เปลว สีเงิน
คุณหมอครับ!
ทั้งคุณหมอ “โอภาส การย์กวินพงศ์” อธิบดีกรมควบคุมโรค และคุณหมอ “ไพศาล ดั่นคุ้ม” เลขาฯ อย.
อย่าไปสนใจเสียงหมาเห่าเลยครับ
ถ้าท่านไปยึดถือเสียงหมาเห่าว่าเป็น “ข่าวสารจริง” แล้วไปตอบโต้ มันจะยิ่งได้ใจ แล้วเห่าใหญ่เลย
ก็ “ตามวิสัยหมา” นั่นแหละ!
เรื่องวัคซีนไฟเซอร์ที่นายโทนี่เห่านำร่องว่ามีคนนำเข้ามาแล้ว พวกข้างใน ก็รับลูกไปโวยวายขยายต่อทำนองเป็นวัคซีนสำหรับคนมีเงินจ่าย นั้น
ช่างหัวมันเถอะ ไปให้ราคากะมันทำไม?
ก็รู้กันอยู่ ……
โทนี่น่ะมันคือใคร คือไอ้ตัววายร้ายที่โลกตราหน้า มันเกิดมาเพื่อ “ตะแลง-ตลบกลบโกง”
วันๆ กับนางพญาหอยแครง มันทำอะไร?
คอยเสี้ยม คอยชัก คอยแช่ง คอยปล่อยข่าว “แทงรัฐบาล-ทิ่มตำประเทศ”
มันเห็นรัฐบาลจัดซื้อไฟเซอร์ได้สำเร็จ ก็อิจฉาตาร้อน ใช้ลีลา “จริงในเท็จ-เท็จในจริง” เห่ากับพวกเห็บ
คุณหมอไปให้ค่ามัน ตานี้แหละ ไม่ต้องหลับต้องนอนกันละ เพราะมันจะเห่าไม่หยุด!
ความจริงไอ้หมาตัวนี้ มันเคยพรางตัวมาในคราบ “เสือ” ทีแล้ว ระหว่างปี ๒๕๔๔ – ๒๕๔๙ นั่นไง
จำกันได้มั้ย….?
“เสนาะ เทียนทอง” เคยนำเรื่องที่เจ้าโทนี่เคยบอกเขาตอนวางแผนหาเสียง เรื่องนโยบาย “จดทะเบียนคนจน”
เสนาะคัดค้าน และนำมาเขียนแฉไว้ ว่า
“ผมเคยแนะนำว่า ทำไม่ได้นะ ไปประกาศเฉยๆไม่ได้
การประกาศสงครามความยากจน แต่เอาเขามาขึ้นทะเบียนเฉยๆ คนที่เป็นหนี้สินอยู่ แต่ไม่ใช่คนจน ก็มาจดทะเบียนด้วยนะ
มันจะบานปลายกันไปใหญ่ น้องไปให้เขาจดทะเบียนพี่ไม่เห็นด้วย มองด้วยจิตสำนึก มันปฎิบัติไม่ได้ มันทำไม่ได้
มันได้แต่ตัวเลขมาโชว์ตอนเลือกตั้ง แต่หลังจากนั้น มันไม่มีผลจริง”
แต่เจ้าโทนี่ บอกว่า …….
“โธ่…พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้ เราจะได้เสียงเหรอ”
เห็นมั้ย….
พอได้เป็นนายกฯ มันก็จับชาวบ้านตาบอดที่หลงเชื่อมันผ่านนโยบาย “โรยหน้า” ส่วนเนื้อใน คือพวกมัน เป็น “เสือ” รุมขย้ำ-รุมแทะเนื้อ แทบหมดประเทศ
ยังเหลือเศษๆ เนื้อติดกระดูก ตัวมันถูกเตะกระเด็นไปเป็นสัมภเวสี ยังเสียดาย ส่งน้องสาวมาแทะต่ออีกพักใหญ่ ก่อนไปเป็นสัมภเวสีอยู่ด้วยกัน
จะเห็นว่า มันหลอกลวง-ตลบตะแลง มาตลอด จากเสือตอนนั้น พอบ้านเมืองมีปัญหาโควิดตอนนี้
มันก็ปรี่ออก “ขลับเห่า”……
ทั้งโทนี่และอีหอยแครง จากเสือกินคนเป็น ตานี้มาในคราบอีแร้งทึ้งศพโควิด!
ใครยังหลง-ยังเชื่อ พวกนี้ ก็ช่างเขา เห็บกับหมามันต้องเคล้ากัน ก็ปล่อยมัน เพราะเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว
ทำงานของเราไปดีกว่าครับ..คุณหมอ
ตอนนี้ อย.ต้องคัดท้ายเรื่องวัคซีน เรื่องยาที่นำเข้ามาใช้
ความเป็น-ความตาย “แข่งเวลา” ความชัวร์-ความเชื่อได้ในอย.ก็ต้อง “แข่งมาตรฐาน” เหมือนกัน
ฉะนั้น อย่าต้องไปเสียหัว-เสียเวลา “หมาเห่า-อย่าไปเห่ากะหมา” เชื่อผมเหอะ เพราะผมคุ้นเสียงกับฝูงนี้
และเรื่องการแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า มีกลุ่มคนไทยเช่าเครื่องบินเหมาลำไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะวัคซีนโมเดอร์นา ที่ประเทศสหรัฐฯ ฟรี
ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แถมเลือกได้ ว่าจะเอายี่ห้อไหน นั้น
ผมก็ดูจากคลิปคนชื่อ “ทอม” พูดเรื่องนี้เหมือนกัน นายทอมนั้น น่าจะคุ้นกันดี เป็นคนไทยทำมาหากินอยู่ในสหรัฐฯ บินไป-บินมา ประจำ เคยทำงานการเมืองกับบางพรรคเคยมาทำธุรกิจบางจ๊อบในประเทศ และชอบออกคลิป-ออกข่าวประจำ มีแฟนตามดู-ตามฟังเยอะ
เขาอาจพูดข้อเท็จจริงรวบรัดไปก็ได้ คุณหมอฟังแล้วก็ผ่านเลยดีกว่า คุณหมอไปพูดเอง พวกที่มันจ้องทำลาย ก็จะได้ช่องเสียบ
คุณหมอเหนื่อยและหนักมาเป็นปีแล้ว ถ้าเป็นผม หงายท้องไปนานแล้ว ฉะนั้น คุณหมออย่าเก็บเรื่องเปลือกๆ มาใส่ใจให้เปลืองพลังงานเลย
ให้เด็กๆ ในกรมชี้แจงเป็นวิทยาทานกับพวกปั่นเฟกก็พอ
สหรัฐฯ นั้น แต่ละรัฐ ก็มีกฎหมาย-กฎกติกาต่างกันไป อย่างกรณีนายทอม บอกฉีดแล้วจากไทย ๒ เข็ม ก่อนบินไปสหรัฐฯ
ลงเครื่องปุ๊บ ก็ไปเต็นท์เอกชนที่เขาบริการฉีดฟรีทันที เพราะให้เพื่อนลงชื่อจองผ่านแอปล่วงหน้าไว้แล้ว แถมเลือกได้นั้น
สำหรับนายทอม ก็เป็นได้ ผมเชื่อว่าเขาเป็นซิติเซน เสียภาษีให้รัฐในฐานะอเมริกันชน จึงเดินทางเข้า-ออกได้สบาย และฉีดได้ฟรี
เพียงแต่เขา “ไม่ได้บอก” ตรงนี้เท่านั้น
หรือไม่ก็ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย อาจฉีดให้คนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเมือง รับการฉีดได้อีกที ก็อาจเป็นไปได้
แต่ที่พูดกันถึงขั้นว่า “เช่าเรือบินเหมาลำไปฉีดฟรีได้ที่สหรัฐฯ” นั้น
คุณพูดก็บ้า คนเชื่อก็บ๊อง พอๆ กัน!
ประเด็นแรก สหรัฐฯ เขายังไม่เปิดประเทศให้คนทั่วไปเข้าได้ กับคนที่ให้เข้าไปได้ หมายความว่า
คนนั้น นอกจากต้องฉีดวัคซีน ๒ เข็มก่อนแล้ว ก็ต้องมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ที่เขาจะออกวีซ่าให้ ในช่วงโควิดระบาด
ดังนั้น ประเด็นต้องใคร่ครวญก่อน คือ
๑.เหมาเรือบินไป สหรัฐฯเขาเปิดให้เข้าท่องเที่ยวได้แล้วหรือ?
๒.คนที่จะไป ในเมื่ออยู่เมืองไทยก็ได้ฉีดครบกันแล้ว ดังนั้น จะต้องกระเสือกกระสนไปฉีดกันทำไมอีก?
๓.รวยแล้วบ้า หรือบ้าแบบไอ้โทนี่ สตังค์พอมี แต่สติไม่เหลือหรอ เหมาเครื่องบินเป็นหลายๆ ล้านบาท เพียงเพื่อไปฉีดวัคซีนฟรี (หรือเปล่าก็ไม่รู้) ที่สหรัฐฯ?
พวกมันหาช่อง-หาเหตุ ขัดแข้งขัดหา-ด่าประเทศอยู่แล้ว พอท่านอธิบดีโอภาสไปชี้แจง พวกมันก็ฉวยโอกาส
จัดทัวร์ลงถล่มคุณหมอซะเลย!
นายทอมเองก็โพสต์เฟซ ทั้งหมิ่นแคลน ทั้งท้าทายต่างๆ นานากับคุณหมอ ก็ช่างเขาเถอะ การ “หมิ่นแคลน” คือ “หินลับมีด”
ฉะนั้น ทำอย่างที่คุณหมอทำอยู่ทุกวันนี้ คือ “มีดหมอ” ดีแล้ว อย่าแปลงค่าไปเป็น “หิน” เลย
นี่ผมแอบดูการทำงานของคุณหมอและตั้งหวังไว้แล้ว ว่า ภาพลักษณ์-ผลงาน ในอนาคต “ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ไม่มีตรงไหนที่จะไม่เหมาะสม
ผมนี่…ไม่รู้เป็นไง
เห็นใครมาค่อนขอด-ดูแคลนแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ช่วงนี้ โกรธ บอกตรงๆ!
กับผมเอง แค่จะเดินออกไปหาข้าวกินแถวๆ โลตัส ตลาดคลองเตย ยังแหยงๆ
แล้วบรรดาคุณหมอ คุณพยาบาล และพนักงาน-เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาล ตามงานภาคสนามทุกที่-ทุกแห่ง ตลอดวัน- ตลอดคืน เป็นเดือน-เป็นปี และเป็นปีๆ
คิดสิ…คิด
ชีวิตพวกเขามีค่ากว่าผมด้วยซ้ำ แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ทั้งคลุก-ทั้งคลี ทั้งปลุก-ทั้งปล้ำ กับคนป่วยโควิด คนนำโควิดมาสู่พวกเขา
เป็นหมื่น-เป็นแสน-เป็นล้าน และล้านๆ คน
แต่เขาเหล่านั้น ถึงท้อ ถึงเหนื่อย ถึงน้ำตากระเซ็น และถึงดับสิ้น แต่ไม่ถอย ไม่ทอดทิ้งประชาชน ไม่มีเสียงบ่น ไม่มีเสียงร้องขอ
แต่พวกเราสิ บางพวก-บางคน เอาแต่ใจ อย่างที่อาจารย์ชูชาติ ศรีแสงว่า
พอไม่มีวัคซีน ก็ถามหาวัคซีน พอมีวัคซีน ก็กลัวไม่กล้าฉีด พอจะฉีด ก็เลือกยี่ห้อ
พอรัฐจัดให้ฟรี ก็อยากไปฉีดกับเอกชน พอเอกชนจะเก็บเงิน ก็ด่ารัฐบาล ทำไมไม่ฉีดให้ฟรี
เฮ้อ…แบบนี้ “ยกประเทศหนี” ซะดีมั้ย?
