นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย
ได้กล่าวถึง กรณี ผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนกับ บริษัท เวลท์เอฟเวอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจขายตรงอาหารเสริม (แชร์โชกุน)
โดยมี นางสาว พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท และพวก หลอกลวงให้ผู้เสียหายเข้าร่วมเป็นสมาชิกของบริษัทและร่วมลงทุน ระหว่างเดือนม.ค.-เม.ย. 2560 โดยอ้างว่าสมาชิกจะได้รับสิทธิ์เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชีย เช่นประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง แต่เมื่อถึงเวลาเดินทาง ผู้เสียหายจำนวนมากกลับติดค้างอยู่ที่สนามบินเพราะไม่มีสายการบินเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นตามที่โฆษณาไว้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือสำนักงานปปง. ได้มีหนังสือถึงผู้เสียหาย เรื่อง ขอแจ้งบัญชีคืนทรัพย์สินชดใช้การกระทำความผิดให้แก่ผู้เสียหาย รายคดีบริษัท เวลท์เอฟเวอร์ จำกัด กับพวก พร้อมแนบแบบคำขอรับทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำผิดคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ซึ่งเรียกว่า แบบปปง.บส.04/1 ให้แก่ผู้เสียหาย
โดยสรุปสาระสำคัญโดยสังเขปว่า ศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายคดีบริษัท เวลท์เอฟเวอร์ จำกัด กับพวกให้คืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สินพร้อมดอกผลของเงินที่เกิดขึ้นแก่ผู้เสียหายตามสัดส่วนความเสียหายรวมจำนวน 1,033 ราย และคดีถึงที่สุดแล้ว โดยสำนักงานปปง. ได้จัดทำบัญชีคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดให้แก่ผู้เสียหายรอบที่ 1 ซึ่งระบุรายชื่อผู้เสียหาย อัตราส่วนความเสียหายเป็นร้อยละ /จำนวนเงินที่ได้รับ (ไม่รวมดอกผล)
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาล และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานปปง.จึงแจ้งข้อมูลข้างต้นให้ผู้เสียหายทราบ และขอให้แจ้งความประสงค์ขอรับทรัพย์สินคืนตามแบบคำขอ/- ภายใน 30 วัน นับจากได้รับหนังสือฉบับนี้โดยให้นำส่งด้วยตนเองหรือ ส่งทางไปรษณีย์ โดยให้ระบุข้อมูลด้วยว่า เป็นผู้เสียหายรายคดีใด ลำดับที่เท่าไร เพื่อสำนักงานปปง.จะได้คืนหรือชดใช้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
กล่าวโดยสรุป คือ ศาลมีคำสั่งให้คดีแชร์ลูกโซ่ ซินแสโชกุน คืนทรัพย์สินให้แก่ผู้เสียหายแล้ว นับเป็นข่าวที่ดี แต่ผู้เสียจะได้รับเงินคืนในจำนวนไม่มากเท่ากับที่ลงทุนไป และใช้ระยะเวลาในการรอนานกระนั้นยังมีผู้สงสัยว่าเพราะเหตุใดคดีแชร์ลูกโซ่รายอื่น ๆ ซึ่งเกิดเหตุก่อนคดีซินแสโชกุน เช่น คดียูฟัน คดีแชร์น้ำหอม ยังไม่ได้เงินคืนบ้างทั้งที่ได้การยึดอายัดทรัพย์ไว้แล้ว
ในเรื่องนี้ ผมขอเรียนให้พี่น้องประชาชนให้เข้าใจว่า คดียูฟันซึ่งเกิดพฤติกรรมแห่งคดีในช่วงปี 2557 – 2558 โดยขณะนั้นกฎหมายปปง.ยังไม่ได้แก้ไขมาตรา 49 วรรคท้าย กล่าว เมื่อตำรวจได้ยึดอายัดทรัพย์ไว้แล้ว ในฐานความผิดอาญาทรัพย์นั้นจะตกเป็นของแผ่นดิน จากนั้นจะต้องรอศาลสั่งตามป.วิอาญา เมื่อศาลสั่งแล้วก็จะนำเงินที่อายัดไว้มาคืนผู้เสียหาย
ประเด็นตอนนี้ ต้องรอถึงชั้นฎีกา เช่นเดียวกันคดีแชร์น้ำมันหอมระเหย DCHL ซึ่งได้ยึดอายัดเงินจำนวน 74 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดินไว้แล้ว และผมเคยนำพี่น้องประชาชนออกไปร้องคัดค้านไม่ให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินมาแล้ว จนมีการประกาศคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายนับหมื่นราย และอยู่ระหว่างการส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการส่งสำนวนไปยังศาลแพ่งเพื่อพิจารณาในศาลชั้นต้น ชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา
ผมพยายามสื่อสารมาโดยตลอดว่า การแก้ปัญหาการฉ้อโกงประชาชนจะต้องนำทรัพย์ มาคืนให้กับผู้เสียหายโดยเร็ว เพราะความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ และนี่คือคำตอบที่หลายท่านให้ข้อสังเกตุว่า เพราะเหตุใดร่างพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะแชร์ลูกโซ่ พ.ศ. …. จึงต้องมีกองทุนเยียวยาผู้เสียหาย เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนย่อมได้รับการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ดังนั้นในคดีแชร์ลูกโซ่ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐในการติดตามยึดทรัพย์และนำทรัพย์สินมาคืนให้ประชาชน แต่ต้องยอมรับว่าหน่วยงานรัฐมีข้อจำกัดเพราะมีภารกิจหน้าที่ซึ่งจะต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเป็นจำนวนมาก ทำให้คดีแชร์ลูกโซ่ไม่มีเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อน เมื่อประชาชนถูกหลอกต้องเดินทางไปแจ้งความ ต้องติดตามทรัพย์ กว่าจะได้ทรัพย์คืนก็ใช้ระยะเวลานาน ทั้งที่รอนานก็ยังได้รับทรัพย์คืนจำนวนน้อยเพราะต้องเฉลี่ยกับผู้เสียหายคนอื่น ๆ
ผมต้องการสะท้อนไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะต้องแก้ปัญหาเรื่องแชร์ลูกโซ่อย่างจริงจัง และถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องเร่งยึดทรัพย์คดีฉ้อโกงประชานเช่นเดียวกับคดียาเสพติดเพราะเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่หามาโดยสุจริตแต่กลับถูกคนคดโกง นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามผลักดันให้เกิดกองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายระหว่างรอศาลพิพากษาคดีถึงที่สุด หลายคน ต้องทุกข์ทรมานจากการรอคอย บางรายเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้รับเงินคืน บางรายถึงกับทำอัตวินิบาตกรรมเพราะหาทางออกให้กับตนเองไม่ได้ หลายคดีที่ศาลตัดสินให้ผู้เสียหายเป็นฝ่ายชนะคดีแต่จำเลยไม่มีเงินจะคืนให้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้ปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 แต่การแก้ปัญหานี้ยังไม่มีเจ้าภาพหลัก อีกทั้งหน่วยงานในองคาพยพยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ ผมจึงขอฝากไปยังท่านนายกรัฐมนตรีได้โปรดตั้งกองบัญชาการแก้ปัญหาการฉ้อโกงประชาชนขึ้นมาโดยเฉพาะ เพราะการแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่
นอกจากจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายแล้ว ยังจำเป็นต้องมีฐานข้อมูล มีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีองค์ความรู้ในการปัญหา เพราะแชร์ลูกโซ่ไม่ได้เป็นเพียงการหลอกลวงประชาชนเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ทวีความรุนแรง และลุกลามเป็นองค์กรอาชญากรรม และอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาหลอกลวงคนไทยให้กระทำความผิด ชักชวนเหยื่อคนไทยมาลงทุนแล้วขนเงินออกไปนอกประเทศเหลือไว้แต่ความเสียหาย คนที่ถูกจับก็ล้วนเป็นคนไทย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใดๆเลยที่เราจะต้องดำเนินคดีคนไทยด้วยกัน เป็นที่น่าเสียดายว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ลงนามรับรอง ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะแชร์ลูกโซ่ พ.ศ. …. จึงทำให้ร่างนี้ตกไป
ผมขอเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสพบรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ประเทศจีนประสบปัญหาการพนันออนไลน์แพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก แม้ใช้งบประมาณในการปราบปรามถึง 5 พันล้านเหรียญปัญหาก็มิได้ลดลง เมื่อศึกษาต้นเหตุของปัญหาพบว่าฐานของการกระทำความผิดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา รัฐบาลจีนจึงติดต่อรัฐบาลกัมพูชาโดยให้งบประมาณ 3,000 ล้านเหรียญแล้วให้ช่วยดำเนินการปราบปรามพนันออนไลน์ ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด ส่งผลให้การพนันออนไลน์ในประเทศจีนลดลงเป็นจำนวนมาก
เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสและ เทศกาลปีใหม่ ผมขออวยพรให้พี่น้องประชาชนตลอดจน แฟนคลับเฟซบุ้ค “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” จงประสบแต่ความสุขความเจริญ และได้รับแต่สิ่งดีๆ และหากประสบกับปัญหา ความเดือดร้อน ก็ขอให้ได้คลายความเดือดร้อนลง เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ใดก็ขอให้เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุก แต่อย่าประมาท ควรระมัดระวัง ป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคโควิด – 19 สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด และขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษกับโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน หากพี่น้องประชาชนมีปัญหาความเดือดร้อนใด ๆ แวะมาคุยกันได้นะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
