“รอยบุญ-รอยบาป” (ภาค ๒) -เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

นักจัดชุมนุมและนักจัดกิจกรรมสาธารณะทั้งหลาย
โปรดดู……
ขบวนรณรงค์ ล่า “ล้านชื่อ…ขับไล่ amnesty ออกไป” ที่สีลม เมื่อวาน (๒๙ พย.๖๔) เป็นแบบอย่าง
ว่าจัดอย่างไร ทั้งไม่ผิดกฎหมาย ทั้งไม่ล่วงล้ำก้ำเกินสิทธิคนอื่น ทั้งเป็นการทำหน้าที่ปวงชนชาวไทย เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์”
เห็นมั้ย….
แต่ละคนที่มาร่วมณรงค์ ล่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ รายชื่อ ขับไล่แอมเนสตี้ ทั้งแต่งกาย ทั้งกิจกรรมการแสดงออก
บ่งบอก “อารยชน-อารยชาติ” ชัดเจน

การรณรงค์สาธารณะ ก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่อนุญาตก่อน
การแสดงเจตนาทางรณรงค์ ก็สุภาพเรียบร้อย เคลื่อนขบวนอยู่ในกรอบ ไม่เกะกะกีดขวางการจราจร
ทุกอย่างอยู่ในหลัก “สิทธิมนุษยชน”……

ใช้สิทธิตน โดยเคารพสิทธิสิทธิผู้อื่น ไม่ป่าเถื่อน ยึดประโยชน์ตน “ปิดถนน” สร้างความเดือดร้อนให้สังคมรวม
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๔ “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”
เป็นการทำหน้าที่ปวงชนชาวไทย ตามมาตรา ๕๐”บุคคลมีหน้าที่

(๑)พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ

(๖)เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นและไม่กระทำการใด ที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยก หรือเกลียดชังในสังคม

การขับไล่แอมเนสตี้ ไม่ก่อความแตกแยกหรือเกลียดชัง
ตรงกันข้าม…….
เป็นการพิทักษ์รักษา “ความเป็นหนึ่งเดียว” ของประเทศในความเป็นราชอาณาจักรไทยเอาไว้

ท่ามกลางแอมเนสตี้ มีพฤติกรรมร่วมขบวน “แบ่งแยก-ล้มล้าง” ทั้งราชอาณาจักรและสถาบัน กับขบวนการสามนิ้ว
ปลุกปั่นให้คนไทย “ชังชาติ “เสี้ยมแซะให้โกรธ-เกลียดกัน ถ่างสังคมรักสามัคคี ให้เกิดช่องว่าง เพื่อให้ “อำนาจนอกชาติ” แทรกเข้ามาเป็น “เจ้าเข้าครอง”!

กลุ่มคนรัก “ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์” จึงออกมาทำหน้าที่ เฉดหัวตัวถ่างสังคมชาติคือ “แอมเนสตี้” ให้ออกไปจากแผ่นดินไทย

เรื่องของชาติไทย…
เป็นเรื่องของคนไทย ให้คนไทยเขาว่ากันเอง!

“แอมเนสตี้” ไม่ต้องเผือกเป็น “กรวดตะวันตก” ในเกือกกัดตีนคนไทยหรอก
มึงมาทางไหน ไสหัวออกไปทางนั้นได้เลย!

ล้านชื่อนั่นล่ะ ดร.เสกสกล เว้นที่ว่างให้ผม ๑ ชื่อละกัน เรื่องอย่างนี้ พูดมาก เจ็บคอเปล่าๆ ต้องร่วมกันทำด้วย เพื่อชาติบ้านเมืองธำรงอยู่ยั่งยืน

มีข่าวดีจะบอก………
ไม่ใช่ข่าวสีพที่ผมรู้คนเดียวแล้วมากระซิบซอกหูท่านหรอก เป็นข่าวเปิดเผยทั่วไปน่ะ

๕ ธันวา.ที่จะถึงนี้ เวลา ๑๖.๐๐ น.
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี”

จะเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” เขตดุสิต กทม.
ไปเฝ้าฯ รับเสด็จกันนะครับ

อาจมีบางท่านถาม “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙” อยู่ที่ไหนล่ะ ไปไม่ถูก?
รู้กันไว้และจำกันไว้เลย “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙” ที่ในหลวงและพระราชินี จะเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธี ก็คือที่
“สนามม้านางเลิ้ง” นั่นแหละ!

ที่ดินทั้งหมดตรงสนามม้านางเลิ้งนั้น ๒๗๙ ไร่ เป็นที่ดินในพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
“สนามม้า” ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขประชาชนโดยรวม เมื่อหมดสัญญา ก็ให้ย้ายออกไป

พร้อมทั้งพระราชทานพื้นที่ทั้งหมดนั้น ให้สร้างเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองหลวงอีกแห่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งหลาย

ก็อย่างที่เว็บไซต์ “สำนักพระราชวัง” เผยแพร่ผังรวมอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ได้เห็น เป็นที่ตื่นตา-ตื่นใจกัน กับการออกแบบสวนลักษณะ “โมเดิร์น ปาร์ค” ไปแล้วนั่นแหละ

นอกจากความเป็นสวนสาธารณะด้วยแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ที่โดดเด่น
มีสระน้ำ รูปเลข ๙ มิเพียงเป็นสัญลักษณ์ถึง “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกนาถ” เท่านั้น

แต่ยังเป็น “แก้มลิง” รองรับน้ำเพื่อมิให้ท่วมกทม.อีกด้วย โดยสระน้ำเลข ๙ นี้ ผันน้ำเชื่อมโยงกับคลองเปรมประชากร
หัวใจและศูนย์กลางของสวนสาธารณะแห่งนี้ อยู่ที่….
“พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๙” ประดิษฐานอยู่กลางสวน

มีสะพาน “หมายเลข ๙” เป็นเส้นทางเดินภายในสวนนำสู่ “พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙”
อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งอุทยานเฉลิมพระเกียรติ รัชกาล ที่ ๙ ที่เป็นสวนสาธารณะรูปแบบป่าธรรมชาติแห่งนี้ จะแล้วเสร็จ ในปีพศ.๒๕๖๗

ก็วันที่ ๕ ธันวาคม ที่จะถึง ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกนาถ”

ในวันอันเป็นมงคลยิ่งนั้น……..
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าพระสุทิดา พระบรมราชินี”
ก็จะเสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

นี้เป็นข่าวดี ที่ผมนำมาบอก…
เพื่อท่านทั้งหลาย จะได้ไปทั้งเฝ้าฯ รับเสด็จ และทั้งได้ร่วมชมพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์

มงคลสูงสุดพร้อมกันทั้ง ๒ อย่างนี้ ….
มีไม่บ่อยครั้งนัก ที่จะเกิดมีให้เราทั้งหลายได้มีบุญ-มีวาสนาเข้าถึง
ขออีกซักเรื่องนะ…..

ทราบว่า พรุ่งนี้ 1 ธันวา ท่านนายกฯ ประยุทธ์จะไปเยี่ยมประชาชนที่อุดรธานี
ไปดูความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัด “มหกรรมพืชสวนโลก 2026” ไปวังนาคินทร์ คำชะโนด ดูความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว
และไปวัดป่าบ้านตาด…..

ตรวจความก้าวหน้าในการจัดสร้าง “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสิทธิมงคล” (หลวงตามหาบัว)
กราบนมัสการ “พระราชภาวนาวชิรากร” (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก) ผู้เป็นแม่งานจัดสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงตา
และ “พระราชวชิรธรรมาจารย์” (หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม)เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด

พิพิธภัณฑ์หลวงตา ตอนนี้ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว ต้นปี ๖๕ จะมีพิธีเปิดเป็นทางการ จึงเหมาะแก่กาลแล้ว ที่นายกฯได้ลงมาดูพื้นที่ล่วงหน้า

เพราะพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หลวงตานี้ จะเป็นงานใหญ่ที่สำคัญมาก ไม่เพียงเฉพาะภาคอีสานเท่านั้น หากแต่สำคัญกับประชาชนทั้งในประเทศและนอกประเทศ

พระอาจารย์อินทร์ถวาย ซื้อที่ดิน ๕๘ ไร่ ทำถนนเชื่อมจากถนนใหญ่ตรงมาพิพิธภัณฑ์ เพื่อความสดวกทั้งปวง จ่ายเป็นงวดๆ ตอนนี้ลงมือทำแล้ว คาดว่าเสร็จทัน

เมื่ออาทิตย์ที่ ๒๘ พย.คณะศิษย์จัดทอดผ้าป่าที่สวนแสงธรรม เพื่อรวบรวมเงินสมทบค่าซื้อที่ดิน
ไปกันมากมายถึงขั้นพระอาจารย์ออกปาก ไม่เคยเห็นมากันมากเท่าครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปหรอก ดูที่เขาไลฟ์สด ก็สาธุอยู่ที่บ้าน

ผมบอกเล่าเรื่องซื้อที่ดินทำถนนไปหลายวันก่อน เห็นโอนเข้าบัญชีวัดกันมากมาย แต่มีท่านหนึ่งโอนผ่านมาที่ผม คือ
ร้านทองพรพรรณ ที่โพธาราม ราชบุรี คุณพิลาลักษณ์ สมบูรณ์สินชัย คุณระเบียบ อารีกิจ จำนวน ๑๒,๐๐๐ บาท แล้วผมจะโอนเข้าบัญชีซื้อที่ดินทำถนนให้นะครับ

หรือท่านใดประสงค์ร่วมซื้อที่ดินทำถนนเข้าพิพิธภัณฑ์หลวงตา
โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ไทยพาณิชย์ สาขาโลตัส บ้านผือ บัญชีวัดป่านาคำน้อยเพื่อซื้อถนนเข้าเจดีย์หลวงตามหาบัว เลขที่บัญชี ๔๐๘-๖-๓๙๕๖๔-๗ ยังได้ตอนนี้

ครับ….
วันนี้ ผม “ทั้งบาป-ทั้งบุญ” ครบเลย หักลบกลบบาป-กลบบุญแล้ว ไม่กำไร แต่ก็ไม่ขาดทุนนะ



Written By
More from plew
ตามประสาไป-มา เล่าสู่ – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “อีบัด-อีโรย” เป็นยังไง เพิ่งเข้าใจตอนวันปีใหม่นี่เอง! เครื่องยนต์ “น็อตหลุด” นั่นแหละครับ คือวันปีใหม่ไปไหว้ “พระแก้วมรกต” ที่พระบรมมหาราชวังเอาฤกษ์-เอาชัย
Read More
0 replies on ““รอยบุญ-รอยบาป” (ภาค ๒) -เปลว สีเงิน”