“เศรษฐพงค์” ลั่น “แพลตฟอร์มสธ.-telemedicine” จะพลิกโฉมวงการแพทย์ไทย ลดเหลื่อมล้ำ-รักษารวดเร็ว-มีคุณภาพ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)   ให้สัมภาษณ์ถึงการลงนามความร่วมมือระหว่าง สธ. กับบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มระบบสาธารณสุขแห่งชาติ ว่า หลังจากนี้กระทรวงจะยกร่างทีโออาร์ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่บริษัท กสท.ฯ จะนำมาใช้ เพื่อให้สถานบริการด้านสาธารณสุขใช้ระบบเป็นแบบเดียวกัน เบื้องต้นคาดว่าเดือนธันวาคมนี้จะแล้วเสร็จ และดำเนินการตามกรอบที่กฎหมายกำหนดได้ตั้งแต่ต้นปี 2563 ตนมั่นใจว่า บริษัท กสท. ที่มีเทคโนโลยีและบุคลากรที่เชี่ยวชาญ จะดำเนินการด้านระบบให้สนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านสาธารณสุขให้สำเร็จได้ตามกรอบเวลา และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหตุผลที่ต้องพัฒนาแพลตฟอร์มฯดังกล่าว เพราะปัจจุบันหน่วยบริการสาธารณสุขของประเทศเป็นแบบแยกส่วน ขาดการเชื่อมโยงข้อมูลที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือผู้ใช้บริการ ดังนั้นหากพัฒนาระบบปฏิบัติการให้เป็นระบบเดียวกันหรือ single system เหมือนกับประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน หรือ เวียดนาม จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านสาธารณสุขกับประชาชนได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” นพ.อนันต์ กล่าว

นพ.อนันต์ กล่าวว่า ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีระบบปฏิบัติการ สธ. จำเป็นต้องปฏิรูปข้อมูลที่จะบรรจุในแพลตฟอร์มก่อน ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาสมควร เนื่องจากแต่ละหน่วยบริการขาดการบูรณาการข้อมูล ทำให้ข้อมูลกระจัดกระจาย แต่เราได้วางแผนการทำงานในระยะต่างๆ รองรับไว้แล้ว โดยในปี 2564 การเชื่อมข้อมูลทุกรมของกระทรวงสาธารณสุขจะต้องชัดเจน และในปี 2565 จะมีความชัดเจนในการบูรณาการข้อมูลกับสถานบริการสาธารณสุขของเอกชน อย่างไรก็ตาม แนวทางเร่งรัดดังกล่าวตนเตรียมเสนอไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฐานะฝ่ายนโยบาย ให้ขับเคลื่อนวาระดังกล่าว รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มสาธารณสุขเป็นวาระแห่งชาติ

ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จากการลงนามร่วมกันระหว่าง สธ. กับ บริษัท กสท.ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการดำเนินนโยบายด้านสาธารณสุขของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ซึ่งเมื่อโครงการนี้สามารถทำได้อย่างเต็มรูปแบบ เชื่อว่าจะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการสาธารณสุขได้อย่างมาก ประชาชนไม่ต้องรอรับบริการเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลไหน ก็สามารถเรียกข้อมูลการรักษา ข้อมูลต่างๆของผู้ป่วยมาตรวจสอบได้ทันที ทำให้เกิดความรวดเร็วในการบริการ แน่นอนหากโครงการดังกล่าวทำได้สำเร็จ ประกอบกับนโยบายด้านสาธารณสุขของพรรคภูมิใจไทย คือ Telemedicine จะเป็นการพลิกโฉมวงการแพทย์ไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ รวมถึงยังเป็นพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอีกด้วย

“ที่สำคัญคือการบริหารงานของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของกระทรวง ที่กว้างไกล เห็นความสำคัญในการปรับตัวของระบบสาธารณสุขให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมถึงการพัฒนาระบบ และเทคโนโลยี จะทำให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบคุณภาพการบริการได้ ซึ่งจะส่งผลให้การรักษาดีขึ้น เนื่องจากทุกสถานบริการสาธารณสุขต้องแข่งขันด้วยคุณภาพ เพราะเมื่อข้อมูลด้านสาธารณสุขถูกเชื่อมโยง ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลสุขภาพที่ตนเองรักษาได้ จะทำให้เกิดการเลือกสรรการรักษาหรือการบริการที่ตนเองพอใจมากที่สุด” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

Written By
More from pp
สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔
สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์...
Read More
0 replies on ““เศรษฐพงค์” ลั่น “แพลตฟอร์มสธ.-telemedicine” จะพลิกโฉมวงการแพทย์ไทย ลดเหลื่อมล้ำ-รักษารวดเร็ว-มีคุณภาพ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล”