มหา’ลัย “มิใช่รังโจร” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ผมชอบใจ “เนติวิทย์” จริงๆ
เข้ามาเป็นนิสิต ๔ ปี
แต่สามารถสร้าง “อำนาจนำ” ครอบงำ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ที่เพิ่งฉลอง ๑๐๐ ปีไปหยกๆ ได้เบ็ดเสร็จ
ชนิดผู้บริหาร ตั้งแต่อธิการบดี สภาคณาจารย์ อาจารย์ ยันภารโรง
ไม่กล้าหือ!
เว็บ Chula ระบุความเป็นมาของพระเกี้ยว ว่า….
“พระเกี้ยว” เป็นสัญลักษณ์ที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภูมิใจ

สืบเนื่องจากชื่อมหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานจาก “พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว”
เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ใน “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัยนี้

“พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯกำหนดให้พระเกี้ยวเป็นพิจิตรเรขาประจำรัชกาลของพระองค์

เมื่อตั้ง “โรงเรียนฝึกหัดข้าราชการพลเรือน” หรือ “โรงเรียนมหาดเล็ก”
จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายหน้าหมวกของนักเรียนมหาดเล็ก
และได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายของโรงเรียน

เมื่อ “โรงเรียนมหาดเล็ก” ได้วิวัฒน์ขึ้นเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ และ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”
ผู้บริหารได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนข้อความใต้พระเกี้ยว ตามชื่อซึ่งได้รับพระราชทานใหม่ตลอดมา

แต่ในวันคล้ายวันสวรรคต “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เมื่อ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ คือวานซืน
“นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล” นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)

ซึ่งเป็นผู้อาศัยสถาบันพระราชทานได้เล่าเรียนศึกษา พอมีวิชาความรู้เข้าหน่อย ก็เผยอผยอง โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว เป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาเหรดในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยรูปแบบของขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวนั้น จำลองกระบวนแห่อย่างราชสำนัก

ในกิจกรรมดังกล่าว จะมี “ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว” ถือ “พระเกี้ยว” ที่เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งบนเสลี่ยง ซึ่งถูกแบกโดยนิสิตกว่า 50 คน

อีกทั้งผู้อัญเชิญซึ่งมาจากกลุ่ม CU Coronet ยังถือว่าเป็นตัวแทนของความเป็นจุฬาฯ ในกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลประเพณีและในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อื่นๆ ต่อไป

ทว่า กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว สนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยมรวมถึงค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน

รูปแบบกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวยังเป็นภาพแทนของวัฒนธรรมแบบศักดินาที่ยกกลุ่มคนหนึ่งสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งพร้อมสัญลักษณ์ของศักดินาคือ “พระเกี้ยว” บนเสลี่ยง

ในส่วนของกระบวนการคัดเลือกผู้อัญเชิญฯ
ยังเป็นที่กังขาถึงความโปร่งใส และยังมีข้อกังขาว่าเป็นการสนับสนุนความเป็นอภิสิทธิ์ชนผ่านค่านิยมมาตรฐานความงามแบบใดแบบหนึ่งในสังคม

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการใช้อำนาจในการบังคับให้คนต้องมาแบกเสลี่ยง
ดังที่เห็นจากกระบวนการหานิสิตหอในเพื่อมาแบกเสลี่ยงเข้าสนามนั้น มีการบังคับผ่านการอ้างว่าจะมีผลต่อคะแนนการคัดเลือกให้มีสิทธิอยู่ในหอพัก

คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเห็นว่า
กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน

จากมติในวาระการประชุมสามัญครั้งที่ 1/2564 ของคณะกรรมการบริหารฯ มีมติ 29 : 0 เสียง
เห็นควรให้มีการยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือกผู้อัญเชิญพระ-เกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์

เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมมิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป
ให้คนเท่ากัน

คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
23 ตุลาคม 2564

ทันควัน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ทวีตข้อความ สอดฟืน เมื่อวาน

Piyabutr Saengkanokkul @Piyabutr_FWP

สภาพสังคมปัจจุบันนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลงได้อย่างสันติ

แต่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กองทัพ ศาล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่รักษาสถาบันกษัตริย์ไว้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ต่างหาก ที่เป็นไปได้

และทำให้ทุกคนอยู่อย่างสันติ #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

ขออนุญาตปิดปากหัวเราะหยัน (ขำว่ะ) แป๊บนึง!

ฝรั่งเศสเขาสอนแต่วิชาหลอกเด็กแล้วคอยเสี้ยมอยู่ในรูรึไงวะ?

ขบวนการสามนิ้วล้มเจ้านี่ ลงท้าย คงเหลือรอดในรู ๒ คน ๖ นิ้ว “ธนาธร-ปิยบุตร” เท่านั้นมั้ง
นอกนั้นน่าจะ “คุก” หมด!

เนติวิทย์นั้น ผมดูหน้าตาและสิ่งที่เขาทำมาตลอดแล้ว อยากบอกทุกคนว่า
ปล่อยให้ “กรรม” ทำหน้าที่ของกรรมบ้างเถิด อย่าไปแย่งท่านเลย!

