“๒ เสือเฒ่า” ในแนวรบ – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“สังคมไทยในภาวะวิกฤตแบบนี้ แทนที่จะร่วมมือกัน สามัคคี แต่กลับเป็นพยายามที่จะพูดจาถากถาง ดึงเข้าสู่การเมือง
ในบางครั้ง มีการกล่าวหาที่เลื่อนลอย และไม่เป็นความจริง
มีหลายคน เสนอให้กฎหมายเข้ามาจัดการ ผมเองไม่เคยไปสนใจอ่าน เลยไม่เดือดร้อน
แต่ที่เดือดร้อนมาก กลับเป็นลูกศิษย์ที่ยังเคารพอาจารย์
ส่วนลูกศิษย์ที่ไม่เคารพ ก็ไม่เป็นไร ผมไม่เคยถือ
และขณะนี้ ก็ได้มีการจับแล้ว ๑ คน
และจะคงมีรายต่อๆ ไป โดยที่ผมจะยุ่งเกี่ยวให้น้อยที่สุด
ขอให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพ และจริยธรรม ที่ต้องให้เกียรติกันและกัน”
ครับ…
นี่คือหยดกลั่นจากใจรันทด ของปูชนียบุคคลในวงการแพทย์ท่านหนึ่ง
ซึ่งชีวิตท่านอุทิศแลกเพื่่อให้ชีวิตประชาชนรอดจากโควิดมาตลอด เป็นที่ประจักษ์ถึง ณ วินาทีนี้
ท่านคือ “ลุงยง” ของผม

“นพ.ยง ภู่วรวรรณ” หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นับแต่ปลายปี ๒๕๖๒ เรื่อยมา เมื่อโลกมีคำว่า “ไวรัสโควิด-๑๙” ระบาด
“ลุงยง” ผู้อยู่เหนือโควิดคือยามเฝ้า คอยตีบอกโมงยามให้วงการแพทย์ วงการสาธารณสุข รัฐบาล และเคาะประตูชาวบ้าน ให้ได้รู้ถึงทิศทางมา และวิธีรับมือมัน ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

เราคนไทยไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าลุงยงคือใคร ในขณะที่ลุงยงห่วงและรักพี่น้องลูกหลายไทยในภาวะโควิด ลุงยงตามติด
ที่ไทยโชคดี “ป่วยน้อย-ตายน้อย” จนโลกเลื่องลือ ตอนนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณลุงหมอท่านนี้

ทุกคนบอก ฝีมือรัฐบาล ฝีมือการสาธารณสุข ฝีมือแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ เช่น อสม.ซึ่งก็ใช่ แต่รู้ไว้ด้วย….

ทองที่ปิดหลังพระหลายๆ แผ่น ในความเป็นคณาจารย์แพทย์และบุคลากรนั้น
แผ่นหนึ่ง คือ “ลุงยง” นี่แหละ!

แต่พอโควิดกลายพันธุ์ “เดลตา” พันธุ์มหาพิฆาตระบาดถึงไทย แผนบริหารและไทม์ไลน์วัคซีน
“ผิดแผน” เท่ากับ “ผิดพลาด” ในแนวรบ-แนวรับทั้งหมด!

กระหึ่มด่านายกฯ, กระแนะ-กระแหน ลุงยง มาทันที
นายกฯ เชื่อแต่หมอแก่ๆ เก่าๆ
ล้าสมัยไม่ทันวิทยาการ เอาแต่วัคซีนเชื้อตาย “ซิโนแวค” มาฉีด วัคซีน mRNA ไม่สั่งเข้ามา

เห็นมั้ย…เจอเชื้อเดลตา เลยติดเป็นหมื่น ตายใกล้ร้อยแต่ละวัน ล้มละลายขายประเทศกันละทีนี้!
แล้วแพสวะธรรมชาติที่ไหลตามน้ำขึ้น-น้ำลง ก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านปราบโควิดทันที ไหลด่านายกฯ ด่าสาธารณสุขตามกันไป

ขนาดคน TDRI ยังเชี่ยวชาญด้านการไหลไปกะเขาด้วย ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ ฉอดๆๆๆๆ รัฐบาลผิดหมด นายกฯ ผิดหมด

TDRI พูดไม่มีผิด เพราะ TDRI เก่งแต่วิจารณ์ ส่วนงานไม่เคยทำ
ก็สงสัย TDRI ยุคนี้ มันเป็นเทพแห่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศทางวิชาการ “บริสุทธิ์ใจ”
หรือเห่าไปตามสายโซ่เขย่า?

