอวด พร้อมระบุว่าส่วนตัวไม่เคยขึ้นเวทีปราศรัยครั้งใดในชีวิต และไม่เคยเล่นการเมือง แต่มาเล่นการเมืองได้ 2 ปี ด้วยการมาเป็นหัวหน้าพรรค และได้ขึ้นเวทีกับชาวอำเภอชะอวดเป็นครั้งแรกในชีวิต
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐระบุว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางภาคใต้ และมีประชาชนมากเป็นอันดับ 2 โดยเฉพาะภาคใต้ทั้งหมดต้องถือว่ามีความสำคัญมาก ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นว่าภาคใต้นั้นมีความเจริญรุ่งเรือง ทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้รัฐบาลได้ทำในทุกเรื่องทั้งปาล์มน้ำมัน ยางพารา ที่ดินทำกิน บริหารจัดการน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีความรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พร้อมขอฝากพี่น้องชาวอำเภอชะอวดว่าพรรคพลังประชารัฐแม้จะรวมตัวกันระยะเวลาอันสั้น แต่มีความรักใคร่กัน รวมถึงรักใคร่ต่อประชาชน และทำงานเพื่อประชาชนโดยตรง
“พี่น้องชาวใต้โดยเฉพาะอำเภอชะอวด ตนเองขอฝากผู้สมัครของพรรคนายอาญาสิทธิ์ เบอร์ 4 ซึ่งจะให้ท่านลงคะแนนในวันที่ 7 มีนาคมนี้ไว้ด้วยหนึ่งคน ซึ่งเป็นคนนครศรีธรรมราช และเราจะได้ผู้สมัครที่มีความสมบูรณ์อย่างยิ่ง มีความรอบรู้เรื่องที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นตัวแทนให้ชาวนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในอำเภอชะอวด”
ในช่วงประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยได้ตะโกนว่า “ใจถึงพึ่งได้” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงบอกว่าพรรคพลังประชารัฐใจถึงพึ่งได้ ถึงแม้จะเป็นพรรครัฐบาลมาเพียง 2 ปี แต่ตลอด 2 ปี ภายใต้การบริหารงานของนายกฯได้ทำทุกเรื่องให้ประชาชน ให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง และมีความสุข ตนเองจึงขอฝากกับชาวใต้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ทอดทิ้งชาวใต้ทุกคน พร้อมกับขอฝากนายอาญาสิทธิ ซึ่งในวันที่ 7 มีนาคมก็ขอให้ลงคะแนนให้นายอาญาสิทธิ์ เบอร์ 4 ด้วย
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ส. นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 3 ปราศรัยระบุว่าตนเองเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และแม้จะน้อยใจ และเสียใจเพราะไม่ได้ทำผิด แต่ตนเองเคารพในกฎหมาย และมีสายเลือดความเป็นประชาธิปไตย จึงไม่เคยออกมาเรียกร้องตามท้องถนนแม้แต่ครั้งเดียว เพราะต้องการเห็นความเป็นประชาธิปไตยครบ 4 ปี
รวมถึงไม่อยากเห็นการนองเลือดของคนไทยด้วยกัน ดังนั้นการเข้ามาเป็น ส.ส.ในครั้งนี้จึงตัดสินใจมาอยู่กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข.
ทั้งนี้ จากการได้ทำงานร่วมกับนายกฯ ตนเองมีความสุขที่เห็นนายกฯรักประชาชน และอยากเห็นคนไทยกินดีอยู่ดี พยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ล้มเหลวจากความขัดแย้ง จนมาถึงปัจจุบันประเทศไทยได้ประสบปัญหาโควิด-19 นายกฯยังบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศในการบริหารจัดการกับสถานการณ์โควิด-19
นอกจากนี้นายกฯยังออกมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการออกโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ขณะเดียวกันนายกฯยังได้วางอนาคตไว้ให้ลูกหลานของคนไทยโดยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายอนุชา ยังขอฝากนายอาญาสิทธิ เบอร์ 4 ที่ประชาชนรักและศรัทธาในครอบครัวพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ยังอยากเห็นนายอาญาสิทธิ์ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง เข้าไปเป็นกำลังที่จะเป็นพลังให้กับนายกฯในการบริหารชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต นายอาญาสิทธิ์ คือคนที่ประชาชนจะเลือกเข้าไปทำงานกับนายกฯ