ผมเอ็นดูความเป็นไก่ “เพิ่งสอนขัน” ของคุณจริงๆนะ…
เนติวิทย์

การอัญเชิญพระเกี้ยวนั่นน่ะ มันเป็นเรื่องวัฒนธรรมอัตลักษณ์สถาบัน ซึ่งเป็นอารยสากล
แต่ละสถาบันศึกษาทั่วโลกต่างก็มีแตกต่างกันไป

มันไม่เกี่ยวกับอำนาจนิยม หรือศักดินา-ชนชั้น บ้าๆ บอๆ อย่างที่คุณยกมาสับสนเพ้อเจ้อ จนนิ้วหดเหลือ ๓ นิ้วนั่นหรอก
หรือจานรัฐศาสตร์ที่จุฬาฯ เขาเสี้ยมมาแบบนี้?

เรื่องวัฒนธรรมประเพณี กับไก่สอนขันเรื่อง “ให้คนเท่ากัน” นั่นน่ะ มันตรรกะคนละฐาน เอามาเทียบกันไม่ได้หรอก ฝรั่งยกตูดเป็นหัวใหม่อินเตอร์เข้าหน่อย ทำเป็นกิ้งก่าซินตึ๊ง เที่ยวชูคอไปเรื่อย

มันหลอกใช้ชั่วคราวหรอก นิสิตเสร่อเอ้ย!

คนที่จบไปจากจุฬาฯ เป็นแสน-เป็นล้าน ล้วนภูมิใจในสัญลักษณพระเกี้ยวพร้อมสืบสาน
นิสิตจุฬาฯ ปัจจุบัน ก็ร่วม ๔ หมื่น

แต่พวกคุณ ๒๙ คน เป็นธานอส แห่งจักรวาลมาร์เวลรึไง ถึงประกาศเป็นอำนาจเหนือทั้งหมด-ทั้งมวล ในความเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว” ด้วยเหตุผล ว่า….
“เป็นกิจกรรมที่ล้าหลัง ขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน”!?

บ้าหรือเมาน้ำท่อม หือ?

ไม่โทษเนติวิทย์ ถ้าโทษ ต้องโทษครูบาอาจารย์และผู้บริหารจุฬาฯ

แบบนี้ใช่มั้ย คือบัณฑิตจากแปลงบ่มเพาะของพวกคุณ..พวกอาจารย์?

สอนวิชาความรู้ แค่ทำให้รู้ ไม่สอนสำนึกที่ทำให้ “คนเป็นคน” นั่นเท่ากับผลิต “บัณฑิตโจร” ออกมาปล้นชาติบ้านเมือง
เลิกไปเลยดีกว่ามหา’ลัย

เอาที่พระราชทานไปเซ็งลี้กินกันเถอะ สอนให้เนรคุณเแค่ “ศิษย์จิกกระบาลด่าอาจารย์” อย่างที่ผ่านมา ก็พอแล้ว

อย่าให้เติบกล้าไปถึงขั้น “หยามหมิ่น-ล้มล้าง” ประเพณีอัญเชิญพระเกี้ยว ด้วยเจตนาตอกย้ำสานต่อถึงการ “โค่นล้มสถาบันกษัตริย์” นั่นเลย!

สอนกันยังไง….
ยิ่งสอน นิสิต-นักศึกษา ยิ่งอกตัญญู ไม่รู้คุณ ไม่เทิดทูน ไม่รักษาสถาบันชาติ-บ้านเมือง

แบบนี้ ที่พูดกันว่า “อนาคตบ้านเมืองอยู่ในมือพวกกู” นั่นน่ะ ถามคำ แล้วพวกคุณจะมีชีวิตที่เท่าเทียมกันอยู่รอดจนถึงวันนั้นแน่หรือ?

โชคดีอยู่หน่อย ที่ผมไม่ได้เป็น “ชาวจุฬาฯ” กับเขา

ทุกข์ร้อนผม จึงไม่ถึงขั้น “เลือดสีชมพู” เดือด กับการที่ประเพณี “อัญเชิญพระเกี้ยว” จะถูกศิษย์เนรคุณยกเลิก เป็นสัญญานท้าทายสถาบันกษัตริย์ ตามที่พวกเขามุ่งโค่นล้ม

ก็หวั่นอยู่อย่างเดียว….

หวั่นว่างานบอลประเพณี ๒ สถาบัน พวกเขาจะมีมติเอกฉันท์ “เปลือยป้าเป้า” มาแห่แทน เป็นสัญลักษณ์ร่วมกันเท่านั้นแหละ!

ก็ไม่เข้าใจนะ ว่าทุกวันนี้ ……….
แต่ละมหา’ลัย อธิการบดีบริหารนักศึกษา หรือนักศึกษาบริหารอธิการบดี?



Written By
More from plew
การเมืองเรื่อง “คิดกันไปเอง”
วันนี้ กราบขออภัยตระกูล “ปราโมช” เป็นเบื้องต้น เมื่อวาน “ผมผิด” คือได้เล่าถึงคุณูปการของ “ขบวนการเสรีไทย” ที่ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้า ช่วยชาติรอดจากการเป็น...
Read More
0 replies on “มหา’ลัย “มิใช่รังโจร” – เปลว สีเงิน”