ตอนนี้ ขบวนการ “ล่มรัฐบาล” ไม่กระมิด-กระเมี้ยนกันแล้ว ออกกันมาเต็มตัว คึกคักกันใหญ่ ประยุทธ์ไปแน่ รัฐบาลพังแน่

ไม่กลัวหน้าอินทร์-หน้าพรหมทั้งนั้น ไม่สนตำรวจแหย ไม่แคร์ศาล ถึงยุคกระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยถอยจม
ก็ทวีต โพสต์ สัมภาษณ์ เรียก “บริภาษ” จะตรงตัวกว่า ด่าาาาาาา หยาบที่สุด ไปรับโล่ที่ ๓ สัส

โน่นไม่ดี นี่ไม่ใช่ รัฐบาล แพทย์ นายกฯ โง่โง่โง่โง่…เฮงซวยเฮงซวยเฮงซวย เชื่อแต่หมอแก่ๆ เลยตายกันตรึม

ฝ่ายค้านดี-เก่ง เพื่อไทยดี-เก่ง ก้าวหน้าดี-เก่ง แก๊งแพทย์ชนบทดี-เก่ง หมอหัวใหม่สายสามนิ้วดี-เก่ง

ระดมมาช่วยเฉพาะกิจ เรียกประชุม ฟังหมอผู้ใหญ่พูดไป ก็คิกคัก..คิกคัก หลังห้องกันไป

ประยุทธ์เฮงซวย ประยุทธ์โง่ ประยุทธ์ออกไป!

แล้วก็แห่รูป “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” รอบเมือง (ดีว่าไม่รอบเมรุ) ต้อง ๒ คนนี้ ฉลาดและแสนดี นำประเทศไทยรอด!

เห็นมั้ย….
คนไทยน่ะ ๗๐ ล้านคน มีมือถือ ๑๔๐ ล้านเครื่อง กว่าครึ่งค่อน ต่างมึนเมา “เสพข่าวเฟก” ที่ขบวนการมันปั่นป้อนให้ร้ายในทุกเรื่อง ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

ตำรวจปอท. “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ก็ดี ดีอี “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ก็ดี

ถามคำ “ตั้งมาทำไม?”
เนี่ย…ตอนนี้ พวกล่มชาติเริงร่ากันใหญ่ แต่เหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง
ก็แค่ได้แทะกระป๋องเท่านั้นแหละ

นายกฯ น่ะ never say die แปลว่า ลูกผู้ชายชื่อตู่ ไม่เคยยอมแพ้ ของแท้ไม่มีถอยเคยฟังเพลงนี้กันมั้ย?

ย้อนกลับมาเรื่อง “ลุงยง” ต่อ

นักวิชาการรับจ้าง “ชังชาติ” และขบวนการ “ชิงเมือง” ก็พอเข้าใจ เพราะพวกนี้ สายเลือด “พระยาละแวก” มีแต่ตัดหัวเอาเลือดล้างตีนเท่านั้น จึงจะสาสม

แต่อ่านที่ลุงยงโพสต์ จับความได้ว่า มี “ลูกศิษย์เนรคุณอาจารย์” รวมอยู่ด้วย
ลองถึงขั้นครูบาอาจารย์แพทย์ ต้องเอ่ยปาก “ลูกศิษย์ไม่เคารพ ก็ไม่เป็นไร ผมไม่เคยถือ”

คำว่า “ลูกศิษย์ที่ไม่เคารพ” วลีนี้ “วลีเดียวจบ” ในความเป็นคนของศิษย์
“อาวุธ” ใช้ฆ่าทางกาย “ตายหนเดียว”

แต่ศิษย์ใช้วาจา “ฆ่าอาจารย์” เท่ากับอาจารย์สอนคนให้เนรคุณ มันบาดลึกจิตวิญญานคนเป็นครูบาอาจารย์ “ตายในคมมีดเดียว” เสียยังจะดีกว่า

ตอนนี้ สาธารณสุขไทยเรา “ล้ำหน้าโลก” ประกาศสูตรปราบเดลตา ด้วยการ “ฉีดวัคซีนสลับชนิด” ใน ๒ เข็ม!
ฉีดเชื้อตาย “ซิโนแวค” เข็มหนึ่ง

แล้วเข็มที่สองสลับใช้ virus Vector “แอสตร้า เซนเนก้า”

อนามัยโลกและพวกแพทย์ฝรั่งร้องกันขรม ยังไม่มีผลชี้บ่งทางวิชาการว่าทำอย่างนั้นได้ อันตราย อย่าเสี่ยง อย่าทำประมาณนั้น

ลุงยงของผมสวนเปรี้ยง……
“การศึกษานี้” ฝรั่งไม่ทันแน่นอน “เพราะฝรั่งไม่ได้ใช้วัคซีนเชื้อตาย และจีนก็ไม่ได้ใช้วัคซีนไวรัสเวกเตอร์อย่างกว้างขวางขณะนี้

ข้อมูลขณะนี้ ผมมีเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะสรุป เพราะทุกท่านให้ความร่วมมือดีมาก รวมทั้งอาสาสมัครที่อยู่ในการศึกษาเป็นจำนวนมาก ผมต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง”

เจ๋งเลยลุง ยกให้ ๒ นิ้วโป้งเลย!

มันต้องอย่างนี้ การวิจัย-พัฒนาทางวิชาการแพทย์ เลิกเดินตามก้นฝรั่งทุกเรื่องได้แล้ว อีกหน่อยเถอะ วัคซันจุฬาคอฟของเราสำเร็จ ตะวันบูรพาสว่างจ้าจริงๆ ละทีนี้

ฟัง “ชาติเสือไว้ลาย-ชาติชายไว้ชื่อ” ทุบโต๊ะเรื่องนี้ไว้กันต่อ

“การสลับชนิดวัคซีน เราทำมาโดยตลอดและเห็นว่า การให้วัคซีนเข็มแรกเป็นชนิดเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัส Vector จะกระตุ้นได้ดีมาก

การให้วัคซีนเชื้อตายที่เป็นทั้งตัวไวรัส เปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายเราเคยติดเชื้อ และมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาระดับหนึ่ง หรือสร้างความคุ้นเคยกับระบบภูมิต้านทาน

เมื่อกระตุ้นด้วยต่างชนิด โดยเฉพาะไวรัสเวกเตอร์ จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า booster effect เหมือนกับคนที่หายแล้วจากโรคโควิด และได้รับวัคซีนเสริมอีก ๑ ครั้ง

ก็จะมีการ “กระตุ้นภูมิต้านทาน” ขึ้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเราก็ได้ทดลองแล้ว

การศึกษานี้ ไม่ได้ทำเฉพาะการตรวจวัดภูมิต้านทานเท่านั้น เรายังได้ทำภาวะขัดขวางไวรัส inhibition test ที่สามารถขัดขวางได้ดีมาก เฉลี่ยถึง ๙๕% มีหลายรายถึง ๙๙%

ทำนองเดียวกัน การให้เชื้อตาย ๒ เข็ม (ซิโนแวค) ยิ่งสอนให้ร่างกายเหมือนกับติดเชื้อจริงแบบเต็มๆ หรือแบบรุนแรง
แล้วเมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนไวรัส Vector “แอสตร้า เซนเนก้า” จึงมี Booster effect ที่สูงมาก

การศึกษาวิจัยของเรา ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เรากำลังทำการศึกษากับสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ delta และระบบภูมิคุ้มกันชนิดที่เรียกว่า T cell หรือ CMIR”

“การศึกษานี้ ฝรั่งไม่ทันแน่นอน”!!!!

ผมเชื่อ ๒ ลุง “ลุงยง-ลุงตู่”
เดินหน้า “ลุยแหลก” เลยครับ ประชาชนเลือดไทย “อยู่ข้างท่าน”!

 

Written By
More from plew
ที่สุด “ในสถานการณ์” คิดบวก
“ปิดกรุงเทพฯ” เจตนาให้คนอยู่บ้าน หวังสะกัดโควิด โคจร แต่การณ์ตรงกันข้าม…. มาตรการปิดกรุง กลายเป็นตัวผลักดันให้พี่น้องแรงงาน ไทย เขมร พม่า ลาว ทะลัก-ทะลาย...
Read More
0 replies on ““๒ เสือเฒ่า” ในแนวรบ – เปลว สีเงิน”