ด้วย “มักใหญ่” จึง “ใฝ่ต่ำ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

กฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
“ว่าด้วยความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์”
กลายเป็นเรื่องการเมือง ที่บางพรรค-บางขบวนการ ยกเป็นเงื่อนไข สู่เป้าหมาย “เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน” อีกครั้ง!
คราวนี้ “พรรคเพื่อไทย”
โดย “นายชัยเกษม นิติสิริ” อดีตอัยการสูงสุด รับลูกข้อเรียกร้องขบวนการสามนิ้วที่ให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ โดยจะนำเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมสภา

“เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล และราชทัณฑ์
ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้ดุลยพินิจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่?”

เป็นการเฉลิมฉลอง “อุ๊งอิ๊ง” นายใหม่….
ที่พ่อของเขาส่งเป็นตัวแทนเข้ามารอรับตำแหน่ง “ว่าที่นายกฯ” ของพรรค ในระบบ “แดงทั้งแผินดิน ทักษิณสถาปนานา”
เพื่อ “พาพ่อกลับบ้าน” ก่อน เป็นภารกิจแรก!

เปลี่ยนประเทศเป็น “แดง” ไม่มี “น้ำเงิน” ผสม เป็นขั้นตอนต่อจากนั้น
พลันที่นายชัยเกษมประทับยี่ห้อพรรคประกาศ “ปฏิปักษ์สถาบัน” ออกไป ปรากฏเกิดปฏิกริยา “ต่อต้าน” จากพรรคการเมืองอื่นๆ มากมาย กระทั่ง “บางคน” ในพรรคเพื่อไทยเอง

กะแค่ “ช่วงชิง” คะแนนเสียงกับพรรคก้าวไกลในหมู่สามนิ้วล้มเจ้าด้วยกัน จะต้องออกตัวแรงขนาดนี้เชียวหรือ
แล้วมันจะคุ้มกันมั้ย?

นี่เป็นคำถามของพวกเพื่อไทย ต่อการ “ออกตัวแรง” ของคนเหนียงยาน แต่ “ไร้รุ่น” รองรับ อย่างชัยเกษม
ประเด็นมาตรา ๑๑๒ ซึ่งมีข้อความว่า…….

“ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี”

มองกันด้วยคนสายเลือดไทย เติบโตสืบต่อๆกันมาในเบ้าหลอมขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีสังคมไทย ไม่เป็นสวะลอยน้ำ ด้วยฝักใฝ่คำว่าสิทธิมนุษยชนแบบเพ้อเจ้อ

ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไร กับมาตรา ๑๑๒
เพราะคนไทย จากเบ้าหลอม กตัญญู-รู้คุณ ยึดมั่นในชาติ-พระศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์ แต่อ้อน-แต่ออก พูดได้ว่า นับตั้งแต่มีคำว่า “ชาติไทย” ด้วยซ้ำ

ระดับชาวบ้านคนดีๆ ทั่วไป ไม่มีคนไหนหรอก ที่จะคิด-จะพูด-จะทำ ในทางล่วงละเมิด หมิ่นแคลนพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ทุกคนซึมซับรับรู้ด้วยด้วยกตัญญุตาคุณ ว่า ……
“แผ่นดินผืนนี้ ทุกขอบขัณฑสีมา พระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงนำสร้าง และทรงนำรักษาไว้ให้ลูกหลานไทย ได้มีชาติ-มีแผ่นดินอยู่ เป็นศักดิ์-เป็นศรี สืบๆมา ตราบทุกวันนี้”

แล้วมันเรื่องอะไร จะต้องไปหมิ่น-ไปแคลน หรือคิดล้มล้างสถาบัน
นอกจากพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงคุณแล้ว ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนอะไรให้ประชาชนเลย มีแต่ทรงบำบัดทุกข์-บำรุงสุขให้พสก

ฉะนั้น จะมี-ไม่มีมาตรา ๑๑๒ กับผู้มั่นกตัญญูในชาติกำเนิดแห่งไทย “ค่าเท่ากัน” เพราะไม่มีใครคนไหน “คิดร้าย” ต่อสถาบันอยู่แล้ว

แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ผู้คนก็หลากสายเลือดและเผ่าพันธุ์ จิตใจ นิสัย สันดาน ก็ผิดแผกกันไป
บวกปัจจัยสังคมโลกและสิ่งแวดล้อม ย้อมจิตให้อ่อน-กระด้าง-คิดคด-ทรยศ-ซื่อสัตย์-ภักดี แตกต่างกันออกไป

เมื่อทั้ง “คนดี-คนไม่ดี” อยู่ร่วมสังคมชาติเดียวกัน ก็จำเป็นอยู่เอง ต้องมีกฎระเบียบ-กฏกติการ้อยรัด ทางควบคุมและป้องกัน

สำหรับพระมหากษัตริย์และบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีมาตรา ๑๑๒ เป็นกรอบไว้กว้างๆ มาตราเดียวเท่านั้น
แต่สำหรับเราๆ ท่านๆ ประชาชนด้วยกัน ในความที่ล้วนหนึ่งในตองอูด้วยกัน ก็จะมีเหตุให้กระทบกระทั่ง นำไปสู่การหมิ่นแคลนกันบ่อยและหลากรูปแบบ

กฎหมายว่าด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท จึงมีถึง ๘ มาตรา
มาตรา ๓๒๖ ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๒๗ ผู้ใดใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สาม และการใส่ความนั้นน่าจะเป็นเหตุให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๒๖ นั้น

มาตรา ๓๒๘ ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร

ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร

กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น

ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๓๒๙ ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต

(๑)เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
(๒)ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่

(๓)ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
(๔)ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

มาตรา ๓๓๐ ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้น เป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

มาตรา ๓๓๑ คู่ความหรือทนายความของคู่ความ ซึ่งแสดงความคิดเห็น หรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

มาตรา ๓๓๒ ในคดีหมิ่นประมาทซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ศาลอาจสั่ง

(๑)ให้ยึด และทำลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้อความหมิ่นประมาท
(๒)ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมด หรือแต่บางส่วนในหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา

มาตรา ๓๓๓ ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้
ถ้าผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

ก็จะเห็นว่า ในเรื่องหมิ่นประมาท ประชาชนด้วยกันด้วยซ้ำ มีสิทธิฟ้องร้องป้องพิทักษ์สิทธิ-พิทักษ์เกียรติได้ด้วยตัวเอง หลายกรณีและหลายรูปแบบ

ตรงกันข้าม พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะถูกตัดสิทธินั้น
คือเป็นฝ่ายถูกหมิ่นประมาทได้สถานเดียว

แต่ไม่มีสิทธิ จะไปฟ้องร้องผู้อื่น เพื่อป้องกันเกียรติยศ-ชื่อเสียงตัวเองได้เลย!

เมื่อทราบอย่างนี้ และมองแบบใจเป็นกลาง ไม่มีเหตุผลอันใด ต้องแก้หรือต้องยกเลิกมาตรา ๑๑๒
คือมันไม่มีความจำเป็นอะไรเลย ที่คุณจะต้องไปหมิ่นพระมหากษัตริย์

เว้นแต่พวกคุณมีเจตนาไม่สุจริต และพาล จงใจหาเหตุเพื่อการณ์อย่างใด-อย่างหนึ่งเท่านั้น?
เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ เพื่อต้องการหมิ่นพระมหากษัตริย์

ในขณะเดียวกัน ไม่มีใครเรียกร้องให้ยกเลิกมาตราที่ว่าด้วยประชาชนหมิ่นประมาทประชาชนด้วยกัน?
ทำไมพวกคุณถึงอ้างเสรีภาพการแสดงออกและสิทธิมนุษยชนฝ่ายเดียว เพื่อให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒?

ในขณะที่ “พระมหากษัตริย์” ไม่ทรงมีเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนอย่างที่พวกคุณมีเลย!
ไหนล่ะ “ความเสมอภาค-ความทัดเทียม” ในทุกสิ่งที่พวกคุณตะโกนหา แล้วมันมีมั้ย ในโลกความเป็นจริง?

“เม่น” น่ะ รู้จักใช่มั้ย?
มันมีขนเป็นหนามแหลมทั้งตัวเพื่ออะไร?

ไม่ใช่เพื่อไปทำร้าย ไปข่มขู่ หรือไปรังแกใคร และไม่เคยปรากฏว่า เม่นเอาขนแหลมไปไล่สบัดทิ่มใส่ใคร
เพราะคน-สัตว์ตะหาก….

ไปรังแก ไปไล่ตี-ไล่เตะมัน ขนแหลมเม่น ซึ่งอยู่กับที่เฉยๆ จึงทิ่มแทงเอาใช่มั้ย?

มาตรา ๑๑๒ กับพวกอสัตย์ชนก็ทำนองนั้น
เพราะมุ่ง “เปลี่ยนระบบ-ล้มสถาบัน” ให้จักรวรรดิอำนาจตะวันตก “ยุโรป-สหรัฐ” เข้ามาควบคุมกลไกใช่มั้ย?

เพื่อใช้ประเทศเป็นฐานอำนาจต่อรองผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ-การค้าและการเมือง กับจีน ใช่มั้ย?

“ชาติ” คือเนื้อ “สหัฐ-ยุโรป” มันเถือกินหมด
เหลือ “เปลือก” มันโยนให้พวกมึงที่ “มักใหญ่” แทะ
แล้ว “ตีน” มัน อยู่บน “หัว” พวกมึงอีกที!



Written By
More from plew
ทำไมต้อง “ดิจิทัล โทเคน”? – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน คนอายุ ๑๖ ปี ขึ้นไป มีราวๆ ๕๖ ล้านคน รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” จะแจกเงินให้คนละ...
Read More
0 replies on “ด้วย “มักใหญ่” จึง “ใฝ่ต่ำ” – เปลว สีเงิน”