“ยะถา-สัพพี” ท้ายปี ๒๕๖๔ – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

วันนี้ “ศุกร์ ๓๑”
แถมเป็น ๓๑ ธันวาคม “วันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่”
เป็น “รหัสเลข” น่าคิด
เพราะปกติ คนจะมีทัศนคติต่อ “ศุกร์ ๑๓” ในทางลบ
แต่เมื่อพลิกกลับเป็น “ศุกร์ ๓๑” ก็หมายความว่า อะไรในทางลบ จะพลิกกลับเป็น “ทางบวก”!
ฉะนั้น เมื่อขึ้นปี ๒๕๖๕
คนที่ว่าเลว ที่ว่าโง่ ก็จะพลิกกลับเป็นคนฉลาด คนดี, ส่วนคนที่ว่าดี ที่ว่าฉลาด ก็พลิกกลับเป็นโง่

เรื่องโง่ เรื่องฉลาดนี่ …..
ผมเห็นเป็นคำประจำขบวนการสามนิ้วกับพรรคฝ่ายค้านร่วมขบวนการบางพรรค ที่ใช้กับ “นายกฯประยุทธ์” มาตลอดทั้งปี

ก็อยากจะบอกว่า คนที่เรียน “สมบัติผู้ดี” หรือคนบรรลุทางวุฒิภาวะ เขาจะไม่ใช้คำว่า “โง่” กับใครตรงๆ หรอก

ถ้าจะใช้ ….
เขาจะมีวิธีพูดเชิงแนะนำที่อีกฝ่ายฟังแล้ว นอกจากจะไม่โกรธ ยังจะขอบคุณซาบซึ้งด้วยซ้ำ เช่น “ควรทำอย่างนี้ดีกว่ามั้ย” เป็นต้น

ไม่ใช่จิกกะบาลใครตรงๆ ว่า “เอ็งโง่” โดยตัวเองก็บอกไม่ได้ว่า ต้องทำแบบไหนถึงเรียกว่า “ฉลาด”
นายกฯ ท่านไม่ไปตอบโต้ด้วย กับคนพรรค์นั้น เพราะในมงคล ๓๘ ประการ ข้อแรก บอกไว้เลย ว่า

“การไม่ส้องเสพเสวนากับคนพาล” เป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง

แล้วท่านจะไปแตะกับสิ่ง “อวมงคล” ให้เข้าทำนอง “เล่นกับหมา-หมาเลียปาก” ให้ปรสิตหมาโดดเกาะท่านเพื่ออะไร
คำว่า “คนพาล” ได้ยินกันทั่วไป

แล้วผู้ทรงเกียรติแสนฉลาดในพรรคเพื่อไทย ทราบมั้ย ว่า คนพาลคือคนแบบไหน?

ก็ฟังนะ……
มาจากคำว่า “อันธพาล” ซึ่งประกอบด้วยศัพท์ ๒ ศัพท์

“อันธะ” ศัพท์หนึ่ง แปลว่า ผู้มืดบอด, ผู้มองไม่เห็น, ผู้โง่ ผู้ทึบทางปัญญา
“อันธะ” นะครับ ไม่ใช่ “อัณฑะ” โปรดใช้ความฉลาดเรียนรู้

“พาละ” อีกศัพท์หนึ่ง แปลว่า “ผู้มีชีวิตอยู่เพียงหายใจเข้า-ออก”
สนธิตามหลักไวยากรณ์ อันธะกับพาละเข้าด้วยกัน เป็น “อันธพาล”

เมื่อรู้ถึงรากศัพท์อย่างนี้แล้ว ท่านผู้นำฝ่ายค้าน ลองแปลซิ “อันธพาล” แปลว่าอะไร?
รู้แล้วก็ไปบอกคนปากแจ๋วใต้ธงนำของท่านด้วย จะได้เป็นฝ่ายค้าน พ้นคำว่า “ผู้มีชีวิตอยู่เพียงหายใจเข้า-ออก” ไปวันๆ ซะที!

ก็เพื่อเป็นไปตามรหัส “ศุกร์ ๓๑” ไง
เพื่อเปลี่ยน “ผู้ทรงเกียรติอันธพาล” เป็น “บัณฑิตผู้ทรงเกียรติ” ให้สมราคา “สัปปายสภาสถาน”
ที่มูลค่าแสนล้าน แต่ราคาคนใช้ “ขี้หมากองเดียว” นั่นแหละ!

โลกพัฒนาก้าวหน้าด้วยวิทยาการถึงวันนี้ อะไรเป็นปัจจัยพื้นฐานหลัก ทราบมั้ย?
ไม่ทราบ ก็จะบอกให้นะจ๊ะ

มาจาก “ความโง่” โดยตรง เพราะโง่นั่นแหละ นำสู่การลองผิด-ลองถูก, การลองผิด-ลองถูก นำสู่การค้นหา, การค้นหา นำสู่การคิดค้น, การคิดค้น นำสู่การวิจัย-พัฒนา

และการ “วิจัย-พัฒนา” คือความโง่ต่อยอดเป็นความฉลาดระดับหนึ่ง ดังเป็นขณะนี้
ถ้าต้องการเห็นรูปธรรม “โง่ต่อยอด” ที่สร้างชาติด้วย “นวัตกรรมพัฒนา” ละก็

ไปที่ดู “วังจันทร์วัลเล่ย์” เมืองนวัตกรรมอัจฉริยะ ที่ระยองของปตท.ได้เลย ที่นั่นเป็นต้นแบบ
แล้วอีก ๕-๑๐ ปี ที่ด่า “ประยุทธ์โง่ ประยุทธ์ล้มเหลว”

โง่และล้มเหลวนั่นแหละ…….
จะพลิกประเทศสู่สังคมโลกศตวรรษใหม่ด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมระดับ New S-curve ในหลากหลายสาขา

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางยา เครื่องมือแพทย์ ทางอาหาร เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคน ในสาขา “ชีววิทยาศาสตร์”
บนรากฐานที่ว่าพลเอกประยุทธ์ล้มเหลว….

ไทย…โดยปตท.ของรัฐ ลงทุนข้ามสายพันธุ์พลังงาน ไปสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมทางยา บนฐานนวัตกรรม ขณะนี้
จะทำให้ไทยผงาดในอุตสาหกรรมทางยา “เทคโนโลยีชีวภาพ” อีกแห่งของโลก โดย “วิจัย-พัฒนา” เอง ทั้งยาสามัญ ยาประเภทชีววัตถุ เครื่องมือแพทย์ และฯลฯ

ที่เห็นๆ เรื่องวัคซีนต้านโรคระบาดโควิด จากปี ๒๕๖๕ เป็นต้นไป ประเทศไทย โดยจุฬาฯ โดยมหิดล โดยองค์การเภสัช โดยไบโอเทค

จะผลิตวัคซีน “วิจัย-พัฒนา” เอง ออกใช้ในประเทศ ทำให้ไทยเป็นประเทศ “วิจัย-พัฒนา” และผลิตวัคซีน อีกแห่งของโลก

นี่ถ้า “เพื่อไทย” เป็นรัฐบาล ในช่วงโควิดระบาด ด้วยความฉลาดของท่านผู้ทรงเกียรติอันธพาล
จะล้มเหลวในผลงานทางบริหารปัญหาโควิด ได้สัก เศษ ๑ ส่วน ๑๐ ในความล้มเหลวของนายกฯ ประยุทธ์หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจนะ

เพราะคำว่า “เอาอยู่ค่ะ” ตอนน้ำก้อนใหญ่ถล่มกรุงของนายกฯ หญิงเพื่อไทยที่ฉลาดและมีผลงานครั้งนั้น ๖,๐๐๐ บาท ค่าซื้อเรือพายจากถนนเข้าบ้านของผม ขอเบิกย้อนหลังกับนายกฯ มีผลงานได้มั้ย?

เรือหลักฐานยังตากแห้งอยู่ที่บ้าน พร้อมเผชิญสืบนะ!
“คนฉลาด” เขาจะไม่ไปชี้หน้าคนอื่นว่า “โง่”

เพราะการทำอย่างนั้น มันประจานตัวเองว่าเป็น “ไอ้โง่ผสมงั่ง” ที่อวดฉลาดอันไม่มีในตัวเลย
ส่วน “คนฉลาด” นั้น เขาจะ “แสร้งโง่” กับพวก “โง่แล้วอวดฉลาด” จะฟังทุกเรื่อง คิดทุกเรื่อง แต่จะไม่พูดทุกเรื่องที่คิด
และ “ไม่ทำ” ในเรื่องที่ฟังมาจากพวก “โง่อวดฉลาด”

“ไอน์สไตน์” ยังบอกว่าตัวเขาโง่
แต่พวกสามนิ้ว “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” พวกฝ่ายแค้นระบอบทักษิณ “แนวร่วม” สามนิ้ว

กลับยกตัวว่าพวกเขาฉลาด ปล่อยให้ประยุทธ์บริหารประเทศต่อไป จะพากันตายหมดทั้่งประเทศ เศรษฐกิจล้มเหลว
แต่ US. News & World Report สำนักข่าวจากสหรัฐอเมริกา

เผยผลการจัดอันดับประเทศที่ “เหมาะสมกับการเริ่มต้นธุรกิจ” มากที่สุดในโลก ประจำปี 2563 หรือ Best Countries to Start a Business 2020 พบว่า

ประเทศไทย ติดอันดับ ๑ ของโลก….
ประเทศ “ที่ดีสุด” ในการเริ่มต้นธุรกิจ จากทั้งหมด ๗๓ ประเทศ โดย ๑๐ ประเทศ “อันดับรอง” ลงมา ก็มี

อันดับ ๒ มาเลเซีย อันดับ ๓ จีน อันดับ ๔ สิงคโปร์ อันดับ ๕ อินเดีย อันดับ ๖ ฟิลิปปินส์
อันดับ ๗ เม็กซิโก อันดับ ๘ สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ ๙ อินโดนีเชีย และ อันดับ ๑๐ แคนาดา

ขณะที่ “เวียดนาม” อยู่อันดับ ๑๒ เกาหลีใต้เอง ยังอันดับที่ ๒๓ ด้วยซ้ำ
นอกจากเหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจแล้ว ผลสำรวจยังออกมาว่า “ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมกับการลงทุนมากที่สุด” หรือ Best Countries to Invest In

เป็นอันดับ ๒ ของโลก!

โดยโครเอเชีย ติดอันดับ ๑ อันดับ ๔ อินโดนีเซีย ส่วนเวียดนามอยู่อันดับ ๘ และสิงคโปร์ อันดับ ๑๐

ไปดูด้าน “ทุนสำรองระหว่างประเทศ” บ้าง ดูซิว่า นายกฯที่บอกว่าล้มเหลว ทำเศรษฐกิจพัง บริหารไม่เป็น ในขณะที่เศรษฐกิจพังกันทั้งโลก แล้วไทยพังเหมือนเขามั้ย? “ธนาคารแห่งประเทศไทย” แถลงถึง “ทุนสำรองระหว่างประเทศ” ณ เดือน ต.ค.๖๔ ปรากฎว่า

เพิ่มขึ้นหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ที่ ๒๔๖,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ๘.๑๗ ล้านล้านบาท
สูงเป็นอันดับที่ ๑๒ ของโลก ในจำนวนทั้งหมด ๑๙๔ ประเทศ!

ในอาเซียน อันดับเหนือไทยมี “สิงคโปร์” ประเทศเดียว
ด้วยทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่อันดับที่ ๑๐ จำนวน ๓๘๕,๗๐๘ ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกนั้น อันดับที่ ๒๒ อินโดฯ ที่ ๒๓ ฟิลิปปินส์ ที่ ๒๔ มาเลเซีย ที่ ๒๖ เวียตนาม ๘๙,๓๕๕ ล้านเหรียญสหรัฐ และ
๖๒ กัมพูชา ๒๐,๘๑๖ ล้านเหรียญสหรัฐ

ฝ่ายแค้นก็เอาแต่ตะโกนเช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ นอนก็ยังละเมอ “สะกดจิตกันเอง”

“ประยุทธ์บริหารไม่เป็น ประยุทธ์ล้มเหลว เศรษฐกิจพังหมด ประยุทธ์ทำประเทศฉิบหาย-ล่มจม”

แล้วนี่ ตัวเลขมันตอแหล กระล่อนปล้อนปลิ้นไม่ได้ จะๆ แจ้งๆ อย่างนี้

ใครโง่ ใครฉลาด ใครเลว ใครดี ใครบริหารล้มเหลว ใครปั้นข้อมูลเท็จหวังโค่นล้มรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมืองเพื่อเข้าไปกินเมือง?

คนฉลาดน่ะ….
จะไม่เป็น “ขี้ข้าโจร” เห่าในสภาเพื่อล่มชาติหรอก จริงมั้ย?



Written By
More from plew
อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ
วันนี้ “๒๔ กันยา.๖๓” มีเรื่องสนุกหลายเรื่อง! คดี “นายวัฒนา เมืองสุข” ก็ตัดสินวันนี้ ประชุมรัฐสภา แก้รัฐธรรมนูญ ก็วันนี้ พวกเทียมแอก-เทียมไถคณะสามสัส...
Read More
0 replies on ““ยะถา-สัพพี” ท้ายปี ๒๕๖๔ – เปลว สีเงิน”