‘เน่าใน’ ม็อบสามนิ้ว – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

มันก็แปลก…..

            นักกฎหมายบางคนจะเป็นจะตายหากไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ

อ้างว่าไม่อยากอยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการ

            วันดีคืนดี เสนอให้กระบวนการยุติธรรมพักการใช้กฎหมาย เพราะเด็กๆ ในแวดวงตัวเองถูกจับเข้าเรือนจำ

            ความเป็นนักกฎหมาย ต้องมีมาตรฐานที่สามารถวัดได้ด้วยความคงเส้นคงวาตามบทบัญญัติในกฎหมาย

            ไม่ใช่กฎกู

            วานนี้ “พนัส ทัศนียานนท์” นักกฎหมายใหญ่ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โพสต์เฟซบุ๊ก Panat Tasneeyanond ว่า

            ….ให้ประกันโดยกำหนดเงื่อนไข ว่า ต้องไม่ก่อม็อบ  ไม่พูดถึงสถาบันต่อสาธารณชนอีกในระหว่างการพิจารณาคดีก็น่าจะทำได้ ทำไมต้องเอาเข้าคุกด้วย….

            เรื่องคือว่า “จานพนัส” ประสงค์ให้ปล่อย แกนนำม็อบ  ๓ นิ้วออกจากคุก แบบมีเงื่อนไข

            ก็ดีครับ…ร่วมกันหาทางออกกับสังคม

            ให้สังคมโดยรวมอยู่กันอย่างสงบสุข

            แต่พออ่านเงื่อนไข

            ต้องไม่ก่อม็อบ…

            ต้องไม่พูดถึงสถาบันต่อสาธารณชน….

            หงายหลังครับ!

            เพราะเงื่อนไขที่ว่า ศาลท่านได้กำชับกับแกนนำ ๓ นิ้วทั้งหมดตั้งแต่คดีแรกๆ แล้วว่า ให้ประกันตัวนะ แต่อย่าไปทำความผิดซ้ำ หนึ่ง สอง สาม สี่

            ฟังซะที่ไหน!

            ทำผิดซ้ำไม่พอ

            ยังท้าทายอีก

            “จานพนัส” รู้จักเด็กๆ ในแวดวงหรือยัง

            เคยดูที่เขาเขียนในโซเชียล

            เคยฟังที่เขาพูดบนเวทีปราศรัยหรือไม่

            มันคนละฟีลกับที่ “จานพนัส” สื่อกับสังคมเลยนะครับ

            ที่จริงก็ไม่อยากเห็น กวิ้น ไมค์ รุ้ง  ฯลฯ อยู่ในคุก เด็กพวกนี้ควรอยู่ในมหาวิทยาลัย ร่ำเรียน เพื่อเป็นกำลังหลักการพัฒนาชาติในอนาคต

            ถ้าเอาตามที่ “จานพนัส” ว่ามา ใครจะเป็นคนการันตีว่า เด็กๆ เหล่านี้จะไม่ก่อม็อบ ไม่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก

            ที่ศาลท่านไม่ให้ประกันตัวก็เพราะทำผิดซ้ำซาก

            จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา “ไผ่ ดาวดิน” เคยติดคุกคดี  ม.๑๑๒ มาแล้ว ๘๗๐ วัน

            ในวันที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ “ไผ่ ดาวดิน” ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

            “ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อน้อมถวายเป็นปฏิบัติบูชาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ผู้ทรงมหากรุณาธิคุณอันประเสริฐตลอดไป”

            นั่นคือเสียงถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ของผู้ต้องขังกว่า ๑๐๐ คน เมื่อเช้าวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒

            มี “ไผ่ ดาวดิน” อยู่ในนั้นด้วย

            แต่ให้หลังไม่นาน “ไผ่ ดาวดิน” เข้าร่วมม็อบ ๓ นิ้ว

            อยู่ในกลุ่มต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์

            มีสถานะระดับแกนนำมวลชน

            และ “ไผ่ ดาวดิน” กลับเข้าเรือนจำอีกครั้งในฐานความผิดเดิมที่ติดคุกคราวที่แล้ว

            ฉะนั้น “จานพนัส” ต้องนำเสนอถึงหลักประกันด้วย

            เช่น หากเด็กๆ เหล่านี้ฝ่าฝืน ตัวเองจะยอมติดคุกแทนมั้ย

            ครับ….ลิเกหลงโรง!

            ทุกวันนี้นักวิชาการ นักกฎหมาย หลับหูหลับตาพูดจาส่งเดชกันเยอะแล้ว อย่ามาเพิ่มปัญหาให้ปวดหัวกันอีกเลย

            ฝั่งหนึ่งพยายามช่วยเด็กออกจากคุก

            เพื่อนร่วมขบวนการอีกฝั่งลากไส้กันเอง

            เน่าใน!

            ไม่ได้เน่าธรรมดา แต่หนอนขึ้นยั้วเยี้ยไปหมด

            ประเด็นหลักๆ คือเรื่องเงินบริจาค กับการหักหลังกันเอง

            ตอนนี้แบ่งเป็น ๒ ฝ่าย

            ฝั่งผู้กำกับ ต้อม- ยุทธเลิศ สิปปภาค และ แป้ง-สมรนนท์ แย้มอุทัย ศิลปินกราฟิตีเสือดำ เป็นผู้เปิดประเด็น

            อีกฝั่งมี เสี่ยบุ๊ง-ปกรณ์ พรชีวางกูร ผู้เปิดบัญชีรับบริจาคเงินสนับสนุนม็อบราษฎร และ ทราย เจริญปุระ ถูกฝ่ายแรกบอกว่า คือผู้หักหลัง

            ล่าสุดเขาลากไส้คืน “เสี่ยบุ๊ง” แฉผ่านเฟซบุ๊กว่า

                …”ต้อม ยุดเลิด” เกลียด “ทราย เจริญปุระ” เพราะทรายไม่รับเล่นหนังของมัน

                พอทรายไม่เล่น คนอื่นๆ ก็เลยถอนตัว เหลือแอมมี่คนเดียวที่รับเล่น เพราะคำว่า…เกรงใจ

                มันเลยตามแซะไอ้ทรายไม่จบไม่สิ้น เพราะโปรเจคระดมทุน ๑๐๐ ล้านสร้างหนังไปต่อไม่ได้ เพราะไม่มีดารา….

            ประชาธิปไตยเบ่งบาน “แป้ง-เสือดำ” ทนไม่ไหว สอยคืนทันควัน

                …รุ่นน้องที่ผมสนิทในต่างประเทศที่ผมส่งหลักฐานไว้ให้เผื่อกรณีฉุกเฉิน หมดความอดทนต่อคำด่าทอต่อผมไปเรียบร้อย ขอเชิญไปชมหลักฐานทางราชการที่ยืนยันคำพูดของผมว่าไอ้นี่คือ “นักต้มตุ๋นระดับชาติ” ที่มีพฤติกรรมไม่ควรมาอยู่ใกล้เงินบริจาคที่สุด

                แล้วถ้าลูกหาบยังจะมาบอกว่าผมมั่วอีก แนะนำให้เจ้าตัวไปฟ้องไวๆ เลยครับ บางส่วนของสลิปหลักฐานนั้นมาจากสลิปเต็มที่เป็นการโอนเงินที่เป็นหลักฐานไว้รอฟ้องครับ

                คนที่บอกว่านักต้มตุ๋นคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเงินม็อบ  ช่วยหาหลักฐานอื่นๆ มาแย้งนอกจากใช้คำพูดด้วยครับ

                ถ้าใครยังคิดว่าหลักฐานที่เห็นปลอม เร่งรีบฟ้องเจ้าของโพสต์เลยครับ หลักฐานการโอนเงินของมึงจะได้หุบปากพวกมึงเอง!

                ตอนนี้อยากจะด่าอะไรก็เชิญต่อนะครับ ถ้าคิดว่าผมคือคนที่มาทำลายขบวนการ ผมย้ำนะครับ ว่าผมได้มีการพูดคุยหลังไมค์แล้ว แต่หลังการพูดคุย เรื่องราวที่คู่กรณีนำไปเล่ามันเป็นอีกเรื่องครับ เท่ากับไอ้คนๆ นี้ก็จะยังลอยนวลโดยไม่มีคนรู้ความจริงต่อไป

                ดูจากโพสคร่ำครวญว่าผมไปดูถูกคนเคยติดคุกที่กลับใจบลาๆๆ เรียกความสงสารต่อคนรอบตัว กลับใจเหี้ยไร  เปลี่ยนชื่อก่อคดีรัวๆ จนถึงปีที่ผ่านมาก็ยังไม่หยุด…

            ถึงขั้นชูใบเสร็จแบบนี้ ติดตามชมความฉิบหายกันได้เลย

            แต่สิ่งที่จะฉิบหายมากกว่าความฉิบหายของขบวนการ ๓ นิ้วคือความฉิบหายของประเทศนี้ล่ะครับ หากบรรดา “จานๆ” ทั้งหลายยังให้ท้ายกันอยู่

            คนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

            ให้จบที่รุ่นเรา!

            แต่เบื้องหลังในรุ่นเรา คือ “เรา” ทั้งหลายเหล่านั้น สกปรก น่าขยะแขยง หักหลัง โกงกันเอง

            ปฏิรูปตัวเองก่อนเถอะครับ

ขอบคุณภาพจาก IG itr

Written By
More from pp
เข้มข้น!!…อิมเมจินไทยแลนด์ เดินหน้าขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ ระดมสมองผู้ก่อการดี ต.เจ็ดเสมียน วางแผนพัฒนาชุมชนสู่พื้นที่สุขภาวะต้นแบบ
วันนี้ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ใช่จะมีชื่อเสียงในเรื่องการทำไชโป้วเท่านั้น ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งของปราชญ์ชุมชน ไม่ว่าจะเป็น ‘มานพ มีจำรัส’ หรือ ‘ครูนาย’ ศิลปินเต้นร่วมสมัย...
Read More
0 replies on “‘เน่าใน’ ม็อบสามนิ้ว – ผักกาดหอม”