“สายด่วน” สนองความเร็ว

เดี๋ยวนี้มันเป็นยุคเร่งด่วน

ทุกอย่างต้อง “เร็ว” และให้ทันต่อความต้องการของคน

ถ้าช้าก็จะตกขบวน ถ้าสายก็จะถูกหักเงิน ถ้าขาดก็อาจจะต้องรับการพิจารณา

คนในยุคนี้เลยเคยชินกับความเร็วไปหมด

พอเห็นอะไรชักช้าหน่อยก็บ่น ทนกันไม่ไหว

แต่ว่าเรื่องช้าหรือเร็ว มันก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ว่าเราต้องการอะไร ?

ถ้าเราต้องการ “ความสำเร็จ” บางทีก็อาจจะต้องรอนิดรอหน่อยค่อยๆ สร้างและสะสมกันไป

แต่ถ้าเราต้องการ “ความช่วยเหลือ” บางทีมันก็ต้องได้เร็วไว้ก่อน

ถ้ามันช้าเกินไปก็อาจจะเกิดผลเสียได้

ดูง่ายๆ จากแค่เราตื่นสาย มันก็อาจจะทำให้เราไปทำงานไม่ทัน ซึ่งเกิดผลเสียแน่นอนต่อความรับผิดชอบของตัวเอง

แล้วยิ่งในวงการการแพทย์ ถ้าถึงมือหมอได้ช้า มันอาจจะเกิดความสูญเสียอะไรไปก็ได้

เพราะฉะนั้น “ช้าหรือเร็ว” มันขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังทำอะไร…

แต่…ในบางเรื่องไม่ใช่ช้าแล้วมันไม่ดี

แต่ในบางทีเร็วไป ก็วุ่นวายพอกัน

แต่กับยุคโควิด-19 แบบนี้

ความเร็วมันน่าจะตอบสนองได้ดีกว่า

ไหนจะเรื่องควบคุมสถานการณ์ เตรียมอุปกรณ์ จัดหาสถานที่ รักษาผู้ป่วย

ไปยันหาวัคซีน ฉีดวัคซีน และก็ต้องฟื้นฟูเมืองอีกหลายๆ รอบ

ถ้าช้าก็แย่กันพอดี!

เพราะเราก็เห็นๆ กันอยู่ว่าบ้านเมืองมันซบเซาไปขนาดไหน

คนติดโรคเพิ่มขึ้น บางพื้นที่ควบคุมไม่ได้

ดีหน่อยที่ผ่านมา รัฐบาลยังมีหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ถึงมันจะใช้เงินเยอะหน่อย ก็ต้องทำ ให้คนในประเทศเดินหน้าลืมตาอ้าปากต่อไปได้

พวกโครงการต่างๆ ถ้าเราเป็นผู้ประกอบการ หรือผู้ได้รับผลกระทบ ถ้ากระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมสักหน่อย ก็แน่นอนว่าจะช่วยให้แบ่งเบาภาระให้เจ็บน้อยลงได้แน่นอน

ส่วนด้านความเร็วในการรักษา และก็พวกดูแลประชาชน

นอกจากกลุ่มสาธารณสุขของไทยที่เดิมมีอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาเห็นหลายฝ่ายยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะ “จิตสำนึกที่ดี” ที่รู้รักสามัคคีกับคนในประเทศด้วยกัน

อย่างโครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ก็ไม่รู้หมดเงินหมดแรงไปเท่าไหร่แล้ว

แต่ก็ยังเห็นว่าทำไม่หยุด…

แถมรอบใหม่นี้ยังเปิดสายด่วนให้ติดต่อขอรับบริการเพิ่มอีก

เพราะในเมื่อ “ความช่วยเหลือ” มันต้องเข้าไปให้ “ถึงโดยเร็ว”

แล้วเทคโนโลยีก็เอื้อประโยชน์ให้มากที่สุดแล้วในยุคนี้

ถ้ายังไม่ทำ ก็อาจจะทำให้คนอื่นงงได้ว่า จะช่วยทั้งทีแล้วเหมือนช่วยไม่เต็มที่

ล่าสุดเลยออก “End-to-End Mobile@1745” ให้บริการรับสายเรียกเข้าจากผู้ที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเอง ด้วยชุดตรวจคัดกรองแบบเร่งด่วน (ATK) ที่พบผลตรวจเป็นบวก เพื่อให้คำแนะนำทันที

ถ้าใครมีผลตรวจว่าเป็นโควิด-19 แบบแน่ชัดก็พร้อมส่งรถพยาบาล ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยถึงบ้าน

เห็นว่าจะนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม

และใครที่สนใจมันไม่ยากแล้วสมัยนี้ ให้โทรไปที่ 1745

หรือไม่ก็ใช้สมาร์ทโฟน แอดไลน์ไปที่ Line Official Account : ลมหายใจเดียวกันATK โดยสามารถค้นหาด้วยการพิมพ์ @ptt.covid-atk

งานนี้ทั้งฟรี แถมยังติดต่อได้ 24 ชั่วโมงแน่นอน

อย่างที่บอกว่าโควิด-19 มันต้องเร็ว!

แล้วถ้าเรารู้เร็ว ตรวจเร็ว รักษาเร็ว เราก็จะหายเร็ว

ประเทศก็จะฟื้นเร็ว ความมั่นใจของคนในประเทศและก็ชาวต่างชาติก็จะมีเพิ่มขึ้น

ที่แน่ๆ พร้อมรับการเปิดประเทศอย่างแน่นอน!

Written By
More from pp
‘ผู้กองธรรมนัส’ โต้ดีลลับนำ สส.ในกลุ่มทิ้ง พปชร.โหวตนายกฯ หวังจับขั้วรัฐบาลใหม่ ยันยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานใดๆ จาก ‘เพื่อไทย’
4 สิงหาคม 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีสื่อนำเสนอข่าวในทำนองว่า
Read More
0 replies on ““สายด่วน” สนองความเร็ว”