ไม่ใช่เวลาเปลี่ยนรัฐบาล-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ชักยังไง

            วันก่อนชาวคณะ “ไทยไม่ทน” เรื่อยไปจนถึง “ไทยชังชาติ” ดาหน้าไล่ “ลุงตู่” ให้ลุกจากเก้าอี้ โทษฐานอยู่มาเข้าปีที่ ๘

มันนานเกินไปแล้ว

            ฉะนั้นต้องเปลี่ยนรัฐบาล

            หานายกฯ ใหม่

            หันซ้าย หันขวา แล้วใครล่ะจะมาเป็นนายกฯ

            ในทางทฤษฎีโดยรัฐธรรมนูญตอนนี้เข้าข่ายอยู่ ๕ คน

            อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

            สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

            ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

            ชัยเกษม นิติสิริ

            อนุทิน ชาญวีรกูล

            บางคนบอกว่านายกฯ ก๊อกสองซิ หาคนกลาง นอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองได้ บทเฉพาะกาลของรัฐบาลเปิดทางไว้ 

            คนเสนอก็แปลกครับ ก่อนนี้บอกว่าเป็นช่องทางสืบทอดอำนาจของเผด็จการ มาตอนนี้กลายเป็นทางออกของประเทศ

            ตัวบทรัฐธรรมนูญอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิมทุกตัวอักษร ไม่มีใครไปทำอะไร

            แต่พอใจคนเปลี่ยน รัฐธรรมนูญก็เปลี่ยนตามซะงั้น

            นี่คือหนึ่งตัวอย่างของรัฐธรรมนูญที่เป็นเหยื่อทางการเมือง

            ครับ…เมื่อโหวกเหวกจะเอาคนนอก

            บอกว่า ผู้นำใหม่จะต้องมีจิตใจนักเลง รู้จักการให้  สเปกนี้ของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ก็ต้องตั้งคำถาม…แล้วใครกันล่ะ

            ๕ คนข้างต้นไม่ใช่แน่นอน เพราะไม่ตรงปกสำหรับคนไล่ลุงตู่ แถมยังเป็นคนในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง

            รัฐบาลลุงตู่เหมือนถูกรุมกินโต๊ะ ทั้งจากศัตรูการเมือง  มิตรเก่าที่เบื่อง่ายหน่ายเร็ว

            ก็ลองจับทิศทางลมดู

            วันสองวันมานี้ พรรคเพื่อไทยประกาศท่าทีชัดเจนว่า ถ้าลุงลาออกก็ “พร้อมเสียบ”

            ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

                “ในสถานการณ์วิกฤติ พรรคเพื่อไทยคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ประยุทธ์ไม่พร้อม เพื่อไทยพร้อม 

                พรรคเพื่อไทย ได้รับการยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ประกอบกับตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤติที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็ว ทันการณ์

                ไม่ว่าจะเหตุคลื่นยักษ์สึนามิหรือการระบาดของไข้หวัดนก

                รวมทั้งสามารถฟื้นฟูประเทศให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว

                อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่าสามารถดำเนินนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนได้สำเร็จมาโดยตลอด  มีความพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

                มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ดีกว่ารัฐบาลนี้อย่างแน่นอน ไม่เชื่อ อย่าท้า”

            อ่านจบขนลุกซู่!

            โจรกระจอกปล้นปืนที่นราธิวาสปี ๒๕๔๗ 

            ฆ่าตัดตอน ๒,๘๗๓ ศพ ในสงครามยาเสพติด

            ทุจริตเชิงนโยบายแปลงสัมปทานเอื้อชินคอร์ป

            ผลประโยชน์ทับซ้อนที่ดินรัชดาภิเษก

            EXIM Bank ปล่อยกู้ ๔ พันล้าน แก่รัฐบาลพม่าเพื่อซื้อสินค้าและบริการของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด  (มหาชน)

            น้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๔๕ มีผู้เสียชีวิต ๘๑๓ ราย

            โกงจำนำข้าว ๗ แสนล้าน

            ทั้งหมดนี้ทำไมไม่รวมไปด้วย

            มันช่างบังเอิญประหนึ่งตั้งใจว่าช่วงนี้ “เฮียโทนี่-เจ๊ปู”  เคลื่อนไหวผ่านโซเชียลถี่ยิบ

            พี่เปิด น้องตาม

            น้องชง พี่ปิด

            สลับกันมาระยะหนึ่งแล้ว

            ๒ คนนี้กลับมาเป็นนายกฯ ได้หรือไม่?

            ไม่ได้ทั้งนิตินัย และพฤตินัย

            แล้วทำไปเพื่ออะไร

            ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน ทุกอย่างสำหรับเพื่อไทยยังเหมือนเดิม

            ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

            ทักษิณสนตะพายเพื่อไทยตาม

            ฉะนั้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่มีความหมาย เพราะเราเห็นมาแล้ว ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเชิดนายกฯ จากพรรคพลังประชาชน เพื่อไทย ทุกคน

            แต่สิ่งที่ ทักษิณ พึงตระหนักคือ ยิ่งลักษณ์ จะเป็นนายกฯ นอมินีคนสุดท้าย

            ประเทศไทยจะไม่ยอมให้มีผู้นำโง่แบบนี้อีก

            เช่นกันรัฐบาลจากการรัฐประหารชุดที่ผ่านมาจะเป็นชุดสุดท้าย

            เพราะโลกเปลี่ยนไปเกินกว่าจะถอยหลังกลับไปได้แล้ว

            ฉะนั้นหากทุกฝ่ายปล่อยให้การเมืองเดินตามระบบ ๔ ปีเลือกตั้งหน นั่นคือหนทางสู่การสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

            ขณะที่เกมเปลี่ยนอำนาจช่วงเวลานี้ เด็กอมมือก็รู้เป็นจริงได้ยาก แต่ที่นักเคลื่อนไหวการเมืองทำขึงขัง ก็แค่ให้สมราคาค่าตัว   

            หากพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบ การเมืองหลังโควิดจะเปลี่ยนโฉม เช่นเดียวกับวิถีชีวิตของประชาชนที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป                                     

            การเปลี่ยนรัฐบาลจะเกิดจากการเลือกตั้ง        

            ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งจากการยุบสภา หรือเลือกตั้งตามวาระ

            การมีส่วนร่วมของประชาชนบนท้องถนนจะลดลง  เพราะทุกขั้วการเมืองได้รับบทเรียนแล้วว่า เจ็บตายไม่คุ้มค่า

            ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

            การเมืองไทยเคยปรับตัวครั้งใหญ่หลังวิกฤติต้มยำกุ้งปี  ๒๕๔๐ แต่หลายคนอาจไม่รู้สึก ไม่เห็นว่าเปลี่ยนตรงไหน

            ตำแหน่งรัฐมนตรีคลังก่อนปี ๒๕๔๐ ใครๆ ก็เป็นได้

            แต่หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คือเก้าอี้ที่ถูกจับตามองมากที่สุด รองจากนายกรัฐมนตรี

            การเมืองหลังยุคโควิดจึงเป็นภาคต่อของยุคต้มยำกุ้ง 

            ผู้นำประเทศคนต่อไป จะถูกตั้งความหวังไว้สูงว่าจะพาประเทศไปได้

            คนที่จะมานั่งตำแหน่งนี้จึงต้องมีความพิถีพิถันทางการเมืองกว่าอดีต

            เว้นเสียว่า ประชาชนไม่ปรับตัว

            ยังเลือกทหารเลวหน้าค่ายเต็มสภา

Written By
More from pp
กรมทางหลวงชนบทรายงานสถานการณ์ ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 08.30 น. สายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด
กรมทางหลวงชนบท รายงานสถานการณ์ ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 08.30 น. สายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด...
Read More
0 replies on “ไม่ใช่เวลาเปลี่ยนรัฐบาล-ผักกาดหอม”