คปภ. เร่งรัดบริษัทประกันภัยกรณีจ่ายเคลมประกันโควิดล่าช้า พร้อมเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้เอาประกันภัยหลายรายเข้าติดตามทวงถามเกี่ยวกับเคลมประกันภัยโควิด-19 ที่สำนักงานของบริษัทประกันวินาศภัยบางแห่งนั้น สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ออก 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด

ประกอบด้วยมาตรการเข้าตรวจสอบข้อมูลบริษัทในเชิงลึก เพื่อติดตามสภาพปัญหาและกำชับการดำเนินการ มาตรการออกคำสั่งซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564

และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน ทั้งในส่วนเรื่องร้องเรียนที่ยื่นมายังสำนักงาน คปภ. และที่ยื่นที่บริษัทประกันภัยโดยตรง ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้าแล้ว

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากสำนักงาน คปภ. ได้ออก 3 มาตรการเร่งด่วนดังกล่าวแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ได้มีการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงาน คปภ.

เพื่อหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวและการดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายกับบริษัทที่มีเจตนาประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์และสายกฎหมายและคดี

โดยสำนักงาน คปภ. จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้ออกคำสั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพิ่มอีก 4 ชุด เพื่อช่วยกลั่นกรองและพิจารณาเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย กรณีที่มีปัญหาข้อโต้แย้ง

อีกทั้งได้หารือเกี่ยวกับปัญหาข้อโต้แย้งต่าง ๆ ในทางปฏิบัติที่ทำให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้า โดยขั้นตอนต่อไปจะหารือร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

อาทิ กระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สภาองค์กรผู้บริโภค สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ภายในวันที่ 15 กันยายน 2564 เพื่อให้เกิดความชัดเจนและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้ตรงกันต่อไป

ในส่วนของทีมตรวจสอบ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจากการเข้าตรวจสอบพบว่า บริษัทประกันวินาศภัยดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 เพื่อให้สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และอยู่ระหว่างแจ้งผู้เอาประกันภัยเพื่อนัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้ว

อย่างไรก็ตาม คำสั่งสำนักงาน คปภ. เรื่อง ให้แก้ไขเพิ่มเติมคู่มือ ระบบงาน และกระบวนการดำเนินการพิจารณาและจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2564 กำหนดให้บริษัทต้องจัดตั้งหน่วยงานรับเรื่องเรียกร้องเคลมประกันภัยโควิด-19 เป็นการเฉพาะขึ้น และให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้เสร็จใน 3 วัน

หากเอกสารหลักฐานครบถ้วน ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน แต่หากพบว่าเอกสารหลักฐานประกอบไม่ครบถ้วน ต้องแจ้งผู้เอาประกันภัย ภายในวันเดียวกับที่ตรวจพบ และให้จ่ายสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารหลักฐานครบถ้วนแล้ว

ส่วนในกรณีมีปัญหาการตีความและหาข้อยุติไม่ได้ ให้บริษัทเสนอความเห็นต่อสำนักงาน คปภ. ภายใน 7 วัน พร้อมทั้งรายงานผลทุก 15 วัน เพื่อให้คณะทำงานเฉพาะกิจฯ ดำเนินการต่อไป

ซึ่งคำสั่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันโควิด-19 ของบริษัทฯ และจะช่วยให้สำนักงาน คปภ. สามารถเข้าไปดูแลปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ใกล้ชิดและเป็นธรรม

ผ้าอ้อมผู้ใหญ่อีซี่เทปลังซุปเปอร์เซฟ ไซส์M/L

“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ายอดเคลมประกันภัยโควิด-19 มีจำนวนมาก จากการเข้าตรวจสอบข้อมูลของบริษัทฯ พบว่ามีปริมาณกว่า 1,000 รายต่อวัน ทำให้ประเด็นหลักคือปัญหาการดำเนินการจ่ายสินไหมทดแทนล่าช้า มิใช่การเบี้ยวที่จะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะเข้าไปดำเนินการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกมิติเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างต่าง ๆ ขึ้น พร้อมทั้งจะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ ตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรม จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

 

Written By
More from pp
“เพื่อไทย” มีมติ เสนอชื่อ “เศรษฐา” โหวตนายกฯ
15 สิงหาคม 2566 พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ...
Read More
0 replies on “คปภ. เร่งรัดบริษัทประกันภัยกรณีจ่ายเคลมประกันโควิดล่าช้า พร้อมเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน”