ศูนย์บริการสุขภาพ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง คณะสหเวชศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กับ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด คว้าใบรับรองความสามารถ ห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ 15190:2003  

นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและมอบใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ 15190:2003 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของงานทางด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ให้แก่ รศ.ดร. ไพลวรรณ สัทธานนท์ คณบดีคณะสหเวชศาสตร์  ในนามของศูนย์บริการสุขภาพ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เกิดจากความร่วมมือกับบริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเครื่องมือตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ในประเทศไทย ณ ห้องประชุมรองศาสตราจารย์ ดร. กำพล รุจิวิชชญ์ ชั้น 6 อาคารปิยชาติ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อเร็วๆ นี้

รังสิต – พฤศจิกายน 2562 – ศูนย์บริการสุขภาพ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้าใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ ISO 15190:2003 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของงานทางด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์  โดยศูนย์บริการสุขภาพ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ โดยคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหน่วยงานภาคเอกชนโดยบริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็น 1 ในจำนวนเพียง 200 ห้องปฏิบัติการทั่วประเทศไทยที่ผ่านการรับรองนี้ จากสำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการของประเทศไทย

ศูนย์บริการสุขภาพ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 ด้วยจุดประสงค์เพื่อส่งมอบการบริการที่มีมาตรฐานสูงและเป็นการบริการที่มีความสะดวกแบบ One stop service ให้กับผู้รับบริการ โดยคณะสหเวชศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะที่ผลิตบุคลากรคุณภาพทางด้านเทคนิคการแพทย์ชั้นนำของประเทศ ได้คัดเลือกบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ทางด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) มาเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนระบบห้องปฏิบัติการให้มีความพร้อมในการให้บริการอย่างมืออาชีพ อย่างเต็มรูปแบบ

ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาศูนย์บริการสุขภาพได้ให้บริการแก่ผู้รับบริการตรวจสุขภาพ ครอบคลุมทั้งภาครัฐ และเอกชน มีระบบให้บริการเคลื่อนที่ตามโรงงานและบริษัทต่างๆ งานตรวจสุขภาพประชาชนในชุมชน โรงเรียน และหน่วยงานราชการรวมทั้งงานบริการตรวจสุขภาพบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย และให้บริการด้านงานวิจัยต่างๆ งานบริการที่ทางหน่วยงานได้ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน คือ การตรวจวิเคราะห์สิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ งานตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ รถMobile X-ray การตรวจทางอาชีวะอนามัย การตรวจวิเคราะห์สารโลหะหนัก และการตรวจวิเคราะห์โดยเทคนิคทางโมเลกุล การตรวจวินิจฉัยวัณโรคดื้อยา รวมถึงการตรวจ Alpha-thalassemia อีกด้วย

ความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนครั้งนี้มีความมุ่งมั่นให้ ศูนย์บริการสุขภาพเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี และได้ดูแลสุขภาพบุคคลากรในองค์กรเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน พัฒนาองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการยกระดับการบริการที่มีคุณภาพ สะดวกสบาย ครบวงจร ด้วยระบบ IT ให้ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ เข้าถึงข้อมูลอย่างครบวงจร และมีผลการตรวจวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งมุ่นเน้นการให้บริการหลังการขายด้วยการให้ความรู้ด้านสุขภาพกับผู้รับบริการจากผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัย

จากความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่ต้องการจะยกระดับมาตรฐานการบริการในทุกขั้นตอน ศูนย์บริการสุขภาพฯ จึงได้มีการขอรับรองมาตรฐานทางห้องปฎิบัติการ ISO 15189:2012 และ ISO 15190:2003 ซึ่งได้ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศูนย์บริการสุขภาพ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เกิดจากความร่วมมือกับบริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเครื่องมือตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ในประเทศไทย นำโดยโดยคุณฤทธิชัย ศรีวิจารย์ ประธานกรรมการบริษัทฯ และคุณนทพร บุญบุบผา ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ระบบ IT การบริการด้านวิชาการต่างๆ และมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ ISO 15190:2003 จะมีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุน ยกระดับการบริการตรวจสุขภาพ ให้ประชาชนชาวไทยมีสุขภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

Written By
More from pp
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินหน้าอัปเกรด “เขตประกอบการฯ BCG”
นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตและพื้นที่อุตสาหกรรม  
Read More
0 replies on “ศูนย์บริการสุขภาพ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง คณะสหเวชศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กับ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด คว้าใบรับรองความสามารถ ห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ 15190:2003  ”