แล้ว “รัฐสภา” ก็ “สวนศาล” -เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ด้วยความเคารพ ท่านประธานรัฐสภา “ชวน หลีกภัย”
ขอกราบเรียนว่า…….
เมื่อวาน (๑๗ มีค.๖๔) ท่านเป๋จนน่าเกลียด!
ก็เข้าใจ เพราะท่านประกาศมาแต่ต้นว่า ตัวท่าน “ไม่ยอมรับ” รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
แต่ ตั้งแต่ท่านเข้ามารับตำแหน่ง “ประธานรัฐสภา” ต้องขอชม ว่าท่านสามารถแยกความไม่ชอบรัฐธรรมนูญเป็นการส่วนตัว กับการทำหน้าที่ประธานได้เคร่งครัดตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ชนิดที่ต้องบอกว่า “เคารพและเลื่อมใส”
ท่านเอาสภาอยู่…..
เป็น “หลัก” ในความไร้หลักให้บางพรรค-บางสส.เป็น “เสาธง” ประชาธิปไตยให้ประชาชนมาตลอด

เอกลักษณ์ของ “หลัก” และ “เสาธง”
คือ “ความตรง”
แต่มาในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมสังเกตว่าท่านประธานจะ “หลักลอย” จนอยากถามว่า
“ประธานชวนคนเดิมหายไปไหน?”

ดูท่านจะหลุดไปมากนะครับ เห็นอาการตั้งแต่มีคำวินิจฉัยเบื้องตนของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว
ตอนนั้น ท่านทุบโต๊ะเปรี้ยง ๑๗ มีนา. “วาระ ๓ ต้องโหวต”
แถมย้ำ ประชุมกับที่ปรึกษากฎหมายรัฐสภาแล้ว ประชุมร่วม ๓ ฝ่ายแล้ว สรุป วาระ ๓ ต้องโหวต

ศาลรัฐธรรมนูญต้องรีบออก “คำวินิจฉัยกลาง” เมื่อ ๑๑ มีนา.นั่นแหละ การยืนกรานของท่านค่อยอ่อนลง
แต่ดูเหมือน ลึกๆ แล้ว ท่านยังต้องการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมวาระ ๓ ที่มีสาระหลัก “ตั้งสสร.เขียนใหม่” ทั้งฉบับ

เห็นได้ชัด….
แม้ที่ปรึกษากฎหมายรัฐสภามีความเห็นสุดท้ายออกมาว่า “การโหวตวาระ ๓ น่าจะสวนทางกับคำวินิจฉัย”

กระนั้น ก็เห็นชัด….
จากการขึ้นนั่งบัลลังก์ทำหน้าที่ “ประธานรัฐสภา” ควบคุมการประชุมตั้งแต่ ๔ โมงเช้า
ธงการทำหน้าที่ของท่าน คือ….

“โยนการตัดสินใจทั้งหมดให้เป็นความรับผิดชอบของสส.-สว.กันเอง ว่าจะเอากันแบบไหน อย่างไร?”

“ผิดฟอร์ม” ประธานชวนไปมาก!?
จากเคยปรู๊ดปร๊าด อ่านกฎหมายทะลุ กลับคล้ายเลอะเลือน-คลุมเครือในคำวินิจฉัย ป้ำเป๋อในกฎ-ระเบียบ

ปล่อยให้สมาชิก ทั้งหารือ ทั้งอภิปราย ทั้งยื่นญัตติซ้ำญัตติ ซ้ำๆ ซ้อนๆ

สมาชิกรัฐสภาเห็นประธานเป๋ ช่วยท้วงติง แต่ท่านก็ยังเท้งเต้ง ออกอ่าว-ออกทะเล
ปล่อยให้สส.-สว.ใครใคร่พูด-พูด, ใครใคร่เสนอญัตติ-เสนอ, ใครอยากพูดอะไร เสนออะไร กระแนะ-กระแหนใคร ก็ปล่อยเรื่อยไป
ไม่เห็นฝั่ง ไม่เห็นเป้าหมาย สุดแต่ว่า ใครอยากลากไปทางไหน ก็ลากกันไป

มีสมาชิกท้วงติง ก็อิงลีลาประชาธิปไตยใจกว้าง ว่าเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นกันทั่วๆ

กว้างของท่านคืออะไร เป้าหมายมันอยู่ไหน ค่าไฟ-ค่าแอร์-ค่าเวลา ธุระไม่ใช่ที่ต้องคำนึง ปล่อยลากไป ประชาชนจ่ายเอง
จาก ๔ โมงเช้า ยันทุุ่มกว่า เป็นสิบชั่วโมง
ผมนอนฟังจากบ้านก็แล้ว ตะแคงฟังต่อที่สำนักงานก็แล้ว จนสมาชิกรัฐสภาเป็นฝ่ายขวยใจแทน

ไม่เข้าใจ….
ว่าท่านประธานรัฐสภากินยาผิดซองหรืออย่างไร หรือมีเจตนาอะไร อ่านคำวินิจฉัยศาลแล้ว จะเอายังไง ประธานไม่เป็นธง-เป็นทิศอย่างเคยเป็นเลย?

ผมเข้าใจ สส.-สว.
ไม่ติดใจบทบาทเหล่าท่านในรัฐสภาเมื่อวาน ในเมื่อประธานทำหน้าที่ “นายท้าย” พายหลุด
หัวเรือเป๋ ไม่ตรงทิศ ลูกเรือก็ต้องจ้ำบ้าง เจาะบ้าง เอาตีนราน้ำบ้าง
สภาพประธานชวนเมื่อวาน จึงมีสภาพ “ประธานรัฐสภาเรือลอย”!

เห็นแต่ประธานฯ “อุ้มสมาชิก” ให้ทำหน้าที่
แต่เมื่อวาน สมาชิก “อุ้มประธาน” ให้ทำหน้าที่!?
ผลการประชุมเมื่อวาน ผมว่า “มีปัญหา” ตามมาแน่

เพราะผิดตั้งแต่แรก นับแต่เปิดประชุม ตามวาระการประชุม เป็นการประชุมเพื่อโหวตวาระ ๓ ของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านวาระ ๒ มาแล้ว

ตามมาตรา ๒๕๖(๖)เมื่อเปิดประชุม ก็ต้องโหวตวาระ ๓ เลย ด้วยการเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย

แต่เมื่อวาน เปิดประชุมปั๊บ….
ประธาน ทั้งปล่อย ทั้งเชิญชวน ให้สมาชิกรัฐสภาหารืออภิปราย เสนอญัตติ ลากกันไปจน ๓ ทุ่ม ถึงจะโหวต
ก็เกิดประเด็น ว่าการโหวต วาระ ๓ นั้น….
เป็นไปตามขั้นตอนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖(๖)หรือไม่?

นอกจากนั้น ญัตติร่างแก้ไขนี้ ตกไปแล้วหรือไม่ เนื่องจาก มีการเสนอญัตติใหม่เข้ามา “ทับญัตติ” เดิม!

ไม่เพียงญัตติเดียว…..
ประธานฯ ยังนำญัตติหลายๆ ญัตติ ที่เสนอซ้ำซ้อนมาโหวตรวมกัน น่าจะขัดต่อกฎระเบียบด้วยซ้ำ
มันเลอะเทอะไปหมด จนเชื่อถือได้ยาก กับทุกมติรัฐสภา ที่ออกมาเมื่อวาน!

รัฐสภาที่ประธานชวนสร้างมาตรฐานไว้ แล้วด้วยประธานชวนเอง ท่านทำให้มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?

กว่าจะโล้เรือที่ลอยทะเลเข้าอ่าว สรุปแล้ว ผ่านญัตติที่เสนอเข้ามาทับญัตติเดิม
เสียงส่วนใหญ่ ให้โหวตวาระ ๓ ชนิดไม่สนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ!

อืมมมม…..
ก็ไม่รู้ผลจะออกมาไง จะถูกคว่ำ หรือเดินหน้า เพราะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ตอนคุยนี่ก็ ๒๑.๓๐ น.ไปแล้ว เกินผมรอ
แต่ดูสถานการณ์ จะถูกคว่ำด้วย “เสียงรับรอง” ไม่พอมากกว่า!

อย่าลืม “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ”

ทุกสมาชิกรัฐสภาที่โหวตให้ผ่าน วาระ ๓
“ต้องรับผิดชอบ”!

ฉะนั้น จึงเห็นสส.พรรคร่วมรัฐบางคน “อ่านขาด” แสร้งตะโกนแบบไม่พอใจในรัฐสภา แล้วตบเท้าเดินออก ไม่ร่วมโหวต
ส่วนสว. “ส่วนใหญ่” แทบไม่ต้องรอผลก็บอกได้ โหวตไม่ถึง ๘๕-๘๖ คนแน่!

สมาชิกรัฐสภาที่พูดเมื่อวาน สำหรับผม ยกให้ “ท่านสว.สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย” อภิปรายด้วยวุฒิภาวะสมบูรณ์
แจกแจงประเด็นตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ชัดเจน ครบถ้วน

“สว.สุรชัย” อ่านคำวินิจฉัย เข้าใจ

ประธานชวน….
ลึกๆ แล้ว ระดับท่าน เกินจะเข้าใจ แต่กลับทำเหมือนไม่เข้าใจ
ต้องโหวตต่อ วาระ ๔ ในถนนกระมัง?

Written By
More from plew
“บัตรคนจน” กับ “คนอิจฉา” – เปลว สีเงิน
แต่โถหนี่ วิเคราะห์เหตุแล้ว พบว่า........ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ "บัตรลุงตู่" นี่เอง เป็นหนึ่งในอีกหลายสาเหตุที่ "ตรึงขา" ม้าเพื่อไทยให้ต้องหยุดยืนขี้"
Read More
0 replies on “แล้ว “รัฐสภา” ก็ “สวนศาล” -เปลว สีเงิน